สัตว์เลี้ยงกับเด็ก อยู่คู่กันไม่ได้?!
logo ข่าวอัพเดท

สัตว์เลี้ยงกับเด็ก อยู่คู่กันไม่ได้?!

ข่าวอัพเดท : คุณแม่หลายๆคนคงสงสัยว่าลูกของเรากับสัตว์เลี้ยงสามารถเลี้ยงไปพร้อมๆกันได้ไหม หรือจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกๆหรือเปล่า วันนี้เราจะมา วิธีเลี้ยงลูก,สัตว์เลี้ยง,แม่และเด็ก,ทารก,แม่ลูกอ่อน,เด็กทารก,คุณแม่,คุณแม่มือใหม่,คุณแม่วัยใส

708 ครั้ง
|
18 ม.ค. 2567
คุณแม่หลายๆคนคงสงสัยว่าลูกของเรากับสัตว์เลี้ยงสามารถเลี้ยงไปพร้อมๆกันได้ไหม หรือจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกๆหรือเปล่า วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยกัน
 
การเลี้ยงลูกพร้อมกับสัตว์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
 
ข้อดีของการเลี้ยงสัตว์จะทำให้ลูกของเรามีจิตใจที่อ่อนโยน รักสัตว์ มีงานวิจัยออกมาว่าถ้าเด็กโตมากับหมาหรือแมว จะมีพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจดีกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงมาคนเดียว เพราะการที่เด็กมีสัตว์เป็นเพื่อน ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
 
มีภูมิคุ้มกันดีขึ้น สามารถเปรียบเทียบได้กับเด็กที่ถูกเลี้ยงมาแบบพ่อแม่ปล่อยให้นั่งเล่นกับดิน หญ้า หรือทราย ทำให้เด็กมักจะแข็งแรงกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงมาแบบอยู่แต่ในบ้านหรือในห้อง นั่นเพราะการที่เขาได้สัมผัสกับเชื้อโรคบ้างจะทำให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันเพื่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรงและเจ็บป่วยได้ยากกว่าเด็กที่ไม่เคยสัมผัสเชื้อโรคเลย
 
อ่านมาถึงตรงนี้แม่ๆหลายคนคงสงสัยอีกว่า แล้วขนของสัตว์เลี้ยงจะเข้าจมูกของเด็กหรือเปล่า จะทำให้เขาเป็นภูมิแพ้ไหม คำตอบคือ ไม่แน่นอน เพราะขนสัตว์มีขนาดที่ใหญ่เกินกว่าจะผ่านตัวกรองที่จมูกของเรา และหากเด็กมีอาการภูมิแพ้ นั่นเป็นเพราะเขาเป็นมาตั้งแต่ในครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์นั้นเอง
 
ข้อเสียที่ควรระวังคือ เรื่องความสะอาดของสัตว์เลี้ยง เช่น ไม่ฉีดวัคซีน ไม่ฉีดเห็บหมัด ไม่อาบน้ำ แบบนี้สัตว์เลี้ยงจะมีเชื้อแบคทีเรียมากเกินไป หากให้มาเข้าใกล้เด็กก็มีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียได้ โดยเฉพาะเรื่องเห็บหมัด เพราะถึงแม้จะไม่สามารถติดต่อสู่คนได้ แต่หากผิวอ่อนๆของเด็กโดนเห็บหมัดกัดก็มีโอกาสที่จะเป็นแผลติดเชื้อได้
 
นอกจากจะไม่เกิดอาการภูมิแพ้และยังสร้างภูมิคุ้มกันได้แล้ว การที่เด็กได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงอาการแพ้อาหารชนิดต่างๆยังมีความเสี่ยงต่ำด้วย
 
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ฟุกุชิมะของญี่ปุ่น เผยผลการศึกษาล่าสุดในวารสาร PLOS One โดยระบุว่าการเลี้ยงสุนัขและแมวไว้ในบ้าน จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานต่ออาหารที่คนจำนวนมากมีอาการแพ้ให้กับเด็กที่เกิดมาในบ้านหลังนั้นได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
 
อย่างไรก็ตาม สัตว์เลี้ยงที่มีคุณประโยชน์ซึ่งทีมวิจัยแนะนำเป็นพิเศษ คือ แมวและสุนัขที่เลี้ยงระบบปิดไว้ภายในบ้าน ส่วนสุนัขที่เลี้ยงไว้นอกบ้านและหนูแฮมสเตอร์นั้น ไม่เหมาะต่อการเป็นสัตว์เลี้ยงเสริมภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก
 
ทีมผู้วิจัยยังพบว่า เด็กในครอบครัวที่เลี้ยงสุนัขไว้ในตัวบ้านจะไม่แพ้อาหารจำพวกไข่ นม และถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ ส่วนเด็กในครอบครัวที่เลี้ยงแมวจะไม่แพ้อาหารประเภทไข่ ข้าวสาลี และถั่วเหลือง ส่วนการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นั้นมีแนวโน้มจะไปกระตุ้นให้เด็กเกิดอาการแพ้ถั่วเปลือกแข็งได้
 
นอกจากนี้ทีมผู้วิจัยยังสันนิษฐานว่า จุลินทรีย์ชนิดดีที่มาจากสัตว์เลี้ยง เข้าไปช่วยเสริมความหลากหลายของระบบจุลชีวนิเวศในลำไส้ (gut microbiome) ของเด็กให้ดีขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายในระยะยาว
 
หลังจากที่เราได้รู้และคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่แม่ๆหลายคนกังวลแล้ว เรามาดูเหตุผลดีๆที่ให้ลูกมีสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมกัน
 
ข่าวอัพเดท : สัตว์เลี้ยงกับเด็ก อยู่คู่กันไม่ได้?!
 
1. สร้างความมั่นใจให้กับลูก
       หากเขาได้เลี้ยงสุนัขหรือแมวสักตัวถึงแม้พวกมันจะพูดไม่ได้ แต่การที่พวกมันซื่อสัตย์และไม่เคยหนีไปไหน จะทำให้เด็กรู้สึกเหมือนได้มีเพื่อนที่เขาสามารถไว้วางใจได้ ซึ่งการรู้ว่ายังมีใครสักคนคอยอยู่ข้างๆเสมอ จะยิ่งทำให้เด็กมีความกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆมากขึ้น
 
2. ได้ฝึกวินัย
       การเลี้ยงน้องหมาน้องแมวไม่ใช่แค่เรื่องการให้ความรักหรือการเอาใจใส่เท่านั้น แต่การสร้างกิจวัตรประจำวันในการดูแลก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การกำหนดวันที่จะพาสัตว์เลี้ยงไปอาบน้ำหรือเดินเล่น ซึ่งการทำแบบนี้จะเป็นการฝึกปูพื้นฐานให้กับเด็ก และจะทำให้เขาได้นำไปฝึกใช้กับเรื่องอื่นๆในชีวิตอีกด้วย
 
3. เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว
       การค่อยๆซึมซับความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ไปเรื่อยๆและในขณะเดียวกัน ชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาในบ้านจะยิ่งทำให้คนในครอบครัวได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะจะทำให้เด็กรวมถึงทุกคนในบ้านจะต้องคอยหากิจกรรมที่ทำร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงและคนในครอบครัว
 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก