logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ออกหมายเรียก ! คนขับรถเก๋งหัวร้อน พุ่งชนรถแท็กซี่พังยับ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจรู้ตัวคนขับรถเก๋งหัวร้อน พุ่งชนแท็กซี่กลางถนนรัชดา หลังก่อเหตุเอารถไปจอดทิ้งท้ายซอยอินทามระ เตรี ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

651 ครั้ง
|
15 ม.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจรู้ตัวคนขับรถเก๋งหัวร้อน พุ่งชนแท็กซี่กลางถนนรัชดา หลังก่อเหตุเอารถไปจอดทิ้งท้ายซอยอินทามระ เตรียมแจ้งหลายข้อหา
 
ออกหมายเรียกคนขับรถเก๋งหัวร้อน ! พุ่งชนรถแท็กซี่พังยับ
 
คลิปเหตุการณ์คนขับรถเก๋งสีขาว หัวร้อน ขับรถพุ่งชนรถแท็กซี่เขียวเหลืองที่จอดขวางกลางถนน จากนั้นคนขับเก๋งสีขาวยังไม่หนำใจ ใส่เกียร์ถอย ก่อนจะใส่เกียร์เดินหน้าเต็มกำลัง พุ่งชนท้ายรถแท็กซี่อีกครั้ง เสียงดังสนั่น ก่อนจะขับหนีไป
 
เหตุการณ์เกิดขึ้น 22.30 น. ที่ผ่านมา หน้าห้างดังบนถนนรัชดาภิเษก เพจดังอย่าง Red Skull นำคลิปมาแชร์ ระบุข้อความ ไม่รู้เหตุการณ์เกิดจากอะไร ขณะที่หลายคนก็อยากรู้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นแน่ ทำไมเรื่องราวจึงเป็นแบบในคลิป
 
ทีมข่าวได้คุยกับ นายยุทธพงศ์ แซ่ฟุ้ง คนขับแท็กซี่คันที่ถูกรถเก๋งสีขาวพุ่งชน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากแยกพระราม 9 เลี้ยวขวาเข้าถนนรัชดา พอมาถึงหน้าห้างโลตัส พระราม 9 กำลังจะเบี่ยงซ้ายเข้ามารับผู้โดยสาร ปรากฏว่า มีรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูง พุ่งเสียบเข้าท้ายรถด้านขวา ครูดตามแนวยาวฝั่งคนขับแล้วขับหลบหนีไป ก่อนจะไปเฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คัน รีบขับรถไล่ตาม จนไปทันกันที่บริเวณสามแยกเทียมร่วมมิตร ปาดหน้าจอดขวางเลนขวาสุดเพื่อสกัดไม่ให้รถเก๋งคันดังกล่าวหลบหนี แต่ทว่ารถเก๋งคันดังกล่าว ได้ถอยรถ แล้วขับพุ่งชนรถของตนทั้งฝั่งซ้ายและท้ายรถรวมทั้งหมด 5 ครั้ง ก่อนจะเร่งเครื่องหนีไป
 
ผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ห้วยขวาง ส่วนรถแท็กซี่เสียหายยับเยินทั้งด้านซ้าย ด้านขวา ส่วนด้านหลังก็พัง ไม่มีชิ้นดี ลุงยุทธพงศ์ บอกด้วยว่า ขับแท็กซี่มา 30 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เคยถูกมอเตอร์ไซค์ชนแค่ครั้งเดียวเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนี้ถือว่าหนัก และแย่ที่สุด เชื่อว่าคนขับรถเก๋งตั้งใจจะหลบหนีหลังจากขับรถชน และคนขับก็น่าจะเมา
 
พบรถคันก่อเหตุจอดทิ้งท้ายซอยอินทามระ
 
ล่าสุด ตำรวจ สน.สุทธิสาร รับแจ้งจากชาวบ้านที่อยู่ในซอยอินทามระ 26 บอกว่า พบรถยนต์ต้องสงสัย มีร่องรอยการถูกชน และมีคราบสีเขียวคล้ายรถแท็กซี่ติดอยู่ จอดอยู่ท้ายซอย แต่ไม่พบตัวคนขับ หรือ ผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ ประสานตำรวจ สน.ห้วยขวาง ให้มาตรวจสอบ เป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า คราวน์ สีขาว รูปพรรณสัณฐานตรงกับรถเก๋งที่ขับพุ่งชนรถแท็กซี่ตามที่ปรากฏในคลิป ที่หน้ากระจกรถ มีสติกเกอร์ของสำนักงานอัยการสูงสุดติดอยู่ ในรถมีกุญแจคารถไว้ และพบซองกับขวดน้ำ 2 ขวด บรรจุของเหลว วางไว้บริเวณที่พักเท้าที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ตำรวจนำรถยกมายกไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สน.ห้วยขวาง
 
สอบถามชาวบ้านในซอย ให้ข้อมูลว่า รถคันดังกล่าวไม่ใช่รถของคนในซอย มีคนเห็นว่าช่วง 22.00-23.00 น. ที่ผ่านมา มีชายหนุ่มขับมาจอดท้ายซอย ชาวบ้านบอกว่าจอดไม่ได้ เพราะขวางการจราจรแต่ชายคนนี้ขอจอดแป๊บเดียว ก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่ปากซอยแล้วหายไป ถามว่าชาวบ้านได้กลิ่นสุราจากชายคนดังกล่าวหรือไม่ ชาวบ้านบอกว่าไม่ได้กลิ่น เนื่องจากอยู่ห่างจากคนขับรถพอสมควร
 
รู้ตัวคนขับรถเก๋งสีขาว-เตรียมแจ้งข้อหาหนัก
 
พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง ระบุว่า เหตุการณ์นี้มีคู่กรณี 3 คัน เป็นแท็กซี่ 2 คัน หนึ่งในนั้นคือรถที่ปรากฏในคลิป และรถเก๋งสีขาว โดยแท็กซี่เขียวเหลืองที่ปรากฏในคลิป ขับมาจากแยกผังเมือง เลี้ยวขวาแยกพระราม 9 เข้าถนนรัชดาภิเษก และพยายามเบี่ยงซ้ายมารับผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าโลตัส พระราม 9 หรือ ฟอร์จูนทาวน์ ส่วนรถเก๋งคันก่อเหตุขับมุ่งหน้ามาจากดินแดง เลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 เข้าถนนรัชดาภิเษก ก่อนจะมาขับพุ่งชนรถแท็กซี่เขียวเหลืองคันดังกล่าว
 
จากนั้นรถเก๋งคันก่อเหตุ ขับหนีไปยังแยกเทียมร่วมมิตร แล้วไปเฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คัน ที่หน้าตึก RS ก่อนที่แท็กซี่เขียวเหลืองจะขับมาปาดหน้าดักสกัดได้ทันบริเวณหน้าห้างเดอะสตรีท แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังที่ปรากฏในคลิป
 
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนสามารถติดต่อผู้ครอบครองรถเก๋งคันก่อเหตุได้แล้ว เบื้องต้นให้การผ่านทางโทรศัพท์ยอมรับว่า เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวจริง ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนภายในวันนี้ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เช่น การดื่มสุรา เหตุผลที่ขับรถหนี หรือ คนขับมีอาการป่วยตามที่ปรากฏในรายงานข่าว เรื่องนี้ยังไม่ขอเปิดเผย
 
ส่วนสมมุติฐานที่ว่า คนขับรถเก๋งเกิดอาการสติแตก ในระหว่างเกิดเหตุนั้น พันตำรวจเอก ประสพโชค มองว่าเป็นไปได้ แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด ถ้าหากคนขับรถเก๋งมีอาการป่วยจริง ควรจะต้องนำใบรับรองแพทย์มาแสดง
 
