ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วันนี้ พ่อค้าขายกระเป๋าตลาดนัดที่นนทบุรี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบชายฉกรรจ์ 4 คน ที่อ้างเป็นตำรวจกองปราบ ทำทีขอตรวจกระเป๋าในร้าน ก่อนพาตัวขึ้นรถและข่มขู่เอาเงิน 20,000 บาท
เมื่อวานนี้ นายต๊ะ อายุ 39 ปี พ่อค้าขายกระเป๋าแฟชันในตลาดนัดแห่งหนึ่ง ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ช่วงเย็นวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเตรียมเปิดร้านขายของในตลาด มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน แสดงบัตรอ้างเป็นตำรวจกองปราบ เข้าค้นภายในร้าน และหยิบกระเป๋าแฟชันยี่ห้อต่าง ๆ เกือบ 20 ใบ ใส่ถุงดำไป
จากนั้นพาขึ้นรถกระบะโตโยต้า สีดำ 4 ประตู อ้างว่าผิด พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ จะนำไปเปรียบเทียบปรับที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่ไม่ได้แสดงเอกสารตัวแทนลิขสิทธิ์ใด ๆ ให้ตนทราบเลยว่า ขายสินค้าหรือกระเป๋าใบใดที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ระหว่างที่ตนขึ้นรถไปด้วยนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตน เพื่อไม่ให้บันทึกเสียง หรือ แอบถ่ายคลิปวีดีโอ
เมื่อรถของกลุ่มชายฉกรรจ์พาตนไปถึงโรงพัก กลับขับวนรอบโรงพักก่อนจะพาออกไปจอดที่ริมถนนข้างโรงพัก แล้วบอกว่า สามารถติดต่อใครให้มาเคลียร์ได้ไหม ถ้าไม่มีให้เสียค่าปรับได้ ตนจึงถามกลับไปว่าค่าปรับเป็นเงินเท่าไร ชายฉกรรจ์ที่นั่งประกบตนจึงบอกว่า ค่าปรับตรงนี้จำนวน 20,000 บาท ให้ตนหาเงินมาจ่ายก็จบกันไป ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์ขอหยิบยืมเงินจากแม่ยาย 20,000 บาท มาโอนจ่ายเข้าบัญชีตามที่กลุ่มชายฉกรรจ์แจ้งมา
นายต๊ะ บอกว่า หลังจากที่ตนโอนเงินให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก็ปล่อยตัวลงมาจากรถ แต่เมื่อตนทวงกระเป๋าที่ถูกยึดไป ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้คืนให้ตนมาประมาณ 7-8 ใบเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 10 กว่าใบ อ้างว่าต้องนำไปเป็นของกลางเพื่อลงบันทึกจับกุม ทั้งยังกำชับตนว่า หลังจากนี้จะเข้ามาเก็บรายเดือนที่ร้านอีกด้วย ทำให้หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเป็นต้นมา ตนกับภรรยาไม่กล้าเปิดร้านขายกระเป๋าอีกเลย เพราะไม่รู้ว่าจะถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบย้อนกลับมาจับตนอีกหรือไม่
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ นายต๊ะเดินทางไปแจ้งความ สภ.รัตนาธิเบศร์ และให้ข้อมูลกับ พันตำรวจเอก พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว พันตำรวจเอก พิสุทธิ์ กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวนรับแจ้งความ ได้แบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝ่ายสอบสวนดำเนินการสอบปากคำ ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน และติดตามหาตัวเพื่อนำมาดำเนินคดี ซึ่งทั้งสองส่วนได้เร่งรัดดำเนินการ คาดว่าจะรู้ตัวเร็ว ๆ นี้
จากการดูกล้องวงจรปิดและสอบถามจากผู้เสียหาย เข้าข่ายฉ้อโกง และกรรโชกทรัพย์ ส่วนเรื่องกักขังหน่วงเหนี่ยวต้องดูพฤติกรรมอีกครั้ง และอาจมีข้อหาอื่น ๆ เข้ามาประกอบอีกหลายข้อหา จากการถามผู้เสียหายยังไม่ยืนยันว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่
แต่ผู้เสียหายแจ้งว่าคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากบัตรที่ดูไม่ได้ระบุว่าเป็นตำรวจหรือหน่วยงานอะไร ถ้าตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงและกระทำความผิดก็ต้องแจ้งต้นสังกัดเพื่อให้ดำเนินคดี
ล่าสุด ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ด้านข้าง สภ.รัตนาธิเบศร์ ตามที่นายต๊ะ บอกว่าคนร้ายขับมาจอดก่อนข่มขู่รีดเงิน พบรถกระบะโตโยต้า สีดำ 4 ประตู คันดังกล่าวจอดอยู่ด้านหลังรถตุ๊ก ๆ และมีหนึ่งในชายฉกรรจ์ลงมาจากรถ ด้านที่นั่งข้างคนขับ และกำลังโทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังปรากฏภาพนายต๊ะลงจากรถ โดยมีชาย 2 คน เดินประกบเพื่อคุยกันด้วย ซึ่งนายต๊ะบอกว่าคุยเรื่องเงิน และใช้เวลาอยู่บริเวณนี้ราวครึ่งชั่วโมง
ล่าสุดจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและจุดที่พูดคุยตกลงกันในเรื่องการจ่ายเงิน พบว่า 1 ในแก๊งกลุ่มชายฉกรรจ์เป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ หลังจากนั้นก็ผันตัวมาร่วมตัวกับกลุ่มดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นแก๊งเรียกเก็บเงินลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ขณะนี้ทางตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ กำลังเร่งติดตามตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา กรรโชคทรัพย์ นอกจากนี้ถ้าพบว่ามีความผิดอื่น ๆ ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35