หนุ่มงง ! ถูกทำร้าย แต่กลายเป็น “ผู้ต้องหา” เพราะแจ้งความทีหลัง : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

คุณแจ็ค ผู้เสียหายได้ออกมาร้องสื่อ ว่าถูกชายคนหนึ่งเข้ามาหาเรื่องและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ไปแจ้งความ จนตนถูกตำรวจออกหมายเรียก จึงรู้สึกตกใจ ว่าทั้ง ๆ ที่คู่กรณีเป็นคนมาหาเรื่องตนก่อน แต่ทำไม ตนกลับกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง เชื่อว่าผู้ก่อเหตุอาจสนิทกับคนมีสี จึงทำให้ตนถูกกลั่นแกล้ง 

 

 

วันที่ 2 มกราคม 2567 คุณประจวบ จตุรปราการ (แจ็ค) ผู้เสียหาย ได้ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ โดยเล่าว่า ปกติตนขายของอยู่ในตลาด ขณะนั้นได้จอดรถลงของ เพื่อจะตั้งร้านขายน้ำ ใกล้จะขนของเสร็จแล้ว คู่กรณีซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์มาต่อท้ายรถตน ก็ได้ตะโกนให้ตนขยับรถเข็น ตนจึงตอบกลับไปว่า “จะหลบได้อย่างไร ไม่เห็นหรือว่าลงของอยู่” จากนั้นคู่กรณีเหมือนโมโหตะโกนด่ากลับ แล้วก็พุ่งเข้ามาต่อยตะลุมบอนกันจนชุลมุน ต่อมาก็มีพลเมืองดีเข้ามาห้าม แยกตนกับคู่กรณีออกจากกัน ผ่านไป 5-10 นาที คู่กรณีกลับมาพร้อมอาวุธเพื่อมาทำร้ายตน โดยจุดนี้มีคลิปหลักฐานชัดเจน จากนั้นอีกหลายเดือน มีหมายเรียกมาถึงตน ในข้อหา ทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส

 

 

ด้าน คุณปัญจรัตน์ เชิงทวี (โสภา) ภรรยาของผู้เสียหาย เล่าว่า หลังเกิดเหตุก็มีผู้หญิงของฝ่ายคู่กรณีโทรมาขอโทษ แต่พอตกเย็น ตนและสามีก็ได้รับการข่มขู่ โดยลูกชายของคู่กรณีด้วยเช่นกัน จึงคุยกับสามีว่าจะไปแจ้งความ หลังจากนั้นอีกหลายเดือน สามีโดนหมายเรียก จึงพาสามีเดินทางไปพบตำรวจ เลยได้มีการนัดเจอกับคู่กรณี คลิปหลักฐานจากคุณหนิง ตนได้แนบไปกับเอกสารตอนที่แจ้งความให้กับตำรวจแล้ว โดยวันที่ 14 ธ.ค. 66 ทางตำรวจได้เรียกสอบพยานทางฝั่งสามี แต่ในขณะที่สอบปากคำพยานอยู่นั้น ตนเห็นร้อยเวรมีท่าทางผิดปกติ หลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที ทางฝั่งคู่กรณีกระเด็นทางมาที่โรงพัก 3 คน ตนก็ตกใจและรู้สึกไม่ดี เนื่องจากอาจทำให้พยานกลัวจนไม่กล้าพูดได้

 

ทาง พ.ต.ท. ยุทธนา ภูเก้าแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ. โพธาราม กล่าวว่า กรณีที่ฝั่งคู่กรณีเดินทางมาโรงพักในวันที่มีการสอบพยาน ตนไม่รู้จริง ๆ ว่ามาได้อย่างไร และในการส่งหมายเรียกคุณแจ็คก็เรียกตามหลักฐาน ด้านหลักฐานทางฝั่งคุณแจ็คก็ได้รับทราบแล้ว ส่วนจะเป็นการป้องกันตัวหรือไม่นั้น จะมีการพิจารนาเป็นขั้นตอน ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

 

 

ฟาก ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวให้ความรู้ด้านกฎหมายว่า คู่กรณีสามารถแจ้งความได้เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ฝั่งคุณแจ็คก็สามารถแจ้งความหรือยื่นหลักฐานได้ด้วยเช่นกัน แต่หากเป็นการแจ้งความเพื่อกลั่นแกล้งคุณแจ็ค ให้รับโทษทางอาญา กรณีนี้มีโทษจำคุก 5 ปี อีกทั้งคลิปหลักฐานเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญหากต้องขึ้นศาล เนื่องจากคลิปหลักฐานไม่สามารถโกหกในกระบวนการยุติธรรมได้

 

คุณโสภา กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อได้ฟังสารวัตรก็รู้สึกสบายใจขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาตนคิดว่าฝั่งตนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ แต่กลับต้องมานั่งวิตกกังวลเสียเอง มันไม่สนุก ไม่โอเค ต้องขอบคุณคุณหนิง ที่อยู่เคียงข้างคอยเป็นกำลังใจให้ แล้ววันนี้ได้มาเจอคุณทินกับทนายสงกาญ์ ต้องขอขอบคุณที่ถกไม่เถียงเข้ามาช่วยเหลือพวกเรา