logo ถกไม่เถียง

อาม่าช็อก ถูกคนชื่อสกุลคล้ายกัน สวมสิทธิ “ฮุบที่ดิน” ขายทอดตลาด แถมฉกเงินทอนเรียบ !

ถกไม่เถียง : อาม่า ถึงกับช็อก เพราะ ถูกคนชื่อคล้ายสวมสิทธิ ถูกยึดทรัพย์ที่ดิน ทั้งที่ตัวเองไม่รู้เรื่องเลย อีกทั้งยังเอาเงินทอนกว่า 5 แสน เก็บเงี ถกไม่เถียง,กาย สวิตต์,ทินโชคกมลกิจ,ch7,คนชื่อคล้าย,ฮุบที่ดิน,โกงที่ดิน,อาม่าช็อก,ชื่อสกุลคล้ายกัน,ที่ดิน,ขายทอดตลาด,ฉกเงินทอน,สวมสิทธิ์,ขายที่ดิน,ยึดทรัพย์,โดน,ชื่อคล้าย,คดีแปลก,อาม่า,ปัทมา,แซ่เตียว,กิมเฮง

11,022 ครั้ง
|
08 ม.ค. 2567
อาม่า ถึงกับช็อก เพราะ ถูกคนชื่อคล้ายสวมสิทธิ ถูกยึดทรัพย์ที่ดิน ทั้งที่ตัวเองไม่รู้เรื่องเลย อีกทั้งยังเอาเงินทอนกว่า 5 แสน เก็บเงียบกริบ ซ้ำตอนนี้ เจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว จะเอาคืนได้อย่างไร !?  
 
ถกไม่เถียง : อาม่าช็อก ถูกคนชื่อสกุลคล้ายกัน สวม
 
            วันที่ 8 ม.ค. 2564 ปัทมา แซ่เตียว (อาม่าปัทมา) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา เล่าว่า ตามปกติแล้ว ตนจะเสียภาษีที่ดินทุกปี โดยเสียภาษีที่ดินครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสียภาษีที่ดินแปลงดังกล่าวเลย ซึ่งในช่วงระหว่างปี 2563-2565 ทางกรมที่ดินก็ไม่ได้ส่งเอกสารใด ๆ มาทวงค่าภาษีที่ดินตามปกติ ซึ่งตนก็คิดว่าเขายกเว้นให้ เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 จนกระทั่งช่วงต้นปี 2566 ตนเริ่มรู้สึกเอะใจ เพราะยังไม่ได้รับเอกสารดังเดิม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่กรมที่ดิน จ.นนทบุรี เพื่อจะเสียภาษี ก็พบว่าที่ดินแปลงนี้ถูกขายทอดตลาดไปแล้วตั้งแต่ปี 2558 
 
ถกไม่เถียง : อาม่าช็อก ถูกคนชื่อสกุลคล้ายกัน สวม
 
            ด้าน ชลิตา จุฑาวนิชกุล (เจน) หลานสาวของอาม่า เล่าต่อว่า เมื่อทราบว่าที่ดินของอาม่าถูกขายทอดตลาดไปแล้ว ทำให้งงกันมาก เพราะ ตัวอาม่าที่เป็นเจ้าของที่ดินไม่เคยยินยอมให้ขายที่ดิน จึงได้ทำการสืบหาต้นตอก็พบว่า เมื่อปี 2558 อาม่าเคยขับรถชน ซึ่งผู้ที่ถูกรถชนมีการฟ้องร้อง และต้องจ่ายเงินชดใช้ 400,000 บาท ทำให้เกิดการยึดทรัพย์ขึ้น ทว่า อาม่ายืนยันว่าเขาไม่เคยไปขับรถชนใครมา และเมื่อสืบลงไปอีกก็ทราบว่า คนที่ขับรถชนนั้น เขามีชื่อนามสกุล ว่า "ปัทมา วิวัฒนการโกวิท" แต่อาม่าชื่อ "ปัทมา แซ่เตียว" 
 
            และเมื่อดูข้อมูลลงลึกไปอีก คนที่ขับรถชนนั้นมีชื่อว่า "กิมเฮง แซ่เตียว" เป็นชื่อเก่าของเขา ซึ่งเป็นชื่อที่อยู่ในใบขับขี่ตลอดชีพของเขา ส่วนการยึดทรัพย์นั้น เขามีการสืบทรัพย์โดยใช้ชื่อใหม่ รวมกับนามสกุลเดิม มารวมกัน แล้วมาสืบทรัพย์ ทำให้เขามาเจอที่ดินของอาม่า แต่ตนก็ยังสงสัยอยู่ว่า การสืบทรัพย์ของเขาถึงไปสืบทรัพย์เจอที่ดินว่างเปล่าที่ต่างจังหวัดของอาม่า ทั้งที่อาม่ามีทรัพย์สินหลายรายการ ถ้าเกิดมาสืบทรัพย์เจอที่ดินที่เป็นบ้านพักอาศัย อาจจะทำให้อาม่าทราบตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องการคดีรถชนนี้ 
 
