หนุ่มร้อง ซื้อ “รถหรู” เต็นท์ดัง จ่าย 5.9 ล้านบาท แต่โอนไม่ได้ ที่แท้ “ติดอายัด DSI”

หนุ่มร้อง ซวยหนัก ซื้อ "รถหรู" จากเต็นท์ดัง ราคาร่วม 8 ล้าน ผ่อนไปแล้วกว่า 5 ล้าน เพิ่งมารู้รถ "ติดอายัด DSI" โอนกรรมสิทธิ์ ไม่ได้ ซ้ำ เจ้าของโชว์รูมยังส่งไฟแนนซ์มายึดรถ !? 

 

 

            วันที่ 15 ม.ค. 2567 สัญญา อัฐมี (ยา) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการ โดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้เพจเฟซบุ๊กเต็นท์รถหรู โพสต์ขายรถหรูเปิดประทุน ตนสนใจจึงได้ติดต่อเพื่อขอซื้อ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2565 จึงได้ทำเรื่องจัดไฟแนนซ์ ทว่า ทางโชว์รูมบอกว่า รถคันดังกล่าวต้องใช้เวลาทำเรื่องอีกหลายสัปดาห์ และได้เสนออีกคันมาให้ตน ตนก็ยินดีที่จะซื้อ โดยทำสัญญาซื้อขายกันที่ 8.9 ล้าน บาท โดยวางเงินสดดาวน์ไป 1.1 ล้านบาท และตีเช็กผ่อนเงินดาวน์อีก 2 ล้านบาท โดยผ่อนคู่ไปกับค่างวดรถ ที่มีสัญญาผ่อนชำระจำนวน 31 งวด งวดละ 158,829 บาท

 

            ซึ่งตนผ่อนรถในนามชื่อของเจ้าของโชว์รูม ไม่ได้มีการเปลี่ยนสัญญามาเป็นชื่อตัวเอง ซื้อด้วยความไว้ใจ โดยเขาบอกว่า ถ้าส่งงวดหมดเขาจะโอนกรรมสิทธิ์มาให้ตน ที่ตนมั่นใจเพราะเต็นท์รถเขาหรูมาก ระดับ 100 กว่าล้านบาท และอีกอย่างตนก็ผ่อนตรงกับไฟแนนซ์ ทว่าในตอนนี้ตนผ่อนไปแล้วกว่า 20 งวด ตนไปเห็นเจ้าของรถคนเก่า เขาออกรายการใหญ่ ทำให้ตนตกใจมาก เพราะรถมันไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ เนื่องจาก ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ อายัดไว้ตรวจสอบ เนื่องจากสำแดงเท็จ และหลีกเลี่ยงภาษีการนำเข้า

 

            ตนจึงติดต่อไปที่เจ้าของโชว์รูม เขาบอกให้ตนปิดไฟแนนซ์ให้หมด ถ้าผ่อนหมดแล้วเขาจะจัดการปลดออายัดจากดีเอสไอ ให้ หรือถ้าไม่ได้เขาจะเอาเงินมาคืน แลกรถกลับคืนไป ตนก็เชื่อเขาและผ่อนต่อมาเรื่อย ๆ กระทั่งผ่อนงวดรถใกล้หมด งวดท้าย ๆ ตนเริ่มไม่ไว้ใจ เลยมีส่งบ้าง ไม่ส่งบ้าง และได้นัดทางโชว์รูมมาเคลียร์วันที่ 19 ธ.ค. 2566 กลับมีเรื่องแปลก เนื่องจากทางเจ้าของโชว์รูมไม่ยอมโอนเงินเข้าบัญชีตนเสียที จนสุดท้ายเขากลับส่งไฟแนนซ์มาให้ยึดรถ ตนจึงได้เคลียร์กับไฟแนนซ์ เพราะ ตนมีหลักฐานทั้งหมดว่าตนเป็นคนจ่ายค่างวดมาตลอด ไฟแนนซ์ถึงได้ยอมกลับไป ขณะเดียวกันตนได้ทำการนัดให้ทางโชว์รูมมาคุยกับตนที่สน. แต่เขาก็ไม่ยอมมา จนสุดท้ายตนต้องไปร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด 

 

            ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า หลังจากผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนกับตน ฝั่งเจ้าของโชว์รูมก็มีติดต่อมาคุยกับตน ซึ่งมันมีข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกัน เพราะ เขาบอกว่ารถเขาที่มีปัญหาเขายินดีซื้อคืนหมด ทว่าผู้เสียหายก็ยืนยันว่าในวันที่ 19 ธ.ค. 2566 เขาไปถึงโชว์รูมแล้ว ก็ไม่มีใครมาซื้อรถคืน ส่วนเหตุผลที่เขาส่งไฟแนนซ์ไปยึดรถ เพราะผู้เสียหายค้างค่างวดรถ นอกจากนี้ เช็กที่ผู้เสียหายตีเช็กให้โชว์รูมมันเด้ง รวมทั้งยังบอกอีกว่า ผู้เสียหายเอารถคันดังกล่าวไปจำนำ

 

            สัญญา อัฐมี ตอบกลับว่า เรื่องเช็กเด้งนั้นมีจริง เกิดหลังจากที่เขาผ่อนงวดรถมาแล้วกว่า 20 งวด จนมาเกิดข่าวใหญ่ ตนก็ไม่กล้าผ่อนอีกเลย เพราะมูลค่ามันเยอะ แม้เขาจะบอกว่าจะจัดการให้ ตนอยากจะคืนรถด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนฝากถึงเจ้าของโชว์รูมว่า พรุ่งนี้ (16 ม.ค. 2566) ตนกล้าปิดงวดรถ 11 งวด จำนวนเงิน 3 ล้านกว่าบาท เช็กเงินสดอีก 2 ล้าน ตนพร้อม ไปโอนกรรมสิทธิ์รถกับตนที่ขนส่งเลย ถ้ารถคุณถูกกฎหมายจริง ตนจ่ายแล้วจบเลย ขณะเดียวกัน ตนค้างค่างวดเขาแค่ 3 งวด ถ้าเยอะกว่านี้ วันที่ 19 ธ.ค. 2566 ไฟแนนซ์ยึดไปแล้ว ส่วนเรื่องจำนำ ยืนยันว่าไม่ได้ทำแน่นอน 

 

 

            ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เคสนี้น่าสนใจ ตนคาดว่า ไฟแนนซ์น่าจะมีการคุยกับโชว์รูมให้มายึดรถ เพราะตามปกติแล้ว ไฟแนนซ์จะมายึดรถเลยไม่ได้ ผิดนัดแค่ 2-3 งวด ต้องเอาคำพิพากษาของศาลมาเสียก่อนถึงจะยึดรถได้ ถ้าดุ่ม ๆ เข้ามายึดแบบนี้มีสิทธิ์ที่ไฟแนนซ์โดนคดีปล้นทรัพย์ นอกจากนี้ ถ้าหากรถคันดังกล่าวโดน DSI ยึดตั้งแต่ก่อนผู้เสียหายจะซื้อ ถ้าทางโชว์รูมรู้อยู่แล้ว จะต้องโดนความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ขณะเดียวกัน การที่รถคันนี้มีประวัติ ตนอยากฝากถึงอธิบดี DSI เข้ามาตรวจสอบโชว์รูมดังกล่าวว่าเป็นไปตามที่ผู้เสียหายแจ้งหรือไม่