“พิธา” รอด ! ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ “ไอทีวี” ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไอทีวี สิ้นสภาพสื่อมวลชน ตั้งแต่สำนักปลัดสำนักนายกฯ บอกเลิกสัญญา ส่งผลให้ นายพิธา ไม่สิ้นสภาพความเป็น สส.

 

เป็นประเด็นที่คอการเมืองให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย คดีถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าจะทำให้สมาชิกภาพ สส. ของเจ้าตัวสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

โดยบรรยากาศบริเวณหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กลุ่มแฟนคลับพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาให้กำลังใจ นายพิธา ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีส้ม บางคนสวมหน้ากากเป็นหน้านายพิธา พร้อมชูป้ายข้อความ อยากเห็น กกต.ออกสื่อ itv หรือ itv กดช่องอะไรคะ ? ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

ขณะที่ นายพิธา พร้อม นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ในเวลา 12.45 น. โดย นายพิธา มั่นใจว่า จะไม่ซ้ำรอยกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะบริษัทไอทีวี ทาง กสทช. ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีคลื่นความถี่ ไม่สามารถกลับมาทำธุรกิจได้ ที่สำคัญตนเองได้โอนหุ้นให้น้องชายไปแล้ว

 

กระทั่งเวลา 14.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ระบุว่า ศาลไม่ได้ล่าช้า และการแสดงความคิดเห็นของผู้ถูกร้องเกี่ยวกับคดีในสื่อต่าง ๆ ถือว่าไม่สมควร และไม่เหมาะสม เพราะการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะบวกหรือลบก่อนศาลวินิจฉัย อาจเป็นการชี้นำ กดดันศาล ฉะนั้นการกระทำอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสม และขอเตือนไว้ด้วย

 

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอวินิจฉัยได้ มีประเด็นพิจารณาว่าสมาชิกภาพ สส. ของ นายพิธา สิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ เมื่อพิจารณาจากข้อพิรุธหลายประการ ฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องโอนหุ้นดังกล่าวจริง ถือว่าถือหุ้นไอทีวีอยู่ในวันที่พรรคก้าวไกลยื่นบัญชีรายชื่อต่อ กกต. ในฐานะผู้ร้อง

 

จึงต้องมีข้อพิจารณาต่อไปว่า ไอทีวีประกอบกิจการสื่อสารมวลชนหรือไม่ จากการไต่สวนฟังได้ว่า ไอทีวีไม่มีสิทธิประกอบกิจการโทรทัศน์ตามกฎหมายตั้งแต่ 7 มีนาคม 2550 แต่ที่ยังคงสถานะเดิม เพื่อดำเนินคดีในชั้นศาลเท่านั้น นอกจากนี้ ไม่ปรากฏว่าบริษัทมีรายได้จากกิจการสื่อมวลชน แต่มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรัฐ ตั้งแต่สำนักปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) บอกเลิกสัญญาจนถึงปัจจุบัน ไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชน และไม่ปรากฏหลักฐานมีใบอนุญาตจดแจ้งการพิมพ์ และประกอบการกิจการโทรทัศน์ ดังนั้น วันที่ผู้ถูกร้องสมัคร สส. ไอทีวีมิได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อใด ๆ การถือหุ้นของผู้ถูกร้อง จึงไม่ทำให้มีลักษณะต้องห้ามสมัคร สส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) อาศัยเหตุผลดังกล่าว วินิจฉัยว่า ความเป็น สส. ของผู้ถูกร้อง ไม่สิ้นสุดลงตาม ม.101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก (8:1)