logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

คดีไม่คืบ ! เหตุแก๊งเงินกู้โหด ทำร้ายลูกหนี้เลือดโชก | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ป้าอายุ 56 ปี ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบทำร้ายร่างกาย ใช้หมวกกันน็อคฟาดหัวแตก เลือดโชกเต็มตัว แถมยังขับรถช ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

339 ครั้ง
|
11 ม.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ป้าอายุ 56 ปี ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบทำร้ายร่างกาย ใช้หมวกกันน็อคฟาดหัวแตก เลือดโชกเต็มตัว แถมยังขับรถชนจนจักรยานจนล้มบาดเจ็บ แจ้งความแล้ว แต่คดีไม่ไปถึงไหน 
 
โดย นางทวีพร หรือป้าจุก อายุ 56 ปี เดินทางมาพบกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายที่มาทำร้ายตัวเองให้ที เพราะตอนนี้ต้อง อยู่อย่างหวาดระแวง
 
ป้าจุก เปิดเผยว่า ตนเองกู้เงินมาช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 จำนวน 4,000 บาท ได้เงินจริง 3,400 บาท แต่ความจริงเป็นหนี้ 5,000 บาท เพราะมีค่าดอกเบี้ย 800 บาท ค่าเอกสารอีก 200 บาท ป้าต้องส่งวันละ 200 เป็นเวลา 24 วัน รวมเป็นเงิน 4,800 บาท ป้าส่งมาได้ 14 วัน เป็นเงิน 2,800 บาท จากนั้นป้าล้มป่วย จึงขาดส่ง 1 วัน เจ้าหน้านี้จึงให้ล้มเงิน แล้วเริ่มส่งใหม่ เป็นวันละ 200 บาท อีก 24 วัน เป็นเงิน 4,800 บาท โดยไม่รวมกับเงินเก่าที่จ่ายไปแล้ว 14 วัน หลังจากนั้นป้าจ่ายเงินอีก 14 วัน เป็นเงิน 2,400 บาท และติดหนี้อีก 2,400 บาท แต่ป้าก็ได้มีการขาดส่งเนื่องจากป่วยเป็นกระดูกทับเส้น จึงทำให้ทำงานไม่ไหวและหารายได้ส่งเงินไม่ทัน
 
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ธันวาคมคมที่ผ่านมา ป้าได้มีการพูดคุยกับเรื่องการขอผ่อนจ่ายกับนายตี๋ซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าหนี้ จนเป็นที่ตกลงกันทั้งสองฝ่าย จากนั้นป้าก็ปั่นจักรยานออกไปซื้อของที่ตลาด ซึ่งในระหว่างที่ป้ากำลังปั่นจักรยานกลับมาบ้านนั้น ได้บังเอิญเจอเข้ากับนายตี๋ จู่ ๆ นายตี๋ ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาชนป้าจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งป้าก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางขุนเทียนไว้แล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า
 
ต่อมาช่วงเช้าวานนี้ ป้าก็ได้ปั่นจักรยานเพื่อที่จะไปซื้อของที่ตลาดเหมือนทุกวัน และบังเอิญเจอเข้ากับนายตี๋อีกครั้ง ก็ได้เดินเข้ามาถามป้าว่า จะเริ่มผ่อนจ่ายเงินที่ค้างอีก 2,400 บาท เมื่อไหร่ ป้าจึงตอบกลับไปว่า แล้วที่ขี่รถจักรยานยนต์มาชนป้าจะชดใช้ยังไง ทำให้นายตี๋เกิดความไม่พอใจ จึงใช้มือตบเข้าไปที่หน้าของป้า 2 ครั้ง และใช้หมวกกันน็อคฟาดไปที่ใบหน้าป้าอีก 3 ครั้ง ทำให้เป็นแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เย็บ 8 เข็ม และตาขวาเขียวช้ำบวม ซึ่งป้าก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางขุนเทียน แต่กังวลว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้าเหมือนเดิม และกลัวว่านายตี๋จะกลับมาทำร้ายตนและลูกหลาน จึงเดินทางมาให้เพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ
 
ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนเองมองว่าเป็นเคสที่หน้าเห็นใจ เพราะคุณป้าก็ได้ลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบที่สำนักงานเขตจอมทอง ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงอยากฝากไปถามถึงรัฐบาลว่า ตั้งแต่ออกนโยบายนี้มา สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ รวมทั้งสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดเป็นแค่ความฝัน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ควรจะดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกหนี้นอกระบบ
 
สำหรับ สน.บางขุนเทียน วันที่ป้าไปแจ้งความ พนักงานสอบสวน ไม่ได้มีการสอบถามหรือพูดคุยในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้าย แต่กลับถามคุณป้าว่าจะใช้หนี้เขาเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับผู้เสียหาย
 
ต่อมาเมื่อช่วง 14.00 น. นายเอกภพได้พาผู้เสียหายไปติดตามที่ สน.บางขุนเทียน โดยท่านพันตำรวจเอก กฤติเดช ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน ระบุว่า หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาคุณป้าได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนของสนบางขุนเทียน ทางตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ทำการ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุรวมทั้งสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์จนได้ความว่า คนร้าย มากัน 2 คน คนที่ลงมือทำร้าย ชื่อเล่นชื่อนายตี๋ จึงขยายผลจนทราบชื่อจริงนามสกุลจริงของนายตี๋แล้ว และอยู่ระหว่างขั้นตอน การออกหมายจับ ส่วนอีกคนซึ่งทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ ขณะนี้ยังไม่รู้ชื่อจริงนามสกุลจริงจึงยังไม่สามารถ ดำเนินการขอออกหมายจับได้ สำหรับนายตี๋ คนลงมือทำร้าย ป้าจุก พนักงานสอบสวน เตรียมเสนอศาลออกหมายจับรวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย กระทำการทวงหนี้ ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใด ที่ให้เกิดความเสียหาย แก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือ ของผู้อื่น ตามพรบทวงหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 11(1) โทษตามมาตรา 41 จำคุกไม่เกิน 54 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, ประกอบกิจการสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ, ข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว, และ ทำให้เสียทรัพย์
 
ขอให้ผู้เความมั่นใจ ตำรวจจะติดตามตัว ผู้ลงมือก่อเหตุทั้งสองคนมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด และจะขยายผลนำไปสู่การจับกุมตัวนายทุนเงินกู้ซึ่งจากที่ทราบรายละเอียด พบว่า นายตี๋เป็นหนึ่งใน นายหน้าปล่อยเงินกู้ให้กับนายทุนย่านรังสิต
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง