ฉาวไม่พัก ! เจ้าอาวาสซัด “ก้าวไกล” เอาการเมืองมาวุ่นในวัด จ.นนทบุรี | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - จากกรณีตีกันเองยับ ระหว่างทีมงาน สส.นนทบุรี เขต 2 กับ ทีมงานเขต 3 พรรคก้าวไกล จนถึงขั้นกระโหลกร้าว ในงานเลี้ยงปีใหม่ คืนวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา 

 

เจ้าอาวาสวัด ซัด ก้าวไกล เอาการเมืองมาวุ่นในวัด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในวัดโพธิ์เผือก เพื่อไปพูดคุยกับ พระครูปลัดนนท์ กิตติปัญโญ เจ้าอาวาส ท่านเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันนั้น นายตู่ ผู้สนับสนุน สส.อนุสรณ์ แก้ววิเชียร เขต 3 และเป็นประธานชุมชนวัดโพธิ์เผือก ได้ตบหน้า นายเบน ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส.เขต 2 แค่ 2 ที ไม่ได้รุมทำร้ายเหมือนที่เป็นข่าว จึงตั้งข้อสังเกตว่าตบสองทีแต่สภาพเลือดเต็มตัว ไม่รู้ว่านายตู่มีกำลังภายในหรือเปล่า 2 ที จึงถึงกับต้องแอดมิด

 

อย่างไรก็ตาม ท่านพระครูยืนยันไม่ได้เข้าข้างลูกศิษย์ เพียงแต่นายตู่เป็นคนจริง ไม่ได้เป็นนักเลง เชื่อว่าน่าจะถูกรังแกจากภายนอกมาก่อน กระทั่งมาเจอกันในงาน แล้วเกิดเรื่องขึ้น เรื่องนี้อยากฝากไปถึงต้นสังกัด ควรพิจารณาด้วยว่า สส.คนไหนทำงานจริง และ สส.คนไหนหลงในอำนาจ มาทำให้พระคุณเจ้าวุ่นวาย ทั้งที่เป็นงานที่สร้างความสามัคคีให้กับชุมชน แต่เขามาทำให้แตกความสามัคคีกัน จนกลายเป็นข่าว 

 

สส.ก้าวไกล นนทบุรี เสียใจเหตุรุมทำร้าย ยันผู้ก่อเหตุไม่ใช่ผู้ช่วย

ขณะที่ นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจ กรณี นายตู่ คนสนิท ทำร้ายทีมงานของ สส.ปัญญารัตน์ เนื้อหาบางส่วนของแถลงการณ์ ยอมรับว่า ช่วงเกิดเหตุเขาอยู่ตรงนั้นด้วย คือในขณะที่กำลังคุยกับประชาชน 2-3 นาทีถัดมา นายเบนได้เข้ามานั่งเก้าอี้ด้านซ้ายมือ เมื่อหันหน้ากลับไปมองเห็นนายตู่ ซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ได้เข้าไปพูดคุยอะไรบางอย่างกับนายเบน แต่ตนไม่ได้ยิน เนื่องจากมีดนตรีเล่นอยู่บนเวที ต่อมาเห็นนายตู่ตบศีรษะและตบหน้านายเบน 1 ครั้ง จากนั้นมีคนมาดึงแยกตัวออกไป ตนจึงได้เดินไปยกมือไหว้ขอโทษนายเบน จากนั้นทีมงานขอให้ตนขึ้นรถกลับ คิดว่าเรื่องราวคงจบ จนมาทราบเรื่องจากทีมงานที่โทรมาแจ้ง จึงได้เร่งจัดทําคำแถลงการณ์นี้ขึ้น

 

ทั้งนี้ นายตู่เป็นประธานชุมชน เพิ่งเข้ามาร่วมทํางานพื้นที่กับผู้ช่วย สส.ของตน ได้ประมาณ 2-3 เดือน โดยไม่ได้มีตําแหน่งผู้ช่วย สส. หรือผู้ติดตามแต่อย่างใด ท้ายนี้ การใช้ความรุนแรงไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และยินดีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ความจริง ทั้งในระดับพรรคและตามกฎหมาย

 

สำหรับความคืบหน้าที่ในทางคดี พันตำรวจเอก สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี กล่าวว่า เท่าที่มีการสอบปากคำเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีการสะสมกันมา โดยในวันนี้ (17 ม.ค.) ทางผู้ก่อเหตุจะเดินทางเข้ามามอบตัว ส่วนข้อหาที่จะแจ้งผู้ก่อเหตุ คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ต้องรอผลแพทย์ยืนยัน และรอสอบปากคำผู้เสียหายก่อน