สุดรันทด ! เด็ก 8 ขวบถูกย่าทุบตี ให้อดอาหาร ต้องหนีเร่ร่อน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีเด็กอายุ 8 ขวบ อาศัยอยู่กับพ่อ แต่เกิดถูกจับติดคุก ต้องไปอาศัยอยู่กับย่า แต่ย่าไม่อยากให้อยู่ด้วย มีการทุบตี มีการให้อดอาหาร เด็กทนไม่ไหวหนีออกจากบ้านมาอาศัยอยู่กับบ้านชายหนุ่มที่เป็นญาติห่าง ๆ แค่นี้เรื่องก็รันทดพออยู่แล้ว แต่มีเรื่องที่ดรามาอีกคือ ชายหนุ่มที่รับเลี้ยงดูน้อง เอารูปน้องไปเปิดรับบริจาคเงิน โดยเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง

 

จากกรณีโลกโซเชียลลงภาพเด็กอายุ 8 ขวบ เร่ร่อน ที่พ่อถูกจำคุกและถูกย่าบังคับให้อดอาหาร และไล่ออกจากบ้าน ก่อนที่จะมีผู้อ้างรับไปดูแลและเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ

 

นางชลิดา ทีมงานเพจเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนได้รับร้องเรียนผ่านทางเพจ ต้องการให้เข้ามาช่วยเหลือ หลังมีเด็กถูกที่บ้านเลี้ยงดูอย่างไม่ใส่ใจและทำให้ต้องนอนเร่ร่อนอยู่ข้างนอกบ่อยครั้ง เด็กคนนี้เดิมทีอาศัยอยู่กับพ่อ แต่พ่อเกิดมาถูกจับต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เด็กจึงได้เข้าไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จากนั้นทางด้านคุณย่าแท้ ๆ ของเด็กได้รับตัวกลับมาอยู่ที่บ้านด้วย แต่ย่ามีการทำร้ายทุบตีเด็ก บังคับให้เด็กอดอาหาร บางครั้งเพื่อนบ้านมักจะเห็นเด็กออกมานอนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน เพราะว่าคนในบ้านไม่ให้เข้าบ้าน เด็กจึงหนีออกจากบ้านมาใช้ชีวิตแบบเร่ร่อน โดยไปอาศัยนอนอยู่บ้านนายไพศาล ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ กัน และยังเป็นคนที่แจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามาในเพจเป็นหนึ่งนั้นเองว่า ตนมีความประสงค์ที่เลี้ยงเด็กคนนี้ถาวร

 

ต่อมา นายไพศาลได้ไปโพสต์เปิดรับบริจาคเงิน อ้างว่าจะนำเพื่อช่วยเหลือเด็ก โดยเอาเงินเข้าบัญชีของนายไพศาลเอง เรื่องนี้ทำให้เกิดกระแสสังคมขึ้นมาว่า นายไพศาลต้องการรับเลี้ยงเด็กจริงหรือเปล่า หรือต้องการแค่เงินบริจาค

 

ทางทีมงานเพจเป็นหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ไปยังซอยนวลจันทร์ 9 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของนายไพศาล คนที่แจ้งว่าได้รับเลี้ยงเด็กอายุ 8 ขวบ เอาไว้ และได้เจอกับนายไพศาลในสภาพเพิ่งตื่นนอน และพอถามว่าเด็กอยู่ไหน นายไพศาลก็ตอบว่าไม่รู้อยู่ไหน เดินข้ามฝั่งไปเล่นอยู่ฝั่งโน้น แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน จะกลับมากินข้าวที่นี่อีกทีก็ตอนเย็นหรือตอนค่ำ และได้อ้างว่า ตนกับน้องอายุ 8 ขวบ มีศักดิ์เป็นอาหลานกัน และบอกว่าเด็กได้ถูกผู้เป็นย่าไล่ออกจากบ้านจริง และมีการทำร้ายร่างกาย โดยตนเองได้เห็นเด็กนอนบริเวณหน้าบ้าน จึงเรียกเข้าบ้านด้วยความสงสาร เด็กคนนี้เคยเรียนหนังสืออยู่โรงเรียนคลองลำเจียก แต่ปัจจุบันคนเป็นย่าไม่ได้ให้เข้าเรียน และมีพี่สาวอายุ 10 ขวบ ก็ไม่ได้เรียนเหมือนกัน โดนอาศัยอยู่บ้านย่า

 

ส่วนเรื่องเงินบริจาค ตนยอมรับว่ามีการเปิดบัญชีรับบริจาคจริง โดยเปิดรับบริจาคเมื่อวานเป็นวันแรกและมีผู้คนมาช่วยเหลือประมาณ 2,000-3,000 บาท เพราะต้องการเงินให้เด็กไปเรียนหนังสือ ไม่ได้มีเจตนาในการเอาเงินที่บริจาคไปใช้ส่วนตัว ซึ่งสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ ซึ่งตนเองทำอาชีพเป็นพนักงานส่งของ ไม่ได้มีรายได้มากนัก

 

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ตามหาเด็กจนเจอ โดยไปพบอยู่ที่บ้านของ นายสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี เป็นพ่อของเพื่อนเด็กอายุ 8 ขวบ ซึ่งจุดที่เจอเด็กอยู่ห่างจากบ้านของนายไพศาลประมาณ 150 เมตร โดยนายสัมฤทธิ์ได้เล่าว่า พบเด็กคนนี้ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว มาเล่นกับลูกชายตนเองที่บ้านทุกวัน ช่วงแรก ๆ ก็เล่นเสร็จแล้วกลับบ้าน แต่มาพักหลังไม่ค่อยได้กลับบ้าน และไม่ค่อยได้ไปโรงเรียน ตนเองก็ให้ข้าวให้น้ำอยู่เป็นประจำ พ่อถามว่าทำไมไม่กลับบ้าน ก็ตอบว่าโดนย่าตี ย่าไม่ให้เข้าบ้าน แต่พอตรวจดูตามร่างกายก็ไม่เห็นร่องรอยการถูกตี

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พาตัวเด็กอายุ 8 ขวบ ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ จากนั้นจะพาเข้าไปเลี้ยงดูต่อที่บ้านพักเด็ก และพรุ่งนี้จะลงพื้นที่ไปยังบ้านของย่าเด็กอีกครั้ง เพื่อไปช่วยเหลือเด็กอายุ 10 ขวบ อีกคน ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