เซลสาวสุดระทม ! โดนอดีตแฟน “ทำร้ายตอนตั้งครรภ์” แถมยังโพสต์ “ภาพลับ” ประจาน : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

เซลสาวทุกข์ระทม ร้อง สายไหมต้องรอด หลังถูกอดีตแฟนหนุ่ม โพสต์ภาพโป๊เปลือย เพราะคิดว่าตัวเองนอกใจ คาด หลอนยา มีประวัติเคยเสพ นอกจากนี้ยังโดนทำร้ายสมัยตั้งครรภ์ด้วย !?

 

 

            วันที่ 3 ม.ค. 2567 จี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้คบกับอดีตแฟนหนุ่มซึ่งช่วงแรกเขาก็ดี แต่จากนั้นไม่นาน กลับพบว่าเขาเสพยาไอซ์ จนทำให้มีเรื่องระหองระแหงกัน จนเลิกรากันไป แต่เขาก็มาขอโอกาสคืนดี และตนก็ได้ตั้งท้องกับเขาเมื่อเดือน ก.พ. 2566 ทว่าหลังจากตั้งครรภ์ เขาก็เริ่มทำร้ายตน ทุบตี ซึ่งเป็นเพราะเขาชอบคิดไปเองว่าตนมีคนอื่น จนตนต้องหนีไปคลอดที่จังหวัดโคราชบ้านเกิด แต่แฟนหนุ่มก็ตามมาด้วย ก่อนจะขอกลับไปทำงานที่กรุงเทพ และสุดท้ายเขาก็มีผู้หญิงคนอื่น

 

            พอตนพักฟื้นเสร็จก็กลับมาทำงานที่กรุงเทพ ฝ่ายชายพยายามติดต่อตน แต่ตนไม่อยากคุยด้วย ทำให้เขาเริ่มที่จะข่มขู่บอกว่าจะโพสต์ประจานภาพลับของตน และสุดท้ายเขาก็ทำจริง ๆ โพสต์ภาพโป๊เปลือยของตนลงสื่อโซเชียล ทำให้ตนอับอายมาก ล่าสุดเมื่อคืน(2 ม.ค.) เขาก็ยังโพสต์ไม่หยุด ว่าตนเสีย ๆ หาย ๆ บอกตนมีสามีหลายคนบ้าง ถูกผู้ชายรุมโทรมบ้าง ตนเครียดหนักจนต้องมาขอความช่วยเหลือจาก คุณเอกภพ  สายไหมต้องรอด 

 

            ด้าน ต้น (นามสมมติ) อดีตแฟน เล่าว่า  ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายของอดีตแฟนสาวจริง เพราะจับได้ว่าเขาไปมีคนอื่น และเขาก็ไม่เคยยอมรับเลย โดยตนจับได้จาก GPS เห็นเขาแวะห้าง แวะโรงแรม ซึ่งโกหกพ่อแม่ตนว่าจะมาทำงาน แต่กลับไปนอกใจ ส่วนเรื่องนั้น ตนพยายามติดต่อแต่ถูกเขาบล็อกทุกทาง ขณะที่ภาพโป๊เปลือยต่าง ๆ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนโพสต์ เพราะ เฟซบุ๊กที่โพสต์ไม่ใช่ชื่อของตน 

 

 

            ฟาด เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า บางรูปที่ฝ่ายชายเป็นคนโพสต์ ก็เป็นรูปที่ผู้เสียหายไม่ได้ตั้งใจให้ถ่ายด้วย เป็นการแอบถ่ายตอนแต่งตัวบ้าง บางทีก็ไปเอาคลิปโป๊ไปตัดต่อเอาหน้าฝ่ายหญิงไปใส่ แล้วนำไปโพสต์ลงสื่อโซเชียล การกระทำแบบนี้ของเขามันผิดกฎหมาย การกระทำเหล่านี้ไม่ใช่ลูกผู้ชายเอาเสียเลย อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้(4 ม.ค.) ตนจะพาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความกับ ท่านผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ด้วยตัวเองเลย

 

 

            ขณะที่ สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ตำรวจไซเบอร์เขาสามารถตรวจสอบได้หมดว่าใครเป็นคนโพสต์ ใครเป็นเจ้าของภาพ ส่วนโทษของการนำสื่อลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี หรือการนำเข้าแชตไลน์ 3 ปี ก็มีโทษจำคุก 3 ปี 

 

            ส่วน  พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง   ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า การที่น้องต้นปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์รูปประจานผู้เสียหายนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะเรามีวิธีการตรวจสอบได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก หรือไลน์ไปแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม การแชร์สื่อลามกมีความผิด และโทษค่อนข้างสูง โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเรื่องนี้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญมาก  

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/LIulOW7yH2w?si=QcKnu85Ga5v4ZR0U