หนุ่มร้อง ถูก “ญาตินายกฯ” ยิงผิดตัว กระสุนฝังหัว คดีไม่คืบ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มโรงงาน เลิกงานมาตอน 18.00 น. กำลังจะขี่รถไปร้านขายของชำของน้อง แต่ระหว่างทางพบเพื่อนกำลังจับกลุ่มกันอยู่จึงจอดรถลงไปถาม แต่ยังไม่ทันเดินไปถึงเพื่อนเลย กลับถูกยิงกระสุนแสกหน้า เพื่อนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล

 

เป็นคลิปเหตุการณ์หลังผู้บาดเจ็บถูกยิงแล้ว จะเห็นว่าผู้บาดเจ็บยังไม่รู้เรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นเลย ยังเดินอยู่ด้วยอาการงง ตอนนี้เรื่องผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตอย่างปกติ ยังคงตั้งวงดื่มเหล้าหน้าบ้านอยู่เป็นประจำ ผู้บาดเจ็บกลัวว่าคดีจะไม่คืบ จึงเดินทางมาร้องเพจสายไหมต้องรอด

 

เมื่อเช้านี้ นายนลธวัฒน์ มั่นน้อย หรือแมน อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย มาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรมเนื่องจากคดีไม่คืบหน้า และผู้ก่อเหตุไม่รับผิดชอบเยียวยาใด ๆ

 

โดยนายแมน เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ใน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา วันเกิดเหตุ ตนเองเลิกงานตอน 18.00 น. จากนั้นตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บ้านน้องที่ขายของชำอยู่ ระหว่างทางที่จะไปบ้านน้อง ได้เจอกลุ่มเพื่อนของตนกำลังจับกลุ่มอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งริมถนน ตนจอดรถแล้วเดินลงไปถาม แต่ช่วงระหว่างที่กำลังจะเดินไปถามเพื่อนว่ามีอะไร ทำไมถึงจับกลุ่มกันอยู่ ตนเองก็ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องว่า ปืน ๆ  จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตอนนั้นตนเองรู้สึกว่ามีเลือดไหลออกมาจากศรีษะ และเลือดออกทางปาก ทางจมูก และชาที่บริเวณหน้าผาก ตนจึงรู้ว่าถูกยิง เพื่อน ๆ จึงพาไปส่งโรงพยาบาล หมดได้บอกว่า กระสุนปืนฝังเข้าไปในกระโหลกศรีษะ ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู 2 วัน และรักษาตัวในห้องผู้ป่วยปกติอีก 5 วัน

 

ต่อมาหลังเกิดเหตุได้ 2 วัน ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางปะกง และมีลูกน้องกำนันไปประกันตัวออกมา ซึ่งระหว่างที่ตนรักษาตัวอยู่ ฝ่ายคู่กรณีไม่เคยไปเยี่ยม และไม่เคยติดต่อเจรจาเยียวยาค่ารักษาพยาบาลเลย หลังตนออกจากโรงพยาบาลก็เจอกลุ่มคู่กรณีอีกครั้ง แต่กลุ่มคู่กรณียังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่รู้สึกผิด ไม่ขอโทษ และกร่างใส่ทุกครั้งที่เจอ ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวถูกข่มขู่ และถึงแม้พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนไปที่ชั้นศาลแล้ว แต่ก็กังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่ เพราะคู่กรณีข่มขู่ว่าให้สู้คดีกับผีดีกว่าสู้คดีกับคน

 

ซึ่งตอนนี้กระสุนยังฝังอยู่ในหัว หมอแนะนำให้ผ่าตัดแต่ตนไม่มีเงินเพราะตัดใช้เงินค่ารักษาเป็นล้านบาท ตนจึงตัดสินใจไม่ผ่า และจากกระสุนที่ฝังในหัวทำให้มีอาการชาครึ่งซีกบริเวณศีรษะ และมักปวดหัวบ่อย ๆ หมอบอกว่าหากปล่อยไปอาจมีโอกาสชัก 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในระยะยาวหมอตอบไม่ได้ว่าจะมีอาการตอนไหนบ้าง ซึ่งตนกังวลเรื่องกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในหัว 

 

ตนถือว่ายังโชคดีอยู่ที่กระสุนไม่เข้าตา ห่างเพียงไม่กี่เซ็นติเมตร และปืนที่ใช้เป็นปืนไทยประดิษฐ์ใช้ลูกปืนลูกซองขนาด 9 ทำให้ความแรงของกระสุนไม่ทะลุถึงสมอง เบื้องต้นผู้ก่อเหตุถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า และ การครอบครองอาวุธปืน

 

ด้าน นายเอกภพ บอกว่าหลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปขอรับเงินเยียวยา และขอคุ้มครองพยานเพราะคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขณะเดียวกันจะให้ตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบรายชื่อผู้มีอิทธิพลด้วย 

 

สอบถาม นายพีรพล สุวรรณทับ ซึ่งเป็นคู่กรณีกับผู้ก่อเหตุในวันเกิดเหตุ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนและกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ถูกกันอยู่แล้ว ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ตนเองขับรถไปบ้านแฟนเพื่อน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผู้ก่อเหตุออกไปประมาณ 25 เมตร ระหว่างที่ตนเองกำลังคุยอยู่กับเพื่อนที่หน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์มาเบิ้ลเครื่องรถใส่ ตนเลยเบิ้ลกลับคืน ผู้ก่อเหตุก็เลยชูนิ้วกลางให้ วันต่อมาตนจึงนัดกลุ่มผู้ก่อเหตุมาเคลียร์ใจกันตัวต่อตัว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเคลียร์ แถมยังบอกว่า เจอที่ไหนจะเล่นที่นั้นเลย ตนเองจึงให้ผู้ใหญ่เข้าไปช่วยเจรจา และได้นัดกันไปที่บ้านของแฟนเพื่อนตอน 18.00 น. พอไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุได้พยายามเรียกให้ตนเดินไปหาที่หน้าบ้าน แต่ตนไม่ได้เดินไป สักพักกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยิงปืนใส่เข้ามา 1 นัด แต่โดนเพื่อนตนที่ขี่รถจักรยานยนต์มาพอดี โดยไม่รู้เรื่อง

 

ที่ผ่านมากลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังทำตัวกร่างใส่ แต่ตนไม่สนใจ เพราะตำรวจบอกให้เงียบไว้ ถ้าทำอะไรไปจะทำให้รูปคดีเสีย ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจยิงใส่ตนแน่นอน เพราะถ้ายิงปืนขู่ควรยิงปืนขึ้นฟ้า