งัดหลักฐานแฉ “แม่แตงโม” ด้าน “ทนายเดชา” โต้กลับ “อัจฉริยะ” โกหก ! | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อัจฉริยะ แฉกลับ แม่แตงโม งัดหลักฐานโต้แถลงข่าวเท็จ อ้างถูกยักยอกเงินจากที่ปรึกษากฎหมาย ลั่น! ขอให้มีความเป็นแม่บ้าง ไม่เอาเงินเป็นตัวตั้ง

 

อัจฉริยะ แฉ แม่แตงโม

 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยหลักฐานสําคัญ กรณี นางพนิดา แม่ของแตงโม แถลงข่าวอ้างถูกที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงินจํานวน 550,000 บาท ว่า ตนมาในฐานะตัวแทนของ นายเอ็ม ผู้ที่ถูกกล่าวหายักยอกเงิน ประกอบกับตนเองมีเพื่อนที่อยู่ในทีมงานของนายเอ็ม จึงรับรู้ข้อมูลสําคัญต่าง ๆ ว่า เรื่องทั้งหมดที่แม่ของแตงโมแถลงข่าวเมื่อวานนี้นั้น เป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น

 

รวมถึงก่อนหน้านี้ตนเองเคยดูแลคดีของแตงโม แต่กลับถูกแม่ทําลักษณะเดียวกันคือเมื่อหมดประโยชน์ก็ไปถอดถอนชื่อออกจากคดี ซึ่งทําให้ตนสูญเงินค่าใช้จ่ายไปกว่า 500,000 บาท และไม่ต้องการให้ทนายเดชา เพื่อนรักของตนเอง รวมถึงคนอื่น ๆ ถูกกระทําในลักษณะเดียวกันอีก

 

โดยนายอัจฉริยะชี้แจงเรื่องของจํานวนเงินที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ว่า เงินก้อนแรกจํานวน 400,000 บาท แม่ของแตงโมได้มีการทำสัญญาว่าจ้างนายเอ็ม โดยนายเอ็มเป็นที่ปรึกษากฎหมายและเป็นผู้จัดหาทนายความมาให้จํานวน 2 คน ซึ่งมีการแต่งตั้งทนายเรียบร้อยแล้ว โดยมีข้อตกลงว่าแม่ต้องจ่ายเงินให้นายเอ็ม ร้อยละ 30 จากเงินเยียวยาทั้งหมดที่ได้รับ ทั้งเงินก้อนจํานวน 2 ล้านบาท และเงินเดือน 30,000 บาท ตลอดชีวิต โดยทำสัญญาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565

 

ต่อมา นายปอและนายโรเบิร์ตได้ทําการจ่ายแคชเชียร์เช็ค 2 ใบ ใบละ 800,000 บาท และเงินสดอีก 400,000 บาท รวม 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ซึ่งตอนนั้นแม่ของแตงโมได้มอบเงินจํานวน 400,000 บาท ให้นายเอ็มตามสัญญา ร้อยละ 30 และค้างอยู่อีก 200,000 บาท โดยยังไม่รวมเงินเดือนอีกส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมา 12 เดือน และยังไม่จ่ายรวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาท

 

นอกจากนี้ ในสัญญาระบุชัดเจนว่า แม่ของแตงโมไม่สามารถยกเลิกสัญญาดังกล่าวได้ หากนายเอ็มไม่ได้ทําผิดอะไรตามข้อตกลงในสัญญา หากต้องการยกเลิก ต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรว่านายเอ็มทําอะไรผิด เพราะหากฉีกสัญญาจะต้องถูกปรับ 2 เท่าของเงินเยียวยาทั้งหมด ตามที่ระบุไว้ในสัญญา ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าสัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาทาส เพราะเป็นการตกลงโดยความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย

 

ในส่วนของเงินก้อนที่ 2 จํานวน 400,000 บาท นายอัจฉริยะระบุว่า นายเอ็มอ้างว่านายโรเบิร์ตมอบให้เป็นค่าคอมมิชชันที่พาคนมาซื้อรถหรูกับนายปอและนายโรเบิร์ต เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ส่วนข้อความโน้ตในสลิปการโอนที่ระบุว่า ของทนายเอ็มและโบนัสแม่แตงโม นั้น คาดว่าเป็นการตัดต่อเพิ่มหลังจากมีการโอนประมาณ 4 เดือน