เบื้องต้น เตรียมแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย, ข้อหาชนแล้วหนี และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับหรือไม่ ต้องรอให้ได้ตัวคนขับรถผู้ก่อเหตุก่อนถึงจะนำมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์
 
รถแท๊กซี่คู่กรณีอีกคันวอนผู้ก่อเหตุชดใช้ค่าเสียหาย
 
ขณะที่ นายวิญญู แก้วพรม คนขับรถแท็กซี่สีชมพู หนึ่งในรถแท็กซี่อีกคันที่ถูกเฉี่ยวชน เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง
 
นายวิญญู บอกว่า เมื่อคืนนี้ประมาณ 22.00 น. กว่า ๆ ขับรถอยู่บนถนนรัชดาภิเษก เลยเอสพลานาดมาเล็กน้อย เห็นรถเก๋งคันสีขาวขับตามหลังมาด้วยความเร็ว บีบแตรมาตลอดทาง ก่อนจะมาเฉี่ยวชนบริเวณฝั่งคนขับ แล้วขับหนีมุ่งหน้าแยกเทียมร่วมมิตร มีแท็กซี่เขียวเหลืองขับไล่ตามมาติด ๆ
 
อย่างไรก็ตาม เท่าที่สังเกตเห็น รถเก๋งคันสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูง เหมือนหนีอะไรบางอย่าง แต่ไม่เห็นว่ามีลักษณะของการขับส่ายไปส่ายมา แต่เชื่อว่ามีอาการเมา
 
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของตนนั้น เป็นรอยครูดยาวทั้งแถบบริเวณฝั่งคนขับ วอนคนขับรถเก๋งช่วยรับผิดชอบค่าเสียหาย ขณะที่ตำรวจต้องดำเนินคดีให้หนัก ไม่ใช่ขับชนแล้วหนี ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นคนใหญ่คนโต
 
แม่ยืนยันลูกชายป่วย-คลั่งหนีออกจากบ้าน
 
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวออกมาว่า คนขับรถมีอาการป่วย ประเด็นนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า แม่คนขับรถเก๋งสีขาว ประสานขอความช่วยเหลือ บอกว่า ลูกชายป่วยทางจิต เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้ว
 
โดยสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ลูกชายพักการเรียนไปบวชเป็นพระ 2 เดือน และศึกษาพระธรรมมา 10 ปี กระทั่งเพื่อนไปหาและขอให้สึกออกมาเรียนต่อให้จบ ลูกชายก็สึกออกมาเรียน
 
หลังจากนั้นลูกใฝ่ฝันอยากเป็นนักกีฬา แม่ก็เลยเปิดฟิตเนสให้จนลูกชายฝึกฝนจนได้เป็นนักกีฬาระหว่างประเทศ ระหว่างนั้นมักจะมีอาการคลั่ง คิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าตลอดเวลา ต้องพาไปรักษา ให้กินยาตลอด ไปไหนมาไหน จะพรมน้ำมนต์ตลอดเวลา
 
กระทั่งก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 วัน ลูกชายที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีอาการคลั่งและหนีออกจากโรงพยาบาล แม่ก็ไปตามจนเจอและพาไปที่โรงพยาบาลให้หมอฉีดยาให้หลับ เพื่อที่จะได้พากลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเดิม แต่โรงพยาบาลไม่ฉีดยาให้ ลูกเลยหนีออกจากบ้านจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้
 
นายเอกภพ กล่าวว่า แม่ของผู้ก่อเหตุกลัวว่าลูกจะไปทำร้ายตำรวจ และถูกตำรวจวิสามัญ วิงวอนขอตำรวจอย่าทำร้ายลูก เพราะลูกมีอาการป่วยทางจิตจริง ๆ
 
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Red Skull
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/_ukrTplVsnk?feature=shared

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง