logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ส้มเดือด ! สมาชิก “พรรคก้าวไกล” ซัดกันเอง บาดเจ็บสาหัส | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตีกันเองยับ ทีมงานพรรคก้าวไกล รุมทำร้ายกันเอง บาดเจ็บสาหัส แม้เจ้าตัวจะวิ่งหนีเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วก็ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

590 ครั้ง
|
16 ม.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตีกันเองยับ ทีมงานพรรคก้าวไกล รุมทำร้ายกันเอง บาดเจ็บสาหัส แม้เจ้าตัวจะวิ่งหนีเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วก็ตาม แต่ยังตามรุมกระทืบ ด้านโฆษกพรรคยัน ไม่นิ่งนอนใจ เตรียมสอบเรื่องนี้แล้ว
 
นี่เป็นสภาพบาดแผลที่ใบหน้าของนายกิตติภัทร หรือ นายเบน ผู้ชำนาญการประจำตัว สส.ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล หลังถูกกลุ่มผู้สนับสนุน สส.อนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล รุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกศีรษะร้าว ใบหน้าบวมปูด เหตุเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงหลังเลิกงานวัดเด็ก ที่จัดขึ้นที่วัดโพธิ์เผือก อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
 
สส.ปัญญารัตน์ เปิดเผยว่า วันนั้นที่วัดโพธิ์เผือก มีงานกินเลี้ยงวันเด็กรวมกับปีใหม่ โดยมีสามีตนร่วมงานอยู่ด้วย ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. สามีตนเดินทางกลับบ้าน นายเบนก็เดินออกมาส่งที่รถ เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาได้รับโทรศัพท์ว่าเบนถูกทำร้าย สามีก็รีบเดินทางกลับไปดู จากนั้นตนก็โทรไปถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถึงเล่าให้ฟังว่าหลังจากเบนไปส่งสามีของตนแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะ โดยมี สส.อนุสรณ์ หรือ เอ๊ะ เขต 3 จังหวัดนนทบุรี มานั่งรวมอยู่ด้วย เพราะเขาเป็น สส.เจ้าของพื้นที่ก็อยากจะคุยกัน
 
ตอนนั้นมีคนที่ติดตาม สส.อนุสรณ์ ยืนอยู่ข้างหลัง ชื่อว่า นายตู่ ซึ่งนายตู่เป็นประธานชุมชุนด้วย ได้ พูดขึ้นว่า ไหน คนไหนที่มีปัญหากับ สส.เอ๊ะ จากนั้นอยู่ดี ๆ นายตู่ ก็ตบศีรษะนายเบน 3-4 ครั้ง ก่อนมีคนในกลุ่มมารุมทำร้ายเป็น 20 คน นายเบนก็หนีวิ่งเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ พนักงานก็ปิดประตูก่อนประสานเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล
 
วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในวัดโพธิ์เผือก ไปพูดคุยกับเจ้าอาวาสวัด เผยว่า นายตู่ ประธานชุมชน ตบหน้านายเบน แค่ 2 ที ไม่ได้รุมทำร้ายเหมือนที่เป็นข่าวด้วย ประธานชุมชนที่ลงมือปกติเป็นคนที่มีนิสัยตรงไปตรงมา ยืนยันไม่ได้เข้าข้างลูกศิษย์ แต่นายเบนเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น และเป็นคนจริงไม่ได้เป็นนักเลง
 
เชื่อว่า นายเบน น่าจะถูกรังแกจากภายนอกมาก่อน ทำให้เขาเก็บเรื่องไว้ในใจเรื่อยมา กระทั่งมาเจอกันในงาน แล้วนั่งคุยเพื่อปรับทัศนคติ ปรับความเข้าใจกัน แต่อีกฝั่งคงมีกำแพงอยู่ในใจ ทั้ง ๆ ที่อยากจะทำงานร่วมบูรณาการทำพื้นที่ให้ดี แต่กลายเป็นว่าไม่ลดราวาศอกให้กัน ทำให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวจึงเกิดเรื่องขึ้น
 
อยากฝากไปถึงต้นสังกัด ควรจะพิจารณาไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคที่ดูแล สส.ทั้งสองคนด้วยว่า สส.คนไหนทำงานจริงและ สส.คนไหนหลงในอำนาจ มาทำให้พระคุณเจ้าวุ่นวาย ทั้ง ๆ ที่เป็นงานที่สร้างความสามัคคีให้กับชุมชน แต่เขามาทำให้แตกความสามัคคีกันจนกลายเป็นข่าวขึ้นมา
 
ขณะที่ นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจ กรณี นายตู่ คนสนิท ทำร้ายทีมงาน สส.ปัญญารัตน์ พร้อมขอประณามต่อการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเนื้อหาบางส่วนของแถลงการณ์ ระบุว่า เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ ผม อนุสรณ์ แก้ววิเชียร ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงเกิดเหตุผมได้เดินทักทายกับประชาชนที่มาร่วมงานตามโต๊ะต่าง ๆ จนถึงโต๊ะของนายเบน ผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนั้นคุณเบนไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะ ผมได้นั่งลงคุยกับประชาชนที่นั่งอยู่ในโต๊ะนั้น ซึ่งนั่งอยู่ทางด้านขวามือของผม
 
จากนั้นประมาณ 2-3 นาทีถัดมา คุณเบนได้เข้ามานั่งเก้าอี้ด้านซ้ายมือของผม เมื่อผมหันหน้ากลับไปมองเห็นนายตู่ ซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ได้เข้าไปพูดคุยอะไรบางอย่างกับคุณเบน แต่ผมไม่ได้ยิน เนื่องจากมีดนตรีเล่นอยู่บนเวที ต่อมา ผมเห็น นายตู่ ตบศีรษะและตบหน้าคุณเบนไป 1 ครั้ง
 
หลังจากนั้นมีคนมาดึงแยกตัวออกไป ผมจึงได้เดินไปยกมือไหว้ขอโทษคุณเบนกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นน้องในทีมงานมาขอให้ผมขึ้นรถและขับรถพาผมกลับบ้าน ซึ่งผมก็คิดว่าเรื่องราวคงจบแค่นั้น เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ได้เดินทางไปเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจําจังหวัดนนทบุรี และช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผมก็ได้เดินทางไปกับคณะกรรมาธิการฯ เพื่อลงพื้นที่จังหวัดตากจนถึงในขณะนี้ ผมได้ทราบเรื่องจากทีมงานที่โทรมาแจ้ง จึงได้เร่งจัดทําคำแถลงการณ์นี้ขึ้น ท้ายนี้ การใช้ความรุนแรงไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมยินดีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ให้กระจ่าง ทั้งในระดับพรรคและตามกฎหมายต่อไป
 
ล่าสุด นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ทางพรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางพรรคต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ข้อเท็จจริงบางส่วนก็ปรากฏชัดเจนอยู่แล้วเรื่องการทำร้ายร่างกาย ซึ่งทางกรรมการวินัยสามารถดำเนินการได้เร็ว แต่นอกเหนือจากนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้มีใครบ้าง รวมไปถึงมูลเหตุที่ก่อความรุนแรง ยืนยันว่าคณะกรรมการวินัยก็จะทำหน้าที่ให้เร็วที่สุด
 
ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการวินัยอยู่ในช่วงของการพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่อาจต้องใช้เวลาคือประเด็นแวดล้อม ใครรู้เห็นเรื่องนี้ หากมีสมาชิกพรรคกระทำ เราพร้อมจะดำเนินการลงโทษตามสัดส่วน และไม่ได้การปกป้องผู้กระทำผิด
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่บาดเจ็บเคยมาร้องกรรมการวินัยให้สอบจริยธรรม นายอนุสรณ์ นี่อาจเป็นปมเหตุหรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าว ผู้บาดเจ็บได้ยื่นเข้ามาในช่วงเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบควบคู่ไปด้วยเช่นกัน ตนเองไม่ทราบรายละเอียด เพราะเรื่องถูกยื่นไปที่หัวหน้าพรรค แต่เมื่อตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คงจะมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณะ
 
เมื่อถามว่า เหตุดังกล่าวจะกระทบต่อภาพลักษณ์หรือไม่ เพราะมีเหตุการณ์ความรุนแรงตลอด นายพริษฐ์กล่าวว่า เราไม่อยากเห็นความรุนแรง ไม่ว่าจะเหตุการณ์ก็ตาม แต่ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่พรรคก้าวไกลจำเป็นจะต้องทำ คือ ต้องรับผิดชอบ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในอนาคตอีก
 
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวันนี้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เตรียมไปเยี่ยมคนบาดเจ็บที่โรงพยาบาล พร้อมสอบถามข้อเท็จจริง
 
ล่าสุด ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า คดีที่เกิดเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างประธานชุมชนกับผู้ช่วย สส.มีการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน เป็นความขัดแย้งส่วนตัวกันมาก่อนหน้าที่จะมีการทำร้ายกัน เท่าที่มีการสอบปากคำเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีการสะสมกันมา ยังไม่ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางผู้ก่อเหตุจะเดินทางเข้ามามอบตัว คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนทำอย่างตรงไปตรงมาและละเอียดรอบครอบ ไม่มีอิทธิพลใด ๆ จะเข้ามาเบี่ยงเบนประเด็น ขอเวลาให้ตำรวจทำงาน และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งผู้ก่อเหตุ คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย จะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ต้องรอผลแพทย์ยืนยัน และรอสอบปากคำผู้เสียหายก่อน
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/apKjb0cvwnM?feature=shared

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง