“บิ๊กต่อ” ผนึกกำลัง “บิ๊กโจ๊ก” สางคดีป้าบัวผัน ซ้อมทรมานลุงเปี๊ยก | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

419 ครั้ง

19 ม.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คงไม่มีใครคิดฝันว่า คดีการเสียชีวิตของป้าบัวผัน จะนำมาสู่เรื่องฉาวโฉ่ได้ขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจับคนร้ายผิดตัว ซึ่งจนถึงตอนนี้ ยังไม่แน่ว่าจงใจหรือทำงานพลาด รวมถึงวิธีการสอบสวนลุงเปี๊ยก ที่ตำรวจใช้วิธีบีบเค้นขู่เข็ญแบบโบราณ ทั้งการให้ถอดเสื้ออยู่ในห้องแอร์ที่หนาวเย็น และการใช้ถุงดำคลุมหัว ความฉาวโฉ่เหล่านี้ ทำให้วันนี้ บิ๊กต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการแห่งชาติ ผนึกกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสะสางเรื่องนี้

บิ๊กต่อ ผนึกกำลัง บิ๊กโจ๊ก สางคดีป้าบัวผัน ซ้อมทรมานลุงเปี๊ยก

เรื่องราวบานปลายใหญ่ขนาดนี้ และกระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อตำรวจ ทำให้ 2 ผู้นำองค์กร คือ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องเดินทางด่วนลงพื้นที่สระแก้ว เพื่อสะสางเรื่องฉาวโฉ่ โดยเฉพาะกรณีตำรวจทรมานลุงเปี๊ยกให้รับสารภาพ โดย พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เพิ่งจะลงพื้นที่เป็นครั้งแรก ส่วนบิ๊กโจ๊ก มาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งหลังจากเดินทางมาถึง เข้าประชุมทันทีที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ถ้ามีรายละเอียดตรงนี้จะรายงานให้ทราบทันที

แต่ว่าก่อนหน้าเดินทางมาที่สระแก้ว ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการไปรับฟังข้อเท็จจริงกรณีเยาวชนกลุ่มนี้ ตลอดจนเยาวชนในแก๊งรายอื่น ที่ก่อความรุนแรงสะสมมานานหลายคดี ซึ่งจะต้องไล่ตรวจสอบย้อนหลังในทุกคดีทั้งหมดที่มีเบาะแส และเชิญผู้เสียหายแต่ละคดีมาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน แม้จะเป็นคดีเก่าที่เกิดนานแล้ว

ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจ ที่บังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพนั้น จะต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อนที่จะมีการชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบ โดยเฉพาะประเด็นคลิปเสียงการสนทนาของชายที่คาดว่าเป็นตำรวจยศพันตำรวจตรี และ พันตำรวจโท รวมถึงดาบตำรวจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นคลิปจริงหรือไม่ หรือมีการตัดต่อบิดเบือนคลิปเสียง

ซึ่งจะต้องเรียกบุคคลที่คาดว่าเป็นเจ้าของเสียงมาสอบปากคำว่าพูดจริงหรือไม่ และเมื่อทราบเรื่องแล้วเหตุใดจึงไม่ดำเนินการกับตำรวจที่กระทำความผิด พร้อมยืนยันว่า หากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัย ส่วนจะมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกี่รายนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยมอบหมายให้ พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการสอบวินัยตำรวจทั้งหมด ส่วนของคดีอาญาทั้งหมด ก็ได้มอบหมายให้ พลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบการสอบสวน

ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก บอกว่า จากการตรวจสอบพฤติกรรมการก่อเหตุของกลุ่มเยาวชน พบว่ามีคดีค้างเก่าไม่น้อยกว่า 5-6 คดี ทั้งคดีกระทำชำเรา รุมโทรมหญิง ทำร้ายร่างกาย แต่ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ก่อเหตุเลย ซึ่งตอนนี้คณะทำงานพบผู้เสียหายแล้ว และจะต้องเชิญผู้เสียหายทั้งหมดมาให้ข้อมูล แม้คดีจะผ่านมานานแล้วก็ตาม รวมทั้งจะต้องเชิญผู้กำกับ และหัวหน้าชุดทำคดีทั้งหมดมาสอบถามถึงปัญหาว่าคดีติดขัดเรื่องใด เหตุใดจึงไม่มีความคืบหน้า เพื่อจะเร่งรัดดำเนินคดีเพิ่มเติมกับเยาวชนทั้ง 5 คน นอกเหนือจากคดีฆาตกรรมป้ากบ ยืนยันคดีทั้งหมดผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรม

ส่วนคลิปเสียงที่หลุดออกมาเพิ่มเติมนั้น ตนเองได้ฟังแล้วเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริง แต่หากมีการตัดต่อก็สามารถตรวจสอบได้ และการที่พนักงานสอบสวนร้องอุทานตกใจ เมื่อทราบว่าจับผิดตัว และเอาลุงเปี๊ยกไปฝากขัง เหมือนเอาคนไม่ผิดเข้าคุก ก็ต้องให้ความเป็นธรรม

ไปดูว่าพนักงานสอบสวนรีบแก้ไข รีบทำหนังสือถึงศาล เพื่อให้ปล่อยตัวลุงเปี๊ยกออกมาโดยเร็วหรือไม่ โดยเรื่องนี้ต้องทำให้เร็ว ให้ได้ความชัดเจนว่าใครผิด และจะต้องเอาออกทันที ไม่ปล่อยเวลาเนิ่นนานไปถึง 5-6 วัน โดยไม่มีความคืบหน้า รองผู้กำกับการ ที่ยอมรับว่ารู้เหตุการณ์คลุมหัวจริง ก็ต้องดำเนินคดี ส่วนใครรับรู้อีก ก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง

พร้อมยอมรับเหนื่อยใจกับพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกิดขึ้น ที่เมื่อกระทำผิดแล้วพยายามปกปิด รายงานข้อเท็จจริงไม่ครบ หรือปิดบังเรื่องการสอบสวนที่ผิดพลาด เช่น มีการไปกระทืบลุง จับกุมผิดตัว กลัวผู้บังคับบัญชารู้ กลัวจะถูกเล่นงาน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือลูกตำรวจ ซึ่งทั้งหมดทำให้ตนเองต้องมารู้เรื่องราวจากสื่อมวลชน

ส่วน พลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีบุคคลบางกลุ่มได้รับคลิปวงจรปิด และสั่งให้เจ้าของกล้องวงจรปิดลบคลิปต้นฉบับเพื่อหวังผลประโยชน์ ว่า เป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบ และพิจารณาในรายละเอียดก่อน แต่หากพบว่ามีใครเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ โดยจะเน้นทำคดีหลักก่อน

แยก 2 เยาวชนแก๊งลูกตำรวจ คุมตัวสถานพินิจฯ ระยอง

ในส่วนของผู้ต้องหา ที่เป็นเยาวชนทั้ง 5 คนนั้น จะมีการแยกไปคุมตัวไว้ในที่ต่าง ๆ โดย 2 คน ที่เป็นลูกตำรวจ จะส่งไปควบคุมตัวไว้ที่สถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง คือ เด็กชายเชน อายุ 14 ปี และ เด็กชายกั๊ด อายุ 13 ปี

ส่วนอีก 3 คน แยกไปคุมตัวที่สถานพินิจฯ จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว คือ เด็กชายแบงค์ อายุ 13 ปี เด็กชายโก๊ะ อายุ 14 ปี และ เด็กชายบิ๊ก อายุ 16 ปี ซึ่งเมื่อเช้า คณะกรรมการสถานพินิจฯ เข้าร่วมรับฟังและพูดคุยเพื่อสังเกตการณ์เยาวชนทั้ง 2 คน พบว่าช่วงระหว่างการสนทนากับเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ ให้ข้อมูลถึงสาเหตุที่ทำไปและบอกว่า อยากกลับบ้าน และอยากจะบอกขอโทษกับสังคม ด้านสถานพินิจฯ จังหวัดระยอง เตรียมพร้อมรับเยาวชนทั้ง 2 คน ซึ่งจะถูกส่งตัวมา หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับเยาวชนกลุ่มนี้ก่อน

เผยจับอีก 3 คน สมาชิกแก๊งลูกตำรวจ

ส่วนสมาชิกแก๊งคนอื่น ๆ ของแก๊งลูกตำรวจ ล่าสุด เพจของกัน จอมพลัง โพสต์ข้อความว่าตำรวจจับสมาชิกแก๊งนี้ได้อีก 3 คน หลังจากที่พากันไปปาระเบิดบ้านพยานของกัน จอมพลัง โดยเนื้อหาระบุว่า อย่าลองของ ตำรวจรวบแก๊งทะลุถุงยาง 3 คน บุกปาระเบิดหน้าบ้านพยานผมตอนกลางคืน ผมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ แปปเดียวโดนรวบ ตอนทำอย่างเก่งตอนถูกจับอย่างหงอย ไอ้คนอื่นในแก๊งดูไว้ เลือกฝั่งผิดชีวิตเปลี่ยน แล้วต่อไปคิวพวกมึง ขอชื่นชมตำรวจ สภ.คลองน้ำใส ทำงานเร็วมากครับ ต้องอย่างนี้ ตอนนี้ผมกำลังไป สภ.คลองน้ำใส ครับ

