ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ยังคงเป็นดรามาอยู่ สำหรับคดีไอ้โบ้ ซ้อมเมียจนเสียชีวิต เมื่อวานนี้ไอ้โบ้ได้มามอบตัวที่ สภ.บางแม่นาง แล้ว และอ้างว่าทำไปเพราะความหึงหวง ล่าสุด มีผู้เสียหายที่เป็นภรรยาเก่าของไอ้โบ้ โผล่มาแฉพฤติกรรมของไอ้โบ้อีก 2 ราย ถูกทารุณกรรมอย่างหนัก แจ้งความไปหลายครั้งแต่ตำรวจไม่ทำคดี พร้อมบอกว่า ถ้าตำรวจทำคดีตั้งแต่แรก น้องแพรว คงไม่ตาย วอนอย่าให้ไอ้โบ้ ได้ประกันตัว เพราะถ้าออกมาพวกตน 2 คน คงไม่รอด ตอนนี้อยากเข้าสู่ขบวนการคุ้มครองพยาน
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย พาผู้เสียหาย 2 ราย ประกอบด้วย นางสาวอภิญญา อายุ 39 ปี อยู่ในพื้นที่ สภ.บางแม่นาง จังหวัดนนทบุรี และ นางสาวชุติมา อายุ 32 ปี อยู่ในพื้นที่ สน.ประชาชื่น ทั้งคู่เป็นอดีตแฟนสาวของ นายธนวัฒน์ เฉลยพบ หรือนายโบ้ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายน้องแพรว แฟนสาวจนถึงแก่ชีวิต ขอเข้ายื่นเรื่องรับการคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเกรงว่าหากนายโบ้ ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล อาจจะถูกนายโบ้ หวนกลับมาทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
โดยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นอกจากน้องแพรว ยังมีอีก 2 ราย ซึ่งเป็นแฟนเก่าของนายโบ้ โดยรายแรก คือ นางสาวบี อายุ 39 ปี เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บางแม่นาง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายเมื่อปี 2565 และได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า รายนี้ถูกทำร้ายหนัก ถูกบีบคอจนสลบ ส่วนอีกราย คือ นางสาวเอ อายุ 32 ปี เหตุเกิดในพื้นที่ สน.ประชาชื่น ซึ่งถูกทำร้ายหนักถูกตัดผมจนต้องวิ่งแก้ผ้าหนีออกมา โดยในเคสนี้ทาง ผกก.สน.ประชาชื่น ได้มีการดำเนินคดีแล้วและได้ส่งหนังสือขออายัดตัวนายโบ้เรียบร้อย ซึ่งน้องผู้เสียหายทั้งสองคนมากระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองและน้องแพรว เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายโบ้ตั้งแต่ได้รับแจ้งความ น้องแพรวก็คงไม่เสียชีวิต เพราะจากคำบอกเล่า นายโบ้มีอาการย่ามใจ เพราะคิดว่าได้ทำร้ายร่างกายมาถึง 2 คน แต่ก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี เคราะห์กรรมจึงไปตกที่น้องแพรว
ตนจึงฝากเจ้าที่ตำรวจว่าอย่าปฏิเสธความรับผิดชอบ ต้องดำเนินคดีกับนายโบ้จนถึงที่สุด ผู้ต้องหาเวลากระทำความผิดจะได้หลาบจำ แต่เพราะว่าการแจ้งความที่ผ่านมาของผู้เสียหายทั้งสองรายไม่มีความคืบหน้า ผู้ต้องหาจึงฮึกเหิมไม่เกรงกลัวกฎหมาย และที่สำคัญผู้เสียหายทั้งสองรายนี้พร้อมต่อสู้จะเอาผิดนายโบ้ ให้ถึงที่สุด แต่หวั่นเกรงว่าหากนายโบ้ ได้รับการประกันตัวอาจกลับมาทำร้ายทั้งคู่ได้ จึงทำเรื่องขอรับการคุ้มครองพยานและดูแลเรื่องเงินเยียวยาค่าเสียหายพร้อมขอให้ติดตามความคืบหน้าทางคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
นางสาวบี (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า ตนคบหากับนายโบ้เมื่อเดือน มกราคม 2565 ระหว่างที่คบหากัน นายโบ้ มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงอย่างเดียว หากทำอะไรไม่ถูกใจก็จะถูกใช้ความรุนแรง บางครั้งคล้ายว่านายโบ้ เป็นคนโรคจิต เขามักตบ ตี ต่อย ทั้งยังบีบคอตนจนสลบ และถึงแม้ว่าสลบไปแล้วก็ยังถูกตบหน้าให้ฟื้นขึ้นมาอีก