            ทั้งนี้ ที่ดินของอาม่านั้นถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาดไปได้เงินมากว่า 1,000,000 บาท ตัวของ "ปัทมา" ตัวปลอมนั้น ได้เอาไปจ่ายคู่กรณี 400,000 กว่าบาท และเหลือ 500,000 กว่าบาท เขาเอาเงินทอนไปทั้งหมดเลย ขณะเดียวกัน ก็มาทราบว่า ปัทมาตัวปลอม ได้มอบอำนาจให้เพื่อนของลูกเขาเป็นคนไปรับเงินส่วนที่เหลือแทน ดังนั้นเราจึงฟ้องร้องคดีอาญาต่อ คนที่ถูกชน ทนายของคนที่ถูกชน และฟ้องคนที่ปัทมาตัวปลอมมอบอำนาจให้ไปรับเงินแทน 
 
ถกไม่เถียง : อาม่าช็อก ถูกคนชื่อสกุลคล้ายกัน สวม
 
            ขณะที่ เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ความเห็นว่า ตนรู้สึกว่าคดีนี้มันมีเงื่อนงำ เพราะเจ้าหน้าที่ ที่เขายึดที่ดิน เขาเลือกที่จะยึดที่ดินแปลงนี้ ที่อยู่ในต่างจังหวัดและไม่มีคนอาศัยอยู่ ทำให้อาม่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน อีกทั้งขั้นตอนในการทำธุรกรรมที่ดิน เขายังดำเนินการผ่าน "ปัทมา" ตัวปลอมหมดเลย โดยที่เจ้าของที่ตัวจริง ไม่เคยได้รับเอกสารใด ๆ เลย ขณะเดียวกัน ด้านปัทมาตัวปลอมนั้น เขาไม่ทราบมาก่อนเลยหรือ ว่าที่ดินแปลงนี้ มันไม่ใช่ของเขา และตัวเขาเองยังมีเจตนาที่ไปรับเงินส่วนที่เหลือจากการขายที่ด้วย ถ้าเขาไม่ไปรับ อาม่าปัทมา ก็คงรู้เรื่องไปนานแล้ว อีกทั้งทางกรมบังคับคดีเขาควรเข้ามาเยียวยาผู้เสียหาย เพราะเขาไม่มีการตรวจเช็กเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักให้ดีเสียก่อน 
 
ถกไม่เถียง : อาม่าช็อก ถูกคนชื่อสกุลคล้ายกัน สวม
 
            ด้าน นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวถูกกรมบังคับคดียึดทรัพย์ไปเมื่อ ม.ค. 2558 และขายทอดตลาดเมื่อ ธ.ค. 2558 ซึ่งปกติแล้วจะต้องมีการถามไปยังเจ้าของทรัพย์สินเพื่อให้ทราบต่อเหตุการณ์ แต่นี่ไม่มี ทำให้ตนตั้งข้อสังเกตุว่าเขาส่งเอกสารไปให้ตัวปลอมหรือเปล่า ดังนั้นการสืบเราต้องสืบย้อนกลับไปตั้งแต่ กรมบังคับคดี ตำรวจ อัยการ กรมที่ดิน เพื่อถามว่ามันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทั้งที่มันสามารถตรวจสอบได้ว่าพวกเขาคือคนละคนกัน
 
            ทั้งนี้ การที่ "ปัทมา" ตัวปลอมนั้นเสียชีวิตไปแล้ว เขาได้ทรัพย์สินจากการยึดทรัพย์ของอาม่า 500,000 บาท ไม่รวมกับที่จ่ายให้คู่กรณี 400,000 บาท ดังนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สามารถฟ้องเอาทรัพย์ส่วนเกินตรงนี้คืนได้ จากทายาทของเขา ขณะเดียวกัน อาม่ามีการจ่ายภาษีไปจนถึงปี 2562 ทั้งที่ ที่ดินนี้ ถูกขายไปตั้งแต่ปี 2558 แล้ว ทำไมยังจ่ายได้ และหน่วยงานทำไมไม่แจ้งอะไรเลย ตนจึงตั้งข้อสังเกตุว่า เขาทำกันเป็นขบวนการหรือเปล่า 
 
            ทั้งนี้ทางทีมงานรายการถกไม่เถียง ได้คุยกับ ท่านเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี ซึ่งได้ข้อมูลว่า ตอนนี้ทางผู้เสียหายได้ทำการฟ้องร้องกรมบังคับคดี ดังนั้น หากศาลมีคำตัดสินอย่างไร ทางกรมบังคับคดีจะดำเนินการตามคำตัดสินของศาลทุกประการ
 
            ในขณะที่วันนี้(8 ม.ค. 2567) เพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี หรือในฐานะโฆษกกรมบังคับคดี ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ถึงกรณีนี้ โดยไล่เรียงรายละเอียดตามข้อเท็จจริงที่เราได้พูดถึงในรายการ แต่มีประเด็นที่เป็นใจความสำคัญ หรือความคืบหน้าของเรื่องนี้ คือ "ปัจจุบันอยู่ระหว่าง ผู้เสียหายตามข่าวใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ทั้งนี้ กรมบังคับคดีได้ติดตามให้จำเลยในคดีอาญาร่วมรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวด้วย"
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 


ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/wSvtkLrF2vg