ผัว-เมีย ร้อง ! ถูกไล่ยิง 2 เหตุซ้อน คดีไม่คืบ ตำรวจบอก “หยุดปีใหม่” | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผัวถูกเจ้าของร้านขายของชำไล่ยิง เหตุเพราะเจ้าของร้านมาแล้วพูดหาเรื่อง หลังเกิดเหตุรีบไปแจ้งความทันที ตำรวจพามาชี้ที่เกิดเหตุ พบตัวผู้ก่อเหตุนั่งดื่มเหล้าอยู่ แต่ตำรวจไม่จับกุม และให้ผู้เสียหายกลับบ้านไป หลังจากนั้นผ่านมาอีก 2 วัน เมียถูกคนร้ายใช้ปืนยิงปลายิงเข้าที่หน้าจนบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุไปแจ้งความที่โรงพักเดิม ตำรวจกลับไม่รับ อ้างหยุดปีใหม่ ไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยจับคนร้าย ผู้เสียหายจึงรู้สึกแปลกใจว่า ตำรวจที่นี่ไม่ทำคดีกันเหรอ จึงมาร้องกับเพจสายไหมต้องรอด

 

เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา นางสาวนิตยา ทองประดิษฐ์ อายุ 43 ปี (ภรรยา) และนายยุทธพิชัย งิ้วราย อายุ 30 ปี (สามี) เข้าร้องขอความเป็นธรรม เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยติดตามและเร่งรัดความคืบหน้าทางคดีจากพนักงานสอบสวน สภ.ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เนื่องจากตกเป็นผู้เสียหายในคดี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

 

โดย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ทั้ง 2 คดี ไม่มีความคืบหน้าทั้งของสามีและภรรยา โดยในส่วนของสามีเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมปีที่แล้ว สามีไปซื้อสินค้าที่ร้านขายของชำภายในหมู่บ้าน และได้ไปเจอกับเจ้าของร้านซึ่งมีอาการอยู่ในลักษณะมึนเมาแอลกอฮอล์ โดยปกติแล้วคนในหมู่บ้านมักจะเซ็นของมาก่อนได้ ทางสามีจึงได้สอบถามเจ้าของร้านว่า เจ้าตัวมีติดเงินค่าสินค้าอะไรหรือไม่ แต่ทางเจ้าของร้านที่อยู่ในอาการมึนเมาสุรากลับพูดจาไม่ดีใส่ ทำให้ตัวสามีงงว่าทำไมถึงพูดจาไม่ดีต่อกัน จึงมีปากเสียงกันเล็กน้อย ตนจึงกลับบ้าน สุดท้ายเจ้าของร้านไปคว้าอาวุธปืนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มาไล่ยิงตัวสามีจำนวน 3-4 นัด สามีทางสามีได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ค่ายบางระจัน ตำรวจได้พามาชี้จุดที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่สองปลอก และผู้ก่อเหตุยังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่เดิม แต่ตำรวจก็ไม่ได้จับกุมแต่อย่างใด ได้แต่บอกให้ตนเองกลับบ้านไปก่อน โดยมาให้เอกสารอะไรส่งมาเลยสักอย่าง และมาจนถึงทุกวันนี้คดีความไม่คืบหน้า อีกทั้งทางผู้ก่อเหตุยังอ้างว่ารู้จักกับสารวัตรรายหนึ่ง จึงทำให้คิดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คดีนิ่งหรือไม่

                                                                 

ส่วนกรณีของภรรยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 โดยในช่วงเวลา 02.00 น. ได้มีคนร้ายที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน พยายามบุกเข้าไปข่มขืนน้องสาว ทางน้องสาวจึงได้โทรศัพท์ขอให้พี่สาวเข้าไปช่วยเหลือ พอไปถึงภาพที่เห็นพบว่าคนร้ายพยายามจะพังประตู เจ้าตัวจึงร้องโวยวายและกล่าวต่อว่าว่าพฤติกรรมอุกอาจและกระทำในยามวิกาลเช่นนี้จะแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดี แต่ทางผู้ก่อเหตุได้พูดทิ้งท้ายว่าเดี๋ยวผู้เสียหายกับเขาได้เจอกัน ผ่านไป 15 วัน ทางผู้ก่อเหตุได้เอาปืนหน้าไม้ที่ใช้สำหรับยิงปลา บุกเข้ามายิงภายในที่พัก

 

โดยกระสุนเข้าที่แก้มขวา หน้าผาก และกำลังจะใส่ลูกกระสุนยิงมาอีก 1 นัด แต่โชคดีที่ลูกคนโตออกมาเห็นก่อน คนร้ายจึงวิ่งหนีไป และยังตะโกนทิ้งท้ายว่า จะเอาให้ตายถ้าเจอกันอีก หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สภ.ค่ายบางระจัน แต่คดีก็ไม่มีความคืบหน้า

 

ตนอยากสอบถามทาง ผกก.สภ.ค่ายบางระจัน ว่าทำอะไรอยู่ ไม่ลงมาดูสำนวน หรือชาวบ้านบ้างเลยหรือ เขาต้องเดินทางจากจังหวัดสิงห์บุรีตั้งแต่ 04.00 น. เพื่อมาขอร้องให้สายไหมต้องรอดช่วยเหลือ ตนจึงฝากไปยังผู้กำกับขอให้ช่วยดูสำนวนคดีให้ชาวบ้านด้วย และประสานจับกุมตัวให้ได้ ส่วนในวันนี้มาขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยจัดชุดเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานให้ทางผู้เสียหายทั้งสอง

 

ด้าน นางสาวนิตยา ทองประดิษฐ อายุ 43 ปี (ภรรยา) กล่าวว่า ภายหลังจากแจ้งความ ตนได้โทรศัพท์สอบถามทางสารวัตร อ้างว่ามีการออกหมายจับแล้ว แต่รอแล้วตำรวจก็ไม่มาจับกุมตัวผู้ก่อเหตุสักที และเมื่อพยายามโทรศัพท์สอบถามไปยังสารวัตรอีกก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังห้องสืบสวน ตำรวจอ้างว่าหยุดเทศกาลปีใหม่จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ไปจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ ส่วนที่สารวัตรไม่รับโทรศัพท์อ้างว่าแบตหมด อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนและสามีมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ อีกครั้งในคืนวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหามีอาการคล้ายคนเมายาเสพติด ทั้งยังมีการข่มขู่ว่าเดี๋ยวเราจะย้อนกลับมาเจอกันอีก ตนจึงกังวลเพราะที่บ้านมีลูกเล็กอายุ 3 ขวบ 6 ขวบ และ 14 ขวบ ถ้าวันนี้ต้องกลับไปนอนที่บ้านก็จะต้องปิดประตูและหวาดระแวง

 

ติดตามประเด็นนี้ในรายการ “ถกไม่เถียง” กับ ทิน โชคกมลกิจ