เปิดกฎหมาย ! ชายอายุ 83 ปี ขโมยเงินร้านค้า เปย์สาว | รู้กฎหมาย กับ มิสเตอร์ฆ่าโง่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คุณป้าอายุ 81 ปี สุดเอือมระอา สามีอายุ 83 ปี หลงสาวรุ่นลูก ขโมยของในบ้านเอาไปเปย์ หนักเข้าไปขโมยของ ขโมยเงินร้านค้าเอาไปให้ถึงบ้าน ถูกจับหลายครั้ง แต่ไม่มีใครอยากดำเนินคดี

 

ช่วงสายเมื่อวานนี้ ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสิงห์บุรี  รับแจ้งจากพลเมืองดี มีชายสูงวัยเข้ามาลักทรัพย์ในร้านค้าแห่งหนึ่ง ริมถนนสายสิงห์บุรี-ลพบุรี เจ้าของร้านคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ไปถึงเจอนางสาวนพคุณ มาทัพ อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน ชี้ตัวผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ ทำเอาตำรวจถึงกับตกตะลึง เพราะเพราะผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 83 ปี นั่งรอตำรวจอยู่ที่หน้าร้าน

 

นางสาวนพคุณ กล่าวว่า ชายสูงวัยรายนี้ มีนิสัยชอบฉกฉวยข้าวของในร้านค้าละแวกนี้บ่อยครั้ง แต่ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นผู้สูงอายุ จึงไม่มีใครเอาเรื่อง แต่ร้านค้าทุกร้านในบริเวณดังกล่าว ก็สั่งห้ามไม่ให้ชายคนนี้เข้าร้าน แต่ล่าสุดชายคนนี้เดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบเงินสดที่วางไว้ในร้านไป 3,000 บาท หันเห็นพอดี จึงคุมตัวไว้ ก่อนแจ้งตำรวจ

 

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ไม่ประสงค์จะดำเนินคดี ฝากตำรวช่วยว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้ประพฤติตนเช่นนี้อีก ซึ่งผู้ก่อเหตุก็รับปาก ก่อนพาไปส่งบ้าน พอมาถึงบ้าน ภรรยาของชายสูงวัยรายนี้ ถามตำรวจเอาสามีมาส่งทำไม เอ่ยปากตัดพ้อ บอกว่าไปก่อเหตุที่ไหนมาอีก พามาส่งทำไม ทำไมไม่จัดการให้เด็ดขาด ภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าด้วยว่า เดิมทีทั้งคู่เป็นชาวจังหวัดราชบุรี แต่ลูก ๆ ที่ทำงานอยู่สิงห์บุรี พามาอยู่ที่สิงห์บุรีด้วย สร้างบ้านให้อยู่กันสองคน แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว

 

ต่อมาสามีรู้จักมักคุ้นกับเพื่อนบ้านหญิงรายหนึ่ง มักจะมีข้าวของติดไม้ติดมือไปให้หญิงเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เงินทอง หรือแม้กระทั่งสังกะสีและไม้เก่าที่บ้าน ก็ขนไปให้สาวคราวลูกหมด ทนไม่ไหว ต้องปิดบ้านไม่ให้สามีเข้าบ้าน ให้นอนนอกบ้าน ซื้อมุ้งและที่นอนไว้ให้ แต่สามีก็ยังงัดบ้านเข้าไปขนทรัพย์สินอยู่ในบ้านเป็นประจำ และเมื่อเข้าไปในบ้านไม่ได้ สามีก็ออกไปหยิบฉกทรัพย์สินตามร้านค้าในหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครเอาความเพราะเห็นเป็นผู้สูงอายุ ทำให้สามีได้ใจก่อเหตุมาเรื่อย ต้องคอยตามชดใช้เงินคืนให้เจ้าทุกข์เป็นประจำ ครั้งนี้ต้องการให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากใครไม่เอาเรื่องตนเองจะเป็นผู้แจ้งความเอาเรื่องเอง เพราะขโมยเงินของตนและทำร้ายร่างกายตนอยู่เป็นประจำ  

 

ตำรวจโทรศัพท์ไปหาลูกชายให้มาจัดการ พอลูกชายมาถึงก็ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับพฤติกรรมของผู้เป็นพ่อ พร้อมยินดีหากจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด สุดท้ายเจ้าหน้าที่เกลี่ยกล่อมอยู่นาน กว่าทั้งภรรยาและลูกชายจะยินยอมไม่ส่งตัวไปดำเนินคดี ขณะที่ผู้ก่อเหตุเองก็รับปากจะเลิกพฤติกรรมดังกล่าว หากทำอีกก็พร้อมที่จะติดคุก

 

ติดตามประเด็นนี้และแง่มุมทางกฎหมาย กับ “มิสเตอร์ฆ่าโง่” อ.สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์