หลาย ๆ คนคงเห็นข่าวว่าเรื่องสินค้าคงคลัง แต่ว่ามันคืออะไร วันนี้มีคำตอบ ?
สินค้าคงคลัง (Inventory) คือ สินค้าหรือวัตถุดิบที่ธุรกิจมีไว้เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตหรือจำหน่ายในอนาคต สินค้าคงคลังถือเป็นสินทรัพย์ขององค์กรธุรกิจ และมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที และลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนสินค้า
สินค้าคงคลังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้
- วัตถุดิบ คือ วัสดุหรือชิ้นส่วนที่ซื้อมาเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิต
- สินค้าระหว่างผลิต คือ วัตถุดิบที่อยู่ระหว่างกระบวนการผลิต
- สินค้าสำเร็จรูป คือ สินค้าที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมจำหน่าย
- สินค้าคงคลังอื่น เช่น สินค้าคงคลังทางการตลาด (Marketing Inventory)
- สินค้าคงคลังทางการเงิน (Financial Inventory) เป็นต้น
โดยการบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพของภาคธุรกิจมีผลกระทบต่อภาคครัวเรือนในหลายด้าน ดังนี้
- ด้านราคาสินค้า การบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมต้นทุนสินค้าคงคลังได้ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้าที่จะขายให้กับผู้บริโภค หากธุรกิจมีการบริหารสินค้าคงคลังที่ดี สินค้าคงคลังจะมีปริมาณที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าคงคลังลดลง และราคาสินค้าขายปลีกก็จะถูกลง
- ด้านความสะดวกในการซื้อสินค้า การบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะขาดตลาด
- ด้านความหลากหลายของสินค้า การบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดหาสินค้าหลากหลายประเภทและปริมาณให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามความต้องการ
วิธีการรับมืหากสินค้าเกิดปรับราคาสูงขึ้น
เมื่อสินค้าปรับราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคอาจได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตสูงขึ้น ความสามารถในการซื้อสินค้าลดลง หรือการลดคุณภาพของสินค้าลง เป็นต้น ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรมีวิธีการรับมือที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ดังนี้
- วางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ โดยประเมินค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน และกำหนดงบประมาณในการใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่ เพื่อให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว รับประทานอาหารนอกบ้าน หรือซื้อของฟุ่มเฟือย เป็นต้น
- หาแหล่งซื้อสินค้าราคาประหยัด เช่น เลือกซื้อสินค้าตามโปรโมชั่น หรือซื้อจากร้านที่ขายสินค้าในราคาต่ำกว่าท้องตลาด
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เช่น ลดปริมาณการบริโภคสินค้าบางประเภท หรือหันมาบริโภคสินค้าทดแทนที่มีราคาถูกกว่า
- หารายได้เพิ่มเติม เช่น ทำอาชีพเสริม หรือทำงานพิเศษ เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างเหมาะสม และหากพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital