เค้นสอบ 5 ทรชน ฆาตกรรม ‘ป้าบัวผัน’ ทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียน

จากกรณีการพบศพหญิงวัยกลางคน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ถูกฆาตกรรมทิ้งสระน้ำ ข้างโรงเรียนศรีอรัญโญทัย จ.สระแก้ว 

 

ตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางสาวบัวผัน อายุ 47 ปี เสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนกุด กางเกงขายาวสีดำ มีแผลแตกที่ศีรษะและใบหน้า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน

 

ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสติไม่ดี มักเดินเร่ร่อนในละแวกจุดเกิดเหตุเป็นประจำ คาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรม หลังจากนั้นในวันที่ 12 มกราคม 2567 นายปัญญา หรือ เปี๊ยก อายุ 54 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้การสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนถึงแก่ชีวิต โดยให้การเป็นขั้นเป็นตอน และพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำรายงานสืบสวนและนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 13 มกราคม 2567

 

ด้านผู้สื่อข่าว ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของ นายปัญญา จึงได้ทำการสืบหาคลิปจากกล้องวงจรปิดจากจุดต่าง ๆ มาตรวจสอบไทม์ไลน์ แต่เมื่อพอได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิด กลับไม่พบนายปัญญาและยังได้ตามดูไปเรื่อย ๆ จนพบว่าในช่วงเวลา 02.00 น. น.ส.บัวผัน นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ มีกลุ่มวัยรุ่นชาย 5 คน ขับรถมอเตอร์ไซค์มา 2 คัน เข้าไปเต้นยั่วยุทำให้ น.ส.บัวผัน เกิดความโกรธ จึงได้ปาขวดใส่ หลังจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้ขับรถตาม น.ส.บัวผัน เพื่อทำร้ายร่างกายและลากขึ้นรถ น.ส.บัวผัน ดิ้นจนตกจากรถ แต่กลุ่มวัยรุ่นพาตัวไปได้สำเร็จ มุ่งหน้าไปทางจุดเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวจึงเชื่อว่ากลุ่มวัยรุ่นคือฆาตกร

 

ทางตำรวจยอมรับว่าจับคนร้ายผิดตัวและได้จับกุมกลุ่มวัยรุ่น ได้ทั้ง 5 คน เป็นเยาวชนทั้งหมด ประกอบไปด้วย นายบิ๊ก อายุ 16 ปี, ด.ช.โก๊ะ อายุ 14 ปี, ด.ช.เชน (ลูกชายของตำรวจ) อายุ 14 ปี, ด.ช.กัส อายุ 13 ปี และ ด.ช.แบงค์ อายุ 13 ปี มาสอบสวน

เบื้องต้นกลุ่มวัยรุ่นสารภาพว่าทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนถึงแก่ชีวิตจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกปาขวดใส่ กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 ถูกคุมตัวส่งสถานพินิจฯ จังหวัดสระแก้ว ล่าสุดมีการพิจารณาย้ายไปสถานพินิจฯ จังหวัดจันทบุรี และพิจารณาแยกการควบคุมไม่ให้ทั้ง 5 คน อยู่รวมกันเพื่อป้องกันไม่ให้รวมตัวกันก่อความไม่สงบ

 

เรือนจำจังหวัดสระแก้วได้รับหมายจากศาลจังหวัดสระแก้วให้ปล่อยตัวนายปัญญา และได้ให้สัมภาษณ์ว่ารับสารภาพไป เหตุมาจากชาวบ้านกล่าวหาว่าตนเป็นคนฆ่าภรรยา เพราะปกติทั้งสองคนทะเลาะ ตบตีกันเป็นประจำ จึงยอมรับให้เรื่องจบไป และยืนยันว่าไม่ได้มีใครสั่งให้พูด 

 

ล่าสุดมีคำสั่งย้ายรองสารวัตรสืบสวน พ่อของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จนกว่าการสอบสวนคดีจะแล้วเสร็จ