ซึ่งพฤติกรรมความรุนแรงของนายโบ้เป็นตั้งแต่ช่วงคบหากันแรก ๆ โดยตนกับนายโบ้ คบหากันมา 8 เดือน แม้พยายามเลิกลาแต่เจ้าตัวยังคงตามง้อและตามราวี ยิ่งถ้าหากพบว่าตนมีการแชตข้อความคุยกับใคร นายโบ้ ก็จะเอาโทรศัพท์ไปพิมพ์ตอบข้อความแทน ส่วนเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุดคือเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 นายโบ้ บีบคอตนจนสลบ และตบหน้าตนจนฟื้น สาเหตุเพียงเพราะว่าตนไม่ยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย จึงถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ นายโบ้ เคยพยายามบุกไปยังบ้านพักของแม่และน้องสาวตน รวมถึงจะทำร้ายร่างกายครอบครัวของตนด้วย มีการพยายามพังประตูและใช้มีดแทงเข้าไปภายในห้อง แต่แม่ตนหลบทันจึงไม่เป็นอันตราย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนเคยไปแจ้งความแค่ในส่วนที่ครอบครัวเกือบถูกทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.บางแม่นาง จังหวัดนนทบุรี แต่ในส่วนที่ตัวเองโดนกระทำ ตนไม่ได้แจ้งความ เพราะว่าถูกนายโบ้ข่มขู่ หากแจ้งความก็จะถูกทำร้ายร่างกายอีก ส่วนสาเหตุที่ทำให้หนีพ้นออกมาได้เพราะว่าตนไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านแฟนเก่า นายโบ้ จึงไม่ตามมาราวี
ทางด้าน นางสาวเอ กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับนายโบ้ ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok รู้จักกันตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ปี 2566 โดยนายโบ้ ทักแชตมาจีบ จึงได้ตกลงคบหากัน จากนั้นผ่านไปประมาณ 2 เดือน นายโบ้ ได้เอ่ยปากขอให้เดินทางไปจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากัน นายโบ้อ้างว่า รักตนเองมาก อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป และอยากสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่หลังจากที่ตนเองจดทะเบียนสมรสกับนายโบ้ นายโบ้ ก็เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป และเริ่มเป็นคนโมโหร้าย เริ่มทำร้ายทุบตีตนเองบ่อยครั้งขึ้น เวลานายโบ้ เล่นพนันออนไลน์คาบาราเสีย นายโบ้ ก็จะทำร้ายตนเองทันที บางวันตนเองถูกนายโบ้ บีบคอจนเกือบขาดอากาศหายใจ ซึ่งหากตนเองร้องขอความช่วยเหลือ นายโบ้ ก็จะข่มขู่จะฆ่าให้ตาย และจะตามไปฆ่าครอบครัวของเธอ ทำให้ตัวเองไม่กล้าส่งเสียงร้องให้ใครได้ยิน เพราะกลัวครอบครัวจะเดือดร้อน
ครั้งที่เลวร้ายที่สุดคือ ตนได้หนีนายโบ้กลับบ้าน โดยทิ้งข้าวของทุกอย่าง และไปสมัครเป็น รปภ. อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ซึ่งระหว่างเดินทางกลับจากทำงาน นายโบ้ ได้ตามมาพบ นายโบ้ จึงใช้อาวุธปืนจี้หัวข่มขู่ให้ขึ้นรถ พร้อมกับอุ้มตนเองขึ้นรถกระบะทันที โดยในวันนั้น นายโบ้ ได้เดินทางมากับพวกที่นั่งอยู่ในรถอีกประมาณ 4-5 คน ทำให้ตนเองไม่กล้าขัดขืน
และเมื่อกลับมาถึงคอนโดที่ประชาชื่น นายโบ้ โกรธหนักมาก และได้นำกรรไกรมากล้อนผมตนเองทิ้งจนสั้น และได้นำโซ่มาล่ามขาตนไว้ตลอด เพื่อไม่ให้ตนเองหลบหนีตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าตนเองจะนอนหรือเข้าห้องน้ำ ก็จะมีโซ่ติดอยู่ที่ขาตลอด หากตนเองจะเข้าห้องน้ำ นายโบ้ ก็จะให้ตัวเองเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ ให้อยู่ในสายตาตลอด แม้ว่าตนเองจะอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวก็ตาม กระดิกไปไหนไม่ได้
ซึ่งครั้งนั้นตนเองทนไม่ไหวแล้ว จึงได้พูดกับนายโบ้ตรง ๆ ว่า โบ้เหนื่อยไหม ถ้าเหนื่อยก็ปล่อยตนเองไปได้นะ ทำให้นายโบ้โกรธมาก และได้ใช้มือบีบคอทำร้ายตนเองจนสลบ เมื่อตนเองตื่นขึ้นมาก็ถูกทำร้ายซ้ำ ๆ วน ๆ ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 18.00-22.00 น.
กระทั่ง 18 มิถุนายน 66 ตนเองทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว หากทนอยู่กับนายโบ้ต่อ ตนเองคงจะถูกฆ่าตายแน่ จึงได้อาศัยจังหวะที่นายโบ้ ได้ถอดโซ่ให้ตนเองเข้าห้องน้ำ ซึ่งนายโบ้ กำลังจะล่ามโซ่ตนเองกับโถ่ส้วมอีกรอบ ตนเองจึงได้วิ่งหนีออกจากห้อง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ใส่กางเกง และวิ่งไปเคาะห้องคนอื่นช่วยเหลือ แต่นายโบ้ ได้ตามมาอุ้มและกระชากเสื้อตนเองจนหลุด เหลือแต่ชุดชั้นในและกางเกงใน ตนเองพยายามดิ้นจนหลุดและหนีออกจากคอนโดฯ ทันที หลังหลบหนีออกมาได้ ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ประชาชื่น แต่คดีกับไม่คืบ
ติดตามประเด็นนี้ในรายการ “ถกไม่เถียง” กับ ทิน โชคกมลกิจ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35