เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้าเหตุโศกนาฏกรรม พลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้เสียชีวิต 23 ราย เจ้าหน้าที่เร่งตรวจเอกลักษณ์บุคคล ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางไปรับศพ ท่ามกลางความโศกเศร้า
เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์เหยื่อพลุระเบิดให้เสร็จภายใน 2 วัน
ญาติของผู้เสียชีวิต จากเหตุพลุระเบิด ใน ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ถึงกับเป็นลมล้มพับไป ขณะเดินทางมารับศพญาติที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ บางคนเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องนำขึ้นเปล ปฐมพยาบาล โดยมีญาติมารับศพผู้เสียชีวิตกลับไปแล้ว 8 ราย
โดยผู้เสียชีวิต 4 ราย ญาตินำร่างประกอบพิธีทางศาสนาในวัดโรงช้าง ส่วนอีก 4 ศพ นำไปประกอบพิธีที่วัดต่าง ๆ ทั้งใน จังหวัดสุพรรณบุรี และ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งบรรยากาศการเคลื่อนย้ายศพของผู้เสียชีวิตออกจากวัดโรงช้าง เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เช่นเดียวกับญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตรายอื่น ๆ ที่มารอรับศพญาติ ต่างโผเข้ากอดกันร่ำไห้อย่างโศกเศร้า โดยศพของผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมาพิสูจน์เอกลักษณ์ที่วัดโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จะเร่งพิสูจน์ให้เสร็จภายใน 2 วันนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางบังอร พันธุ์ตัน ที่สูญเสียสมาชิกครอบครัวไปถึง 6 คน บอกว่า ตนเคยเตือนทั้ง 6 คนแล้วว่าให้เลิกทำงานนี้เพราะมันอันตราย แต่พวกเขาบอกว่า ถ้าไม่ทำจะเอาอะไรกิน เพราะเป็นรายได้หลัก หลังเกิดระเบิด รู้ทันทีว่าทุกคนไม่รอด ไปดูรอบ ๆ ที่เกิดเหตุเห็นร่างคนเป็นชิ้น ๆ เป็นภาพที่น่าหดหู่ใจที่สุด
อนุทิน เยี่ยมให้กำลังใจญาติเหยื่อพลุระเบิด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่มายังวัดโรงช้าง ให้กำลังใจญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย และยืนยันว่าทุกคนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ขอให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเยียวยาเต็มที่ และเร่งหาสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
สมศักดิ์ เปิดสาเหตุโรงงานพลุระเบิด เร่งเยียวยารายละ 3 แสนบาท
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินเยียวยาประมาณรายละ 300,000 บาท และวันนี้ (19 ม.ค.) จะประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงเหตุที่เกิดขึ้นทุกประเด็น โดยข้อสรุปจากที่ประชุม จะนำเสนอนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารหน้า
นายสมศักดิ์ บอกว่า สาเหตุของการระเบิด ได้รับรายงานว่า สิ่งที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิต คือ สารโพรแทสเซียมคลอเลต ที่เมื่อมีดินปืนระเบิด สารตัวนี้ก็จะเกิดการสันดาป จึงเกิดแรงระเบิดและแรงอัด ที่ทำให้ผู้อยู่ในจุดเกิดเหตุเสียชีวิตทันที ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ตรวจสอบพบว่าผุ้ประกอบการไม่ได้ขออนุญาตเป็นโรงงาน ทำให้ไม่มีการตรวจสอบวัตถุอันตราย เป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป
ชาวนายันไข่ไล่นกยังใช้แพร่หลาย ตกใบละ 2 บาท
สำหรับสถานประกอบการที่เกิดเหตุระเบิด เป็นแหล่งผลิตประทัดลูกบอล หรือที่เกษตรกร เรียกว่า ไข่ไล่นก ซึ่งใช้กันแพร่หลายในแถบภาคกลาง ผู้สื่อข่าวในจังหวัดชัยนาท ไปสำรวจร้านค้าที่ขายไข่ไล่นก พบว่า ยังมีการขายอยู่ตามปกติ แต่ทางร้านจะขายให้เฉพาะชาวนา ชาวไร่ เท่านั้น ราคาไข่ใบเล็ก ลูกละ 2 บาท ไข่ใบใหญ่ ลูกละ 4 บาท
ชาวนาคนหนึ่ง บอกว่า จะใช้ไข่ไล่นกในช่วงหว่านข้าว หรือช่วงที่ข้าวเป็นรวง เพราะเป็นวิธีที่ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และประหยัดแรง เพราะหุ่นไล่กาเป็นวิธีล้าหลัง ที่ใช้งานไม่ได้ผลแล้ว โดยหลังจากจุดไข่ไล่นก ไปแล้วประมาณ 2-4 วินาที ถึงจะระเบิดและมีเสียงค่อนข้างดัง
อย่างไรก็ตาม ชาวนาที่ใช้ไข่ไล่นก บอกว่า ไม่ควรไปจุดไข่ไล่นกในเขตชุมชนเพราะจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เนื่องจากมันมีเสียงค่อนข้างดังมาก และการระเบิดค่อนข้างรุนแรง เด็กเล็กและเด็กวัยรุ่น ไม่ควรไปซื้อมาจุดเล่นโดยเด็ดขาด
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35