ปัญหาใหญ่ของพ่อแม่ผู้ปกครองใจยุคดิจิทัล ที่หลายคนอาจจะไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จนต้องปล่อยให้ลูกอยู่กับจอมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์มากเกินไป กลายเป็นเป็นปัญหาลูกติดจอ ติดเกม ปัญหานี้จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ของเด็กในอนาคต
วันที่ 27 ม.ค. 67 รศ.นพ.ศิริไชย หงษ์สงวนศรี จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าว่า ปัญหาเด็กติดจอมีหลากหลายรูปแบบ โดยเด็กมักจะหมกมุ่นอยู่กับเกม โลกโซเชียลมีเดีย ถ้าหากมีคนมาห้ามหรือขัดขวางเด็กจะเกิดอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง สถิติในปัจจุบันเด็กจะเล่นเกม 3-4 ชั่วโมงต่อวัน และอยู่กับหน้าจอเฉลี่ยถึง 6-7 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งจะทำให้เด็กขาดพัฒนาการทางสังคม นอกจากนี้เกมที่มีความรุนแรงก็ทำให้เด็กมีพฤติกรรมรุนแรงตามไปด้วย
อาจารย์ธิดา พิทักษ์สินสุข (ครูหวาน) นายกสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย เตือนผู้ปกครองว่า การให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ จะต้องมีการจำกัดระยะเวลาในการเล่น เพื่อป้องกันปัญหาเด็กติดจอ โดยเฉพาะเด็กก่อนวัย 2 ขวบ ยิ่งไม่ควรให้เข้าใกล้จอ ถ้าหากไม่คอยควบคุมก็อาจทำให้ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กในระยะยาว ซึ่งจะแก้ไขได้ยากในอนาคต
คุณบี กมลาสน์ เอียดศรีชาย คุณแม่ที่ประสบปัญหาลูกๆ ติดจอ เล่าว่า จากประสบการณ์ของตน ขณะที่ลูกชายอายุ 2 ขวบ ตนเลี้ยงลูกโดยให้อยู่กับจอมาตั้งแต่แรก และไม่ค่อยได้ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทำงานหนักและมีลูกเล็กอีกคน จึงปล่อยให้ลูกชายอยู่กับญาติผู้ใหญ่ จนสุดท้ายตนสังเกตเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมที่ไม่ปกติ ไม่พูด ไม่สบตา ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่
เชื่อว่าลูกมีปัญหาด้านพัฒนาการจึงตัดสินใจไปหาหมอ ได้รับคำแนะนำว่าควรให้ลูกอยู่กับคนมากกว่าจอมือถือหรือสิ่งของ เพราะจะทำให้เด็กไม่รู้ว่าใครคือพ่อแม่ของเขา ตนต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าลูกจะกลับมาเป็นปกติ และอยากให้เรื่องราวของลูกเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนที่กำลังจะมีลูก
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม