“พิธา” ประกาศลั่น ! “ผมกลับมาแล้ว” เตรียมเดินหน้าซักฟอกรัฐบาล | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

316 ครั้ง

26 ม.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พิธา อภิปรายในสภาครั้งแรก พร้อมประกาศลั่น ผมกลับมาแล้ว หลังจากนี้เตรียมเดินหน้าซักฟอกรัฐบาล

พิธา กางแผนงานก้าวไกล พร้อมยื่นซักฟอกรัฐบาล

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนการทำงานของพรรค โดยระบุช่วงหนึ่งว่า เป้าหมาย 6 บิ๊กแบง (Big Bang) ที่จะทำให้ประชาชนได้เห็นในแบบฉบับก้าวไกล คือ 1.ประชาธิปไตยเต็มใบ 2.ยกระดับคุณภาพชีวิต 3.หยุดแช่แข็งชนบทไทย 4.ปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ 5.เรียนรู้ทันโลก และ 6.เติบโตแบบมีคุณภาพ

โดยมี 4 ปัจจัยที่จะนำไปปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดความสัมฤทธิผล เช่น ปัจจัยเรื่องกฎหมาย ที่มีการผลักดันกฎหมาย 47 ฉบับ อย่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หรือ พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและมลพิษข้ามแดน เป็นต้น ปัจจัยเรื่องแผนปฏิบัติการ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีประธานคณะกรรมาธิการ 8 คน ปัจจัยเรื่องงบประมาณ ต้องภารกิจนำ ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ชาตินำ และปัจจัยบุคลากร

ส่วนหมุดหมายสำคัญของพรรคในปีนี้ ช่วงเดือนเมษายน หลังเทศกาลสงกรานต์ จะเริ่มคิดถึงการอภิปรายทั่วไป หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ซึ่งประเด็นนี้ ผู้สื่อข่าวถามจี้ว่า ตอนนี้มุมมองต่อกระบวนการตรวจสอบพรรคก้าวไกลค่อนข้างอ่อนแอลงหรือไม่ หลังพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร นายพิธา ตอบว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพรรคยังทำงานอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดิม แต่นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว หัวข้อใหญ่ที่จะเน้นอภิปราย คือ ความล้มเหลวในการบริหาร การประพฤติมิชอบ คอร์รัปชัน และการทำงานช้า ไม่ตรงกับความท้าทายของศักยภาพประเทศ

พิธา ทำท่าส่งมินิฮาร์ต ระหว่างประชุมสภา

จากนั้น นายพิธา ได้เดินเข้าไปยังห้องประชุมสภา โดยจังหวะที่เดินเข้าไป เจ้าตัวได้ทำท่ามือเป็นสัญลักษณ์ Mini Heart ให้กับกลุ่มนักศึกษา ที่เดินทางมาศึกษาดูงานที่อาคารรัฐสภา

พิธา ประกาศลั่น ผมกลับมาแล้ว

โดยระหว่างการประชุมสภา เรื่องพิจารณาญัตติขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เรื่องบริหารจัดการขยะ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น นายพิธา ได้ลุกขึ้นอภิปราย แต่ก่อนจะอภิปรายเข้าเรื่องขยะ ได้พูดขึ้นว่า ผมกลับมาแล้วครับท่านประธาน อาจเป็นเวลานานถึง 6 เดือน ที่ไม่ได้มีโอกาสเข้ามาอภิปรายปัญหาในสภาแห่งนี้ แม้กระทั่งเสียบบัตรก็ยังไม่ได้ทำ แต่โชคดีที่ยังมีบัตรสำรอง ให้มีโอกาสได้มาพูดถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอีกครั้ง

ก่อนที่ นายพิธา จะเริ่มอภิปราย โดยระบุบางช่วงว่า จากการลงพื้นที่บ่อขยะตำบลแพรกษาใหม่ จังหวัดสมุทรปราการ และบ่อขยะเทศบาลนครภูเก็ต เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ทำให้พบว่าผลกระทบจากการกำจัดขยะไม่หมด กระทบต่อสุขภาพประชาชน และมีความเสี่ยงอัคคีภัยอย่างมาก

ทั้งหมดเป็นแค่ภาพจุลภาคที่เห็นได้ในท้องถิ่น ทำให้ตนเองรู้สึกสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษว่า ถ้าเป็นในระดับชาติ มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ควรจะจับประเด็นระดับประเทศอย่างไร เพราะการจัดการขยะจะมองเป็นจุด ๆ ไม่ได้ ต้องมองเป็นโซ่มูลค่า ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางของการบริหารจัดการขยะ และหนึ่งในข้อเสนอของตนเอง คือ เพิ่มงบประมาณในการจัดการขยะ เพราะงบปีนี้มีแค่ 1.8 พันล้านบาท ต้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 20 เท่า ถึงจะแก้ปัญหาได้

ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองอื่น ๆ ที่น่าสนใจ วันนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยคดีละเมิดอำนาจศาล กรณี น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง กระทบกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กระบองเหล็กตีเข้าบริเวณข้อศอก จนได้รับบาดเจ็บ

โดย นายกฤษฎางค์ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า คดีนี้ศาลเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำไปตามหน้าที่ แม้ตัว น.ส.เนติพร ไม่ได้ปีนเข้าไป แต่ไปกระชากคอเสื้อ ทำให้เจ้าหน้าที่ศีรษะกระแทก ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล ลงโทษจำคุก 1 เดือน โดย น.ส.เนติพร แจ้งว่าจะไม่ยื่นประกันตัวใหม่ หรือขออุทธรณ์ในวันนี้

ส่วน น.ส.หยก เยาวชนที่ปีนรั้วเข้าไปในศาล เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ศาลจึงให้ตักเตือน แต่เนื่องจากวันนี้ไม่ได้มาศาล ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาที่ให้ตักเตือน

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35