 

ซึ่งเรื่องนี้ ต้องรอให้ทางตํารวจตรวจสอบว่าสลิปโอนเงินดังกล่าวมีข้อความระบุไว้หรือไม่ แต่หลังจากนั้นแม่ของแตงโมได้มาทวงเงินค่าเยียวยา จึงทําให้นายเอ็มยอมให้เงินสดจํานวน 50,000 บาท เพราะคิดว่าเป็นค่าทำคดี รวมถึงก่อนหน้านี้แม่ของแตงโมยังเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินค่าปิดปากไม่ให้อุทธรณ์คดีนายปอและนายโรเบิร์ต แต่เมื่อวานกลับมาบอกว่าเป็นเงินโบนัส ส่วนจะเป็นเงินค่าอะไรกันแน่นั้น คงต้องไปถามทางนายโรเบิร์ตเอง

 

สําหรับกรณีการร่างฟ้องข้อหาฆาตกรรมและข่มขืนแตงโมนั้น นายอัจฉริยะเปิดเผยว่า ตนเองมีหลักฐานเป็นหนังสือลายมือแม่ของแตงโมที่เขียนและมีการตรวจแก้ไขคำฟ้อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม่ได้อ่านคำฟ้องอย่างละเอียด ไม่ได้อ่านผ่าน ๆ ตามที่แถลงข่าวเมื่อวานนี้ พร้อมกับเปิดคลิปเสียงที่แม่ให้ร่างฟ้องข้อหาฆาตกรรมกับข่มขืนกับจำเลย 4 คน บนเรือ ยกเว้นปอและโรเบิร์ต ความยาว 6 นาที ซึ่งเสียงดังกล่าวบันทึกไว้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 และเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการตรวจร่างคำฟ้อง

 

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะฝากถึงแม่ของแตงโมด้วยว่า อยากให้มีความเป็นแม่บ้าง พิสูจน์ความจริงเรื่องลูก ไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ง โดยที่ไม่สนใจว่าลูกเสียชีวิตอย่างไร

 

ทนายเดชา โต้กลับ อัจฉริยะ โกหก

 

ล่าสุด นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ แถลงหลัง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานเครือข่ายชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดหลักฐานแฉแม่แตงโม ที่กล่าวหาว่า นายชัยวัฒน์ โลมากุล หรือ นายเอ็ม ที่ปรึกษากฎหมายในคดีแตงโม นิดา ยักยอกเงินจำนวน 550,000 บาท

 

โดยทนายเดชาเผยว่า ตอนนี้ได้รับแจ้งจากแม่แตงโมแล้วว่า ให้ร่างเอกสารถอนทนายคนเดิม ทั้ง 2 คน โดยตนได้จัดทำเอกสารชุดใหม่ เตรียมจะเข้ามาเป็นทนายความให้แม่แตงโมในการต่อสู้คดี ซึ่งเมื่อถามว่ากังวลมั้ยหากโดนปลดอีกครั้ง ทนายเดชาบอกว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน แต่เหตุผลที่เข้ามารับจะเป็นทนายความให้ เนื่องจากเห็นใจแม่แตงโม โดยตอนนี้ยังไม่มีการตกลงเรื่องการว่าจ้างเป็นทนายความ ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ในอนาคตก็ค่อยมาพูดคุยกันอีกที อาจจะขอแค่ปลาสลิดเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าแก้วแหวนเงินทองยังจะมีเหลืออยู่ไหม แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากในอนาคตแม่แตงโมยินดีที่จะให้เงินค่าจ้างตัวเอง ก็ต้องพูดคุยกันอีกรอบ

 

