งามไส้ ! “ตำรวจขาเป๋” ใช้ถุงดำคลุมหัว “ลุงเปี๊ยก” บีบสารภาพฆ่า “ป้าบัวฝัน” | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีที่มีการแฉว่า ลุงเปี๊ยกถูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศบีบบังคับให้รับสารภาพ ตอนนี้มีหลักฐานออกมาชัดเจนมากขึ้น ทั้งคลิปเสียงที่ตำรวจยอมรับว่าใช้ถุงดำ โดยบอกว่าแค่หยอกเล่น รวมถึงไทม์ไลน์ที่ผิดปกติ ทำให้เรื่องนี้ต้องติดตาม การทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

บิ๊กโจ๊ก เผย ลุงเปี๊ยก รับตำรวจขาเป๋ใช้ถุงดำคลุมหัว

เมื่อวานนี้ 18 มกราคม บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี เพื่อไปฟังการสอบสวนลุงเปี๊ยก หรือนายปัญญา คงแสนคำ ใหม่อีกรอบ หลังจากที่เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้วพาลุงเปี๊ยกมาอยู่บ้านพักบำบัดผู้ติดสุราเรื้อรังที่นี่

 

โดยบิ๊กโจ๊กเปิดเผยภายหลังรับฟังผลการสอบปากคำลุงเปี๊ยกว่า คณะทำงานได้นำรูปถ่ายปัจจุบันของตำรวจ สภ.อรัญประเทศทุกนายให้ลุงเปี๊ยกชี้ตัว ลุงเปี๊ยกยืนยันตัวตำรวจพิการที่ขา 1 นาย ยศชั้นประทวน ซึ่งเป็น 1 ในชุดสืบสวน ซึ่งบังคับให้ลุงเปี๊ยก ถอดเสื้อในห้องแอร์ให้หนาวเย็น เอาถุงคลุมศีรษะ และควบคุมตัวโดยมิชอบนานถึง 9 ชั่วโมง เพื่อบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพว่าฆ่าป้าบัวผัน ด้วยความทรมานและเหนื่อยล้า ลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพ ก่อนถูกบังคับไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ แต่ลุงเปี๊ยกยืนยันว่าไม่มีการล่ามโซ่

 

บิ๊กโจ๊กบอกว่า ถึงตอนนี้ ยืนยันได้ว่ามีตำรวจที่กระทำผิด 1 นายก่อน เพราะลุงเปี๊ยกยืนยันตำรวจนายนี้นายเดียว ซึ่งจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ส่วนความผิดทางวินัยมีโทษถึงขั้นให้ออก และตอนนี้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีตำรวจนายอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะจากคลิปเสียงของรองผู้กำกับการนายหนึ่งพูดในลักษณะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่รู้ขณะทรมานลุงเปี๊ยกหรือไม่ ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม หากรู้ตอนทรมานจริงจะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด แต่หากรู้ภายหลังแต่ไม่ลงโทษตำรวจที่ก่อเหตุ ก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องรอขยายผลสอบปากคำชุดสืบสวนทั้งหมดด้วย

 

บิ๊กโจ๊กบอกว่า เบื้องต้นลุงเปี๊ยกบอกว่า สารวัตรและรองผู้กำกับการไม่ได้อยู่ในห้องที่ถูกทรมาน และทั้ง 2 คนก็พูดจากับลุงเปี๊ยกเป็นอย่างดี จึงไม่ติดใจ ส่วนที่เหลืออีก 1 คนเพียงสับเปลี่ยนเวรและเฝ้าด้านนอกเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วม ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำลุงเปี๊ยกเสร็จแล้ว ลุงเปี๊ยกก็มีความสบายใจขึ้นและไม่กลัวตำรวจแล้ว และไม่จำเป็นต้องพาตัวลุงเปี๊ยกไปชี้ตัวตำรวจที่ สภ.อรัญประเทศแล้ว

 

เรียกสอบเข้มชุดจับกุม ลุงเปี๊ยก บังคับสารภาพ

ส่วนกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเริ่มแล้วเมื่อวานนี้ เริ่มจากการสอบปากคำเจ้าของเสียงที่อยู่ในคลิป ที่มีตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับสืบสวน สภ.อรัญประเทศ และตำรวจที่ถูกกล่าวอ้างถึงว่าเป็นคนใช้ถุงดำวางบนศีรษะของลุงเปี๊ยก ส่วนเจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน ก็ถูกเรียกมาสอบปากคำด้วย เพราะเป็นเจ้าของคลิปเสียงและเป็นต้นทางของข้อมูลทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบคลิปการสอบปากคำลุงเปี๊ยก ยังไม่พบว่าใช้ถุงดำวางหรือคลุมศีรษะลุงเปี๊ยกหรือการทรมานด้วยวิธีอื่นใด แต่จะเกิดเหตุที่อื่นหรือไม่จะตรวจสอบอีกครั้ง

 

ต่อมาคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เรียกตัวตำรวจที่ถูกกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับการใช้ถุงดำคลุมหัว ซ้อมลุงเปี๊ยกมาสอบสวน โดยหนึ่งในตำรวจที่ถูกเรียกไปสอบ คือดาบตำรวจ ภิเศก พวงมาลีประดับ หรือดาบเศก ผู้บังคับหมู่สืบสวน สภ.อรัญประเทศ ตำรวจขาพิการที่ลุงเปี๊ยกพูดถึงและให้การว่า เป็นคนนำถุงดำเข้ามาในห้องและสั่งให้ลุงเปี๊ยกถอดเสื้อ ขณะสอบปากคำ จากนั้นตำรวจได้พาตัวดาบเศกออกจากห้องประชุม โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากกรูเข้าไปสอบถาม แต่ดาบเศก ไม่ตอบคำถามใด ๆ กระทั่งก่อนขึ้นรถ ได้พูดเบา ๆ ว่า ชี้แจงไปกับ พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 ไปแล้วทั้งหมด

 

เด้ง ผกก.สภ.อรัญประเทศ เซ่นคลิปเสียงลูกน้อง

จากปมคลิปเสียงบังคับลุงเปี๊ยกให้รับสารภาพ ก่อนหน้านี้ พลตำรวจตรี ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพิ่งลงนามคำสั่งย้าย พันตำรวจโท พิชิต วัฒโน รองผู้กำกับสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ไปช่วยราชการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ล่าสุดเมื่อวานนี้ ผู้กำกับก็ไม่รอด เมื่อมีหนังสือคำสั่งย้าย พันตำรวจเอก พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วเช่นเดียวกัน มีกำหนด 30 วัน โดยขาดจากต้นสังกัด ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และสั่งการให้ พันตำรวจเอก เอกอนันต์ หูแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ไปรักษาราชการแทนผู้กำกับการ.สภ.อรัญประเทศ แล้ว