เซลสาวสุดช้ำ ถูกอดีตแฟนนอกใจ “ทุบตีตอนตั้งครรภ์” โพสต์รูป “เปลือยกาย” ประจาน !

เซลสาวทุกข์หนัก ถูกอดีตแฟนหลอนยามโนว่ามีชู้ ทำร้ายทุบตีตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ก่อนจะโพสต์ภาพ โป๊เปลือย ประจานไม่เว้น ช้ำหนัก ยังต้องมาเลี้ยงลูกที่มีร่วมกัน แถมหนุ่มยังมานอกใจ !?

 

 

            วันที่ 3 ม.ค. 2567 จี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้คบหากับแฟนหนุ่มตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 2565 ซึ่งตอนแรกเขาดีมากจนช่วงหนึ่งที่เขาเข้าห้องน้ำนานมาก และไม่หลับไม่นอน 2-3 วัน ตนจึงได้เปิดประตูเข้าไปจนพบว่าเขาเสพยาไอซ์ จากนั้นก็มีเรื่องระหองระแหงกัน และได้เลิกรากันไป ก่อนที่เขาจะมาขอโอกาสคืนดี จึงได้กลับมาอยู่ด้วยกัน และได้ตั้งครรภ์กับเขาเมื่อเดือน ก.พ. 2566 ซึ่งอดีตแฟนหนุ่มเขาก็บอกว่าจะปรับปรุงตัวใหม่ 

 

            ทว่า ระหว่างที่เราตั้งครรภ์เขาเริ่มมาทำร้ายร่างกายตน โดยเขาเหมือนคิดไปเองว่าเรานั้นนอกใจเขา และพยายามเข้าเฟซบุ๊กของเราเพื่อไปโพสต์ต่าง ๆ นา ๆ จากนั้นตนเองได้กลับไปบ้านที่จังหวัดโคราชเพื่อคลอดลูก แต่แฟนหนุ่มก็ขอมาอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ได้ประมาณเดือนหนึ่ง เขาก็ขอไปทำงานที่กรุงเทพฯ ไม่นานเขาก็ส่งรูปมาเย้ยหยันตน พร้อมบอกตนว่า เขามีผู้หญิงคนอื่นแล้ว โดยทิ้งให้ตนอยู่กับลูกแค่ 2 คน ไม่เคยส่งเงินมาให้เลย 

 

            พอตนเองจับได้พักฟื้นเสร็จก็กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ เขาก็พยายามตามหาตนอยากให้ตนกลับไปอยู่กับเขา แต่ตนไม่ติดต่อกับเขา ทำให้เขาเริ่มข่มขู่ ส่งข้อความมาบอกว่า เขาจะโพสต์ประจานตนให้อับอาย ไม่มีที่ยืน ซึ่งเขาโพสต์จริง ๆ เป็นการโพสต์รูปอนาจาร โป๊เปลือย ของตน ติดหน้าด้วย หรือรูปตอนที่มีอะไรกับเขาด้วย ทำให้ตนอับอายเป็นอย่างมาก ล่าสุดเขาก็ยังโพสต์ไม่หยุด เมื่อคืน(2 ม.ค.) เขาก็ยังโพสต์ไม่หยุด อ้างว่าตนมีชู้ นอกใจ มีสามีหลายคนบ้าง ถูกผู้ชายรุมโทรมบ้าง นอกจากนี้ ตนยังถูกตามมาทำร้ายร่างกายที่โชว์รูมที่ตนเป็นเซลขายรถอยู่ด้วย ตอนนี้ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงได้ขอความช่วยเหลือจาก คุณเอกภพ  สายไหมต้องรอด 

 

 

            ด้าน ต้น (นามสมมติ) อดีตแฟน เล่าว่า  ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายของอดีตแฟนสาวจริง เพราะจับได้ว่าเขาไปมีคนอื่น และเขาก็ไม่เคยยอมรับเลย ขณะเดียวกัน ตนพยายามจะติดต่อเขาเพื่อคุยกับลูก เขาก็บล็อคตนทุกทางจนตนต้องติดต่อผ่านหลานเขา ซึ่งเขากลับบอกพ่อแม่ของเขาว่าตนไม่ติดต่อไปเลย นอกจากนั้น ตอนที่เขาขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพฯ เขาก็โกหกพ่อแม่ตน ว่าเขาจะขึ้นมาทำงาน แต่จริง ๆ แล้วตนจับได้จาก GPS เห็นเขาไปห้างกับคนอื่น และมีไปแวะโรงแรม ซึ่งเขาไม่ยอมรับ สุดท้ายแล้วก็ได้คุยตกลงกันว่าจะไม่ยุ่งกัน แต่เขากลับมาทำร้ายน้องผู้หญิงในกลุ่มที่นั่งเล่นด้วยกันอยู่ 

 

            ส่วนเรื่องการโพสต์รูปโป๊เปลือยของเขา ตนยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นโพสต์ เพราะชื่อเฟซบุ๊กของคนที่โพสต์ไม่ใช่เฟซบุ๊กตน ตนแค่คุยกับเขาแค่ในแชตไลน์ ขณะที่เรื่องตัดต่อรูปเอาหน้าเขามาใส่ภาพ ตนก็ไม่ได้ทำ เพราะมันมีรอยแผลเป็นที่เขามีอยู่

 

 

            ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้ ยังไงตนก็ต้องช่วย เพราะ คนเป็นแฟนกันการทะเลาะหรือเลิกรากัน มันเกิดขึ้นได้ แต่การทำโพสต์รูปประจานแบบนี้ มันไม่ใช่ลูกผู้ชายเอาเสียเลย ทั้งนี้บางรูปที่ฝ่ายชายเป็นคนโพสต์ ก็เป็นรูปที่ผู้เสียหายไม่ได้ตั้งใจให้ถ่ายด้วย เป็นการแอบถ่ายตอนแต่งตัวบ้าง บางทีก็ไปเอาคลิปโป๊ไปตัดต่อเอาหน้าฝ่ายหญิงไปใส่ แล้วนำไปโพสต์ลงสื่อโซเชียล การกระทำแบบนี้ของเขามันผิดกฎหมาย ทำไมเขาไม่คิดบ้างว่าฝ่ายหญิงเขาต้องเลี้ยงลูกของฝ่ายชายต่อไปด้วย 

 

            อย่างไรก็ตาม ตนต้องฝากให้ผู้กำกับทั้ง สน.บางโพงพาง สน.ท่าพระ และท่าผู้กำกับ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) เข้ามาดูแลเคสนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ตนจะพาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความกับ ท่านผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ด้วยตัวเองเลยในวันพรุ่งนี้(4 ม.ค.) ซึ่งผู้เสียหายเขาทุกข์มาก ต้องเลี้ยงลูกอายุ 2 เดือน และต้องถูกประจานด้วยภาพโป๊เปลือย 

 

 

            ขณะที่ สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ตำรวจไซเบอร์เขาสามารถตรวจสอบได้หมดว่าใครเป็นคนโพสต์ ใครเป็นเจ้าของภาพ ส่วนโทษของการนำสื่อลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี หรือการนำเข้าแชตไลน์ 3 ปี ก็มีโทษจำคุก 3 ปี 

 

            ส่วน  พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง   ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า การที่น้องต้นปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์รูปประจานผู้เสียหายนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะเรามีวิธีการตรวจสอบได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก หรือไลน์ไปแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม การแชร์สื่อลามกมีความผิด และโทษค่อนข้างสูง โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเรื่องนี้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญมาก  

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/pCyYMDhRQBk?si=t7slyysmrFJIMbb5