ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เหตุการณ์เยาวชนฆ่าป้าบัวผัน ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่พลิกผันจากการจับลุงเปี๊ยก สามีป้าบัวผัน ไปสู่การจับฆาตกรตัวจริง ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน อายุ 13-16 ปี โดยมีลูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เป็นหัวโจกของกลุ่ม แต่ยังคงมีคำถามตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะข้อสงสัยที่ว่ามีใครบอกให้ลุงเปี๊ยกสารภาพแบบนั้น วันนี้ (16 ม.ค.) พี่สาวของป้าบัวผัน ไปขอความช่วยเหลือจากบิ๊กโจ๊ก กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เยาวชนทั้ง 5 คน ที่เป็นคนฆ่าป้าบัวผัน หรือ นางสาวบัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปีนั้น หลังจากที่ตำรวจ อัยการ และสหวิชาชีพ ร่วมกันสอบสวนเมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้วแล้ว ได้ส่งตัวทั้ง 5 คน ไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระแก้ว และวันนี้ ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ได้ไปขอหมายที่ศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อตรวจอัตลักษณ์ดีเอ็นเอของเยาวชนทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายบิ๊ก อายุ 16 ปี เด็กชายโก๊ะ อายุ 14 ปี เด็กชายเชน อายุ 14 ปี ซึ่งคนนี้เป็นลูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เด็กชายกั๊ด อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นลูกของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเด็กชายแบงค์ อายุ 13 ปี
ส่วนลุงเปี๊ยก หรือ นายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี สามีของป้าบัวผัน ซึ่งก่อนหน้านี้รับสารภาพเป็นคนฆ่าเอง ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ แต่ว่าให้สัมภาษณ์สั้น ๆ กับสื่อมวลชนว่า รับสารภาพเพราะชาวบ้านหาว่า ตนเป็นคนฆ่าภรรยา ตนจึงรับสารภาพ แต่ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ผู้ต้องหาแล้ว ตนก็พ้นมลทินเรียบร้อยแล้ว จากนั้นตำรวจนำตัวลุงเปี๊ยกออกไป โดยที่นักข่าวก็ตามหาลุงเปี๊ยกไม่เจออีกเลย และยังมีข้อสงสัยที่ว่า ทำไมลุงเปี๊ยกรับสาภาพได้สอดคล้องกับพฤติการณ์การก่อเหตุของกลุ่มเยาวชน ทั้งวิธีการฆ่า และสถานที่เกิดเหตุ
ขณะที่ วันนี้ (16 ม.ค.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานางปาง มลใสกุล อายุ 55 ปี พี่สาวของป้าบัวผัน เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สโมสรตำรวจ เพื่อให้ช่วยติดตามคดี เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากไม่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจาก สภ.อรัญประเทศ ได้
นางปาง บอกว่า รู้สึกกังวล เกรงจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะตำรวจไม่เคยเข้ามาดูแล แม้แต่ในงานศพญาติตนเอง และสงสัยว่าเหตุใดลุงเปี๊ยกถึงไปรับสารภาพ มีใครไปบังคับสั่งการหรือไม่ เพราะตนไม่เชื่อว่า ลุงเปี๊ยกจะไปก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ เพราะทั้งคู่ต่างสติไม่สมประกอบ และตั้งแต่ลุงเปี๊ยกได้รับการปล่อยตัวก็ไม่มีใครประสานให้ไปรอที่เรือนจำ ไม่ทราบว่าถูกปล่อยตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และใครเป็นคนที่อยู่กับเจ้าตัวในตอนนี้ด้วย ตนต้องการให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษถึงที่สุด
นายกัณฐัศว์ บอกว่า พี่สาวนางบัวผัน มาร้องขอความช่วยเหลือจากตน เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน โดยตนเชื่อมั่นว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะทำคดีได้ อีกทั้งคดีนี้ อาจมีตำรวจบังคับให้ลุงเปี๊ยก ยอมรับผิดในคดีว่าตัวเองใช้เก้าอี้ฟาดภรรยาจนเสียชีวิต ทั้งที่ความจริงลุงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลย จะไปทราบพฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายจริง ๆ ได้อย่างไร จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีใครสั่งให้พูดข้อมูลดังกล่าว และหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว เจ้าตัวก็หายไปเลย ญาติก็ติดตามหาตัวไม่ได้ หรือแม้แต่ทีมงานตนก็ไม่สามารถติดต่อกับผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตนได้ข้อมูลมาว่า ลุงเปี๊ยกอยู่ที่เซฟเฮ้าส์กับญาติคนหนึ่งที่โรงแรม ในจังหวัดสระแก้ว และจะให้ย้ายไปที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของลุงเปี๊ยก จึงสงสัยว่าเหตุใดต้องให้ไปพักที่เซฟเฮ้าส์ เกรงว่าลุงจะไปพูดอะไรหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ตนกำกับดูแล ซึ่งญาติไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยตนทราบว่าเด็กทั้ง 5 คน ถูกจับกุมทั้งหมดแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นมีลูกของตำรวจด้วย แต่ประเด็นที่สังคมสงสัยคือ เหตุใดลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพในคดี ดังนั้นตนจะลงพื้นที่สั่งการพร้อมไปติดตามหาตัวลุงเปี๊ยกในช่วงบ่ายวันนี้ และหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็ต้องดำเนินคดี ไม่ปกป้องคนที่ทำผิด ยอมรับว่าพฤติการณ์การก่อเหตุของเด็กกลุ่มนี้เลวร้ายมาก ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอายุของเด็กให้รับโทษรุนแรงขึ้นนั้น เป็นเรื่องระยะยาวที่ยังคงหารือกันร่วมกับหลายหน่วยงาน
