เหยื่อร้อง “กัน จอมพลัง” เคยถูกแก๊งเด็กผู้ต้องหาทำร้าย | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คดีการเสียชีวิตของป้าบัวผัน ที่ถูกกลุ่มเยาวชน 5 คน รุมฆ่า ได้ขยายลุกลามไปสู่คดีอื่น ๆ ที่เยาวชนกลุ่มนี้ ซึ่งใช้ชื่อกลุ่มว่า ตังค์ไม่ออก ก่อขึ้นอีกหลายคดี ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ รวมถึงคดีที่เยาวชนแก๊งนี้ ตบผู้เสียหายที่เป็น LGBTQ ไปดูภาพเหตุการณ์นี้ก่อน

 

เหยื่อร้อง กัน จอมพลัง เคยถูกแก๊งเด็กผู้ต้องหาทำร้าย

 

เป็นหนึ่งในเหยื่อที่เป็น LGBTQ อายุ 36 ปี ที่ถูกเยาวชนแก๊งนี้ตบ ซึ่งหากดูจากในคลิปจะเห็นว่า เพราะเยาวชนแก๊งนี้อ้างในคลิปว่าไม่พอใจที่คนที่ LGBTQ ขอดูอวัยวะเพศ โดยเหยื่อรายนี้ขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ทำให้วันนี้ กัน จอมพลัง นำเหยื่อรายนี้ รวมทั้งผู้เสียหายอีก 2 ราย ซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และเด็กหญิงอีกรายถูกบังคับให้อมอวัยวะเพศ เข้าแจ้งความที่ สภ.อรัญประเทศ โดยในการก่อเหตุ เยาวชนแก๊งนี้ ควักปืนโชว์ แล้วนำปืนไปจ่อศีรษะเพื่อนอีกคนโชว์ จากนั้นบังคับให้อมอวัยวะเพศ ด้วยความกลัวจึงทำตาม

 

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า แก๊งนี้ไม่ได้มีแค่ 5 คน มีประมาณ 20 คน โดยเด็กชายที่มีพ่อเป็นตำรวจ มีปืนพกติดตัวและเป็นผู้นำแก๊งนี้ มีรุ่นพี่มีอายุเยอะกว่าเพื่อน ชอบออกตัวแทนเพื่อน ใครทำแก๊งนี้ จะถูกตามก่อกวนหาเรื่องลักษณะออกหน้าแทน ตอนนี้กำลังตรวจสอบว่า ปืนที่เด็กชายพกติดตัว เป็นปืนของพ่อที่เป็นตำรวจหรือไม่ แล้วพ่อที่เป็นตำรวจได้อนุญาตให้พกติดตัวหรือไม่

 

เผยปมทำร้ายป้าบัวผัน เพราะทำพาวเวอร์แบงก์หาย

 

กัน จอมพลัง ยังเผยปมที่แก๊งนี้ฆ่าป้าบัวผันว่า ตอนแรกมีไม่กี่คนไปแหย่ ล้อเลียนป้าบัวผัน พอกลับออกมาก แล้วทำพาวเวอร์แบงค์หาย คาดหล่นตอนก่อกวนป้าบัวผัน จึงขี่รถจักรยานยนต์ ออกไปเพื่อวนหาป้าบัวผัน และเข้าใจผิดคิดว่าป้าบัวผันเก็บพาวเวอร์แบงค์ไป จึงฉุนเฉียวโกรธ และก่อเหตุดังกล่าว ที่ตนรู้ เพราะตนมีแช็ตที่เยาวชนกลุ่มนี้พูดคุยกัน และตำรวจก็มีหลักฐานนี้ แต่ไม่ได้นำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน

 

ตำรวจเผยผู้เสียหาย ยังไม่เคยแจ้งความ

 

ขณะที่ พลตำรวจเอก พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ เปิดเผยถึงผู้เสียหายที่กัน จอมพลัง พามาแจ้งความว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้น ผู้เสียหาย ยังไม่เคยเข้าแจ้งความ ยืนยัน ขณะนี้ จะเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นต่าง ๆ โดยจะให้กลุ่มวัยรุ่นเข้าที่พักไม่เกินเวลา 22.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้ กลุ่มวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซด์เร่ร่อนในพื้นที่ จนอาจจะก่อเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก นอกจากนี้ จะตรวจสอบ เรื่องอาวุธปืน หลังกัน จอมพลัง ให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ใช้ปืนของพ่อที่เป็นตำรวจ ข่มขู่ ผู้เสียหาย ส่วนเรื่องกลุ่มผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเผาที่พักอาศัย และก่อความวุ่นวายต่าง ๆ ขณะนี้ได้รับรายงานแล้ว และจากการตรวจสอบ พบอยู่นอกเขตความรับผิดขอบของ สภ.อรัญประเทศ ผกก. สภ.อรัญประเทศ ยังฝากถึงผู้เสียหาย ที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำของกลุ่มแก๊งนี้ ให้มาแจ้งความจะดำเนินคดี อย่างตรงไปตรงมา

 

ด้าน พลตำรวจตรี ออมสิน บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตำรวจต้องการชำระสะสางกลุ่มแก๊งเหล่านี้ให้หมดจากจังหวัดสระแก้ว เพราะกลุ่มนี้บางครั้งออกไปตระเวนกลางคืนแล้วไปก่อเหตุกับคนอื่น และผู้เสียหายบางราย อาจเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยไม่ออกมา