เผาศพ ป้าบัวผัน พรุ่งนี้ หลังได้ตัวคนทำผิดมาลงโทษ

ส่วนร่างไร้วิญญาณของป้าบัวผัน ซึ่งตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์หนองน้ำใส อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ญาติของป้าบัวผัน บอกว่า พรุ่งนี้จะมีพิธีฌาปนกิจป้าบัวผัน เพราะเมื่อป้าบัวผันได้รับความเป็นธรรมกับการเสียชีวิต และนำตัวคนทำผิดมาลงโทษได้ ญาติก็จะเผาศพ เพื่อให้ดวงวิญญาณของป้าบัวผันไปสู่สุคติ ทางญาติได้ทำดีที่สุดแล้ว คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ และฝากไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ให้ดำเนินคดีกลุ่มคนเหล่านี้ให้ได้รับโทษสูงสุด

มอบ ผบช.ภ.2 สอบทุกคดีป้าบัวผัน พรุ่งนี้รู้ผลซ้อมทรมานลุงเปี๊ยก

หลังการประชุม บิ๊กต่อ ผบ.ตร. บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงร่วมกัน โดย ผบ.ตร. กล่าวว่า นายกฯ สั่งการมาตั้งแต่วันก่อน เพื่อให้สะสางคดีนี้ มีหลายอย่างเป็นที่สงสัย ซึ่งวันนี้มาเพื่อทำให้คดีนี้ เป็นคดีที่โปร่งใสที่สุด ทำให้ถูกต้อง ได้เชิญฝ่ายปกครอง สถานพินิจฯ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาทำงานร่วมงานกันด้วย โดยเฉพาะเรื่องการที่ตำรวจทำมิชอบ ใครผิดต้องว่าไปตามผิด ไม่มีละเว้น

ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า การดำเนินการหลังจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะดำเนินการสอบสวนขยายผลทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ผู้บัญชาการภาค 2 จะดำเนินการให้เสร็จสิ้น และจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบในวันพรุ่งนี้

พรุ่งนี้ แถลงผลสอบทรมานลุงเปี๊ยก

ส่วน พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงการทรมานลุงเปี๊ยกให้รับสารภาพ ซึ่งกำหนดเวลาไว้ 3 วัน พรุ่งนี้รู้ผล จะแถลงผลการสอบสวนช่วง 11.30 น. ผบช.ภาค 2 ยังเล่าถึงการทำงานในวันเจอศพป้าบัวผัน ว่า แบ่งการทำงานเป็น 2 ทีม ชุดหนึ่งหาตัวผู้เกี่ยวข้องหาตัวผู้ใกล้ชิดผู้ตายคือลุงเปี๊ยก อีกทีมไปไล่พยานหลักฐาน เช่นกล้องวงจรปิด เพราะฉะนั้นดาบเศกที่ทำ ก็ทำโดยคำสั่งผู้บังคับบัญชา ส่วนคลิปของตำรวจที่พูดคุยกันที่ถูกเปิดเผย เป็นคลิปที่ชุดทำงานอัดการโทร.อัตโนมัติไว้ตลอด ซึ่งคลิปนี้ถูกส่งให้คณะสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่วันแรกแล้ว

แจงคลิปเสียงตำรวจเป็นของจริง ส่งให้คณะกรรมการสอบฯ ไม่รู้หลุดได้อย่างไร

ขณะที่ พลตำรวจตรี ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวเสริมในประเด็นคลิปตำรวจคุยกันตอนรู้ว่าเป็นการจับผิดตัวหลังเห็นคลิปวีดีโอ ว่า เมื่อวานได้คุยกับสารวัตรสืบสวนเจ้าของคลิปเสียงว่า คลิปดังกล่าวได้มาอย่างไร ซึ่งเขาอกว่า อัดการโทรอัตโนมัติไว้ ส่วนไปถึงสื่อมวลชนได้อย่างไรเขาไม่ทราบ โดยเป็นคลิปจริงที่เขารู้และตกใจตอนที่ลูกน้องเห็นคลิปวงจรปิด ซึ่งคลิปนี้สารวัตรสืบสวนได้ใช้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่รู้ว่าหลุดไปถึงสื่อมวลชนได้อย่างไร ซึ่งสื่อมวลชนมีสิทธิ์สงสัยทำขึ้นมาเพื่ออะไร

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35