ต่อมานายกัณฐัศว์ โทรศัพท์สอบถามกับ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการ สภ. อรัญประเทศ เพื่อสอบถามถึงลุงเปี๊ยกและความคืบหน้าคดี ได้ความว่า ขณะนี้ลุงเปี๊ยกอยู่ในความดูแลของญาติที่ตำบลคลองน้ำใส โดยไม่มีตำรวจอยู่ดูแล แต่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาและทำให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ซึ่งไทม์ไลน์การเกิดเหตุ ตำรวจรับแจ้งเหตุเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 มกราคม ซึ่งลุงเปี๊ยกเป็นผู้พาตำรวจไปชี้จุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง อีกทั้งยังพบว่ามีคราบเลือดบนขากางเกงของลุงเปี๊ยก แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเลือดของใคร กองพิสูจน์หลักฐาน จึงต้องส่งตรวจดีเอ็นเอ
แต่เมื่อแพทย์ได้เข้าตรวจสอบสภาพศพ พบว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง เท่ากับว่าเสียชีวิตราววันที่ 11 มกราคม และเมื่อไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิด ก็ไม่พบว่าลุงเปี๊ยกอยู่ในเหตุการณ์ขณะนั้น จึงย้อนภาพไปในวันที่ 10 มกราคม พบว่าเหตุการณ์เป็นคนละเรื่อง คือ กลุ่มเยาวชนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเอง ซึ่งขณะนั้นตำรวจได้ขออำนาจศาลฝากขังลุงเปี๊ยกไปแล้ว จึงต้องรีบทำเรื่องปล่อยตัว และเร่งนำตัวเยาวชน 5 คนมาสอบปากคำพร้อมยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
หลังการปล่อยตัวลุงเปี๊ยก วานนี้ก็ได้สอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพ ก่อนนำตัวไปขอหมายขังที่ศาลเด็กและเยาวชนและสั่งค้านประกันตัว แต่วานนี้มีผู้โทรศัพท์สอบถามเข้ามาเยอะมากทำให้ตนไม่ได้รับสายใคร ทั้งยังไปร่วมงานศพป้าบัวผันเอง ยืนยันว่าตำรวจได้ภาพกล้องวงจรปิดและตัวผู้ต้องหาก่อนจะเป็นข่าว แต่พอมีสื่อช่องหนึ่งปั่นกระแสว่าเป็นการปกป้องลูกตำรวจนั้น ตนยังไม่ทราบเลยว่าผู้ต้องหาเป็นลูกตำรวจด้วย
การฆาตกรรมป้าบัวผัน ยังมีความคืบหน้าในแง่มุมอื่นๆ อีก โดยเฉพาะการไล่ดูกล้องวงจรปิดของนักข่าวคนหนึ่งจนนำมาสู่การพลิกคดีพบฆาตกรตัวจริง ซึ่งเมื่อสักครู่ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ ยืนยันว่าตำรวจรู้ก่อน และจับก่อนเป็นข่าว รวมถึงข้อพิรุธต่างๆ จากการที่ลุงเปี๊ยกไปรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าป้าบัวผัน ซึ่งตอนนี้ ทุกความสงสัยพุ่งเป้าไปที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดสอบสวน ที่มีหนึ่งในพ่อของเด็กผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจชุดสืบสวนคดีด้วย ติดตามในช่วงต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านระเวียง ตำบลระเวียง อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของลุงเปี๊ยก โดยนางชัยญาภา ปัดชา อายุ 63 ปี พี่สาวของลุงเปี๊ยก บอกว่า รู้สึกเป็นห่วงน้องชายมาก ๆ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม น้องไม่ได้กลับบ้านมาปีกว่าแล้ว จะติดต่อกันได้ ก็เมื่อตนโทรศัพท์ไปหาพี่สะใภ้ที่อรัญประเทศ ตนไม่เคยทราบเลยว่า พี่ชายตนนั้นได้มีภรรยาอยู่ที่นั่น จนเกิดเรื่องและเห็นในข่าว ว่าน้องชายตนกลายเป็นผู้ต้องหาเมื่อวานนี้ตนได้โทรพูดคุยกับพี่สะใภ้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะนำตัวมาส่งที่บ้าน ตนได้พูดคุยกับนายเปี๊ยก ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าทำไมถึงรับสารภาพ นายเปี๊ยกบอกว่า ผมก็ต้องปกป้องตนเอง ตนเลยถามว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น แต่นายเปี๊ยกก็ไม่ตอบตน
ส่วนความเคลื่อนไหวของตำรวจนั้น พ.ต.อ.เอกอนันท์ หูแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อตรวจสำนวนการสอบสวน กรณีมีการตั้งกรรมการสอบชุดสืบสวนจับกุมลุงเปี๊ยก โดยเรียกตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ มาสอบรายตัวเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยไม่บอกรายละเอียดใด ๆ ต่อผู้สื่อข่าว
นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจากนายตำรวจระดับสูงในตำรวจภูธรสระแก้ว ว่ากรณีผู้บังคับการตำรวจภูธรสระแก้ว ออกคำสั่งย้ายนายตำรวจระดับรองสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ พ่อของเยาวชน 1 ใน 5 ที่ก่อเหตุฆ่าป้าบัวผัน ให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว อาจมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งจากย้ายมาช่วยราชการเป็นการย้ายออกนอกพื้นที่ขาดจากตำแหน่งเดิมเลยในเร็ว ๆ นี้
ส่วนที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เผยว่า เหตุการณ์นี้ มีลูกของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสระแก้วอยู่ด้วย 1 คน ยศนายดาบตำรวจ ทาง ตม.สระแก้ว จึงมีคำสั่งปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่นายดาบตำรวจ ตม.คนดังกล่าวให้มาทำหน้าที่ธุรการที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว แล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมกำชับห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับคดีอย่างเด็ดขาด
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35