ส่วนที่นายอัจฉริยะเอาสลิปเงินจำนวน 400,000 บาท ก้อนที่ 2 มาเปิดเผย ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าตอบแทนในการขายรถยนต์หรู ที่นายโรเบิร์ตมอบให้นายชัยวัฒน์ หรือนายเอ็ม นั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับนายอัจฉริยะ เข้าใจว่าเป็นคนรักเพื่อน แต่สิ่งที่นายอัจฉริยะพูดไม่สอดคล้อง และตนได้คุยกับนายปอแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่เงินค่าตอบแทนที่ขายรถหรูให้ แต่นายชัยวัฒน์ได้ไปขอเงินจากนายปอและนายโรเบิร์ต เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ในคดีแตงโม ซึ่งนอกจากเงินส่วนแบ่งร้อยละ 30 แล้ว ยังมาขอส่วนต่างจากเงินจำนวนนี้อีก อ้างเป็นเงินโบนัสของแม่แตงโม แต่มาทราบภายหลังว่า นายชัยวัฒน์ไม่ได้เอาเงินให้กับแม่แตงโม จนมีภาพปรากฏออกมาภายหลังว่ามีการทำสัญญาคืนเงินกันจำนวน 50,000 บาท แล้วจะชดใช้อีก 150,000 บาท และมีคลิปภาพออกมา เป็นคลิปนายชัยวัฒน์คุกเข่ากราบเท้าแม่แตงโม

 

ส่วนข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ตรงกัน อาจจะมีใครคนใดคนนึงโกหกนั้น ทนายเดชายืนยันว่า ตัวเองไม่ได้โกหก และข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับมาตรงกับที่แม่แตงโมแถลงข่าวเมื่อวานนี้ พร้อมบอกนายอัจฉริยะ ไปบอกนายชัยวัฒน์มานั่งแถลงข่าวร่วมกัน โดยยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างที่ได้มาจากแม่แตงโมและนายปอถูกต้อง

 

ส่วนกรณีที่แม่แตงโมบอกว่ามีหลักฐานเด็ดที่จะสามารถนำมาหักล้างสิ่งที่นายอัจฉริยะออกมาแฉในวันนี้ได้นั้นคืออะไร โดยทนายเดชาได้ขอให้สื่อมวลชนเปิดคลิปเสียงการสนทนาที่นายอัจฉริยะที่ส่งให้สื่อมวลชนเมื่อช่วงเช้าฟังก่อน ทนายเดชากล่าวต่อว่า เป็นคลิปเก่าที่เพิ่งเกิดเหตุ โดยตอนนั้นมีคนให้ข้อมูลหลายทางที่พยายามจะป้อนข้อมูลให้แม่แตงโม และไม่มีข้อความที่ระบุว่าเป็นการสั่งการให้ฟ้องคนบนเรือในคดีฆาตกรรมและข่มขืน ยืนยันว่าเป็นข้อมูลหลักฐานที่บิดเบือนใส่ร้ายแม่แตงโม

 

จากนั้นสื่อมวลชนได้นำเอกสารที่นายอัจฉริยะบอกว่าเป็นลายมือของแม่แตงโม ซึ่งทนายเดชาบอกว่า ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่คุณแม่มีอารมณ์และสภาพจิตใจอ่อนแอ และมีหลายคนมาหาประโยชน์จากการเสียชีวิตของแตงโม และพยายามที่จะเข้าหาแม่แตงโม

 

ทนายเดชายืนยันว่า หลักฐานที่นายอัจฉริยะนำออกมาเผยแพร่เมื่อช่วงเช้านี้ เป็นหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนัก แล้วยังยืนยันว่าเงินจำนวน 400,000 บาท ที่มีสลิปออกมานั้น ได้ถามทางนายปอและแม่แตงโมแล้วว่า ข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ตรงกัน โดยเป็นชื่อที่นายโรเบิร์ตเป็นผู้โอนเข้าบัญชีนายชัยวัฒน์ ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ อีก 200,000 บาท จาก 600,000 บาท ที่เป็นข้อตกลงว่าจะจ่ายให้ ร้อยละ 30 ของเงินเยียวยา ทนายเดชาเผยว่าไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้รับข้อมูลจากแม่แตงโมแล้ว ทุกอย่างจ่ายครบหมดแล้ว พร้อมท้านายชัยวัฒน์ให้มาเจอและนั่งแถลงข่าวร่วมกัน ให้ข้อสงสัยทุกอย่างคลี่คลาย