 

ตำรวจโต้ได้ภาพกล้องวงจรปิดก่อนนักข่าว

 

ในส่วนของตำรวจ ย้อนกลับไปช่วงค่ำเมื่อวานนี้ หลังจากบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อตามคดีฆาตกรรมป้าบัวผันช่วงค่ำเมื่อวานนี้แล้ว มีการแถลงรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในข้อมูลที่ตำรวจแถลง คือพยายามชี้แจงถึงช่วงเวลาการได้กล้องวงจรปิด การรู้ตัวคนร้ายตัวจริง และการได้ตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจระบุว่า ทุกกระบวนการนี้ ทำก่อนที่นักข่าวจะได้คลิปวงจรปิด และนำเสนอข่าวเสียอีก

 

พลตำรวจตรี ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 ไล่ไทม์ไลน์ การทำงานของตำรวจว่า หลังจากที่นำลุงเปี๊ยก ไปฝากขังในช่วงบ่ายแล้ว ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เห็นความผิดปกติ เนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วไม่เห็นลุงเปี๊ยกปรากฏอยู่ในภาพ แต่เห็นกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกัน 5 คน รถจักรยานยนต์ 2 คัน วนเวียนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และพิสูจน์ทราบจนเห็นภาพวงจรปิด เด็กวัยรุ่น 5 คน ทำร้ายป้ากบ และได้ติดตามตัวในเวลา 14.50 น. ของวันเสาร์ที่ 13 มกราคม

 

โดยฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้กล้องวงจรปิด ซึ่งไม่ได้มาจากนักข่าว เจ้าหน้าที่ทำงานและติดตามตัวได้ 4 คน จากทั้งหมด 5 คน ตั้งแต่ 14.00 น. ของวันเสาร์ที่ 13 มกราคม ส่วนภาพวงจรปิดที่ออกเป็นข่าวสื่อช่องหนึ่ง ออกข่าวประมาณ 2 ทุ่มเศษ แสดงให้เห็นว่าชุดสืบของอรัญประเทศติดตามตัว และได้พยานหลักฐานมาก่อน ไม่ใช่ว่าเป็นข่าวแล้วตำรวจถึงไปติดตามจับกุม

 

ลุงเปี๊ยก เล่าเหตุรับว่าฆ่า ป้าบัวผัน แต่งเรื่องเพราะเมา

 

ส่วนกรณีลุงเปี๊ยกรับสารภาพเป็นผู้ฆ่าปัวผันในวันแรกนั้น ในการแถลงเมื่อวาน นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก ได้ตอบคำถาม ถึงเหตุผลที่รับสารภาพว่า ลุงสร้างเรื่องขึ้นมาเอง เป็นเรื่องสมมติเพราะเมา ตอนนั้นมันคิดอะไรอัตโนมัติขึ้นมา นึกไม่ออกเหมือนกันว่าสิ่งที่ทำไปผิดหรือถูก ไม่รู้ตัวเพราะเมาค้างอยู่ ยอมรับว่ากลัวติดคุก ซึ่ง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถามว่า มีใครเตรียมให้พูดหรือไม่ ลุงเปี๊ยกยืนยันว่าไม่มีตำรวจมาเตรียม หรือบอกให้ตัวเองพูด ไม่รู้จักตำรวจคนไหน และเมื่อถามว่าทำไมถึงให้การว่าใช้เก้าอี้ตี ลุงเปี๊ยก ตอบว่า เพราะเจ้าหน้าที่เอาโต๊ะมาตั้ง เลยเห็นนึกได้ ผมก็นึกขึ้นมา แต่งเรื่องขึ้นมาเอง ถามต่อว่าทำไมถึงตั้งเรื่องว่าตี ทำไมถึงไม่แต่งเรื่องว่าบีบคอหรือรัดคอ ลุงเปี๊ยก ดูงง ๆ กับคำถามแล้วตอบว่าก็แต่งเรื่องขึ้นมา

 

ผบ.ตร. ยืนยัน คดีป้าบัวผัน ใครผิดไม่มีละเว้น

 

ขณะที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอรายงานอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร จากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ขึ้นมาถึงมูลเหตุ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ยืนยันว่า ตั้งแต่ที่ลุงเปี๊ยกมามอบตัวกับตำรวจ และรับสารภาพก็พาตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ รวมทั้งเก็บพยานหลักฐาน คราบเลือด ดีเอ็นเอ เพื่อส่งตรวจ แต่ผลยังไม่ออก และยังมีเหตุสงสัยทางคดี จึงได้ส่งตัวไปฝากขังไว้ก่อนตามกฎหมาย

 

หลังจากนั้นได้ส่งชุดสืบสวนไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามข้อสงสัย และเมื่อได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมาแล้ว ก็พบว่าผู้ก่อเหตุฆาตกรรมไม่ใช่ลุงเปี๊ยก จึงไปทำเรื่องขอปล่อยตัวออกจากเรือนจำทันที

 

ยอมรับว่าในส่วนตัวคดีนี้ก็มีความสงสัยจึงสั่งการให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร และ พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 ลงไปตรวจสอบรายละเอียดในเชิงลึกทั้งหมดในทุกประเด็น และเชื่อว่าจะได้ความกระจ่างทางคดี หากพบว่ามีตำรวจนายใดเข้าไปเกี่ยวข้องทางคดีที่ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น