โรงเรียนแจง ! ปมเป่านกหวีด หลังหมู่บ้านร้องเสียสุขภาพจิต | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กลายเป็นดรามาที่มีคนแสดงความคิดเห็นมากมาย หลังจากมีนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ส่งหนังสือถึงโรงเรียนมัธยมที่อยู่ใกล้กัน ว่าเสียงนกหวีดที่เป่าจัดการจราจรในช่วงเช้า ส่งเสียงรบกวนลูกบ้าน และทำให้เสียสุขภาพจิต ซึ่งวันนี้ โรงเรียนมีคำชี้แจง รวมถึงความเห็นของชาวบ้านที่อยู่ดั้งเดิมในบริเวณนั้นด้วย

 

นี่เป็นเสียงนกหวีดที่ครูโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย บนถนนไทยรามัญ ในเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป่าเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรหน้าโรงเรียนในช่วงเช้า เพื่อให้เด็กนักเรียนข้ามถนนอย่างปลอดภัย แต่ว่าเสียงนกหวีดดังกล่าว กลายเป็นปมปัญหา เมื่อมีหนังสือจากนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ที่อยู่ใกล้โรงเรียน ส่งถึงโรงเรียนให้ช่วยหาวิธีไม่ให้เป่านกหวีดเสียงดังในตอนเช้า เนื่องจากส่งเสียงรบกวนลูกบ้าน และทำให้เสียสุขภาพจิต

 

ตอนแรก โรงเรียนแก้ปัญหาอย่างเงียบ ๆ มีการเป่านกหวีดน้อยลง แต่ว่าเรื่องรั่วไหลรู้ไปถึงศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้ จึงโพสต์เพื่อปกป้องโรงเรียนว่า โรงเรียนสร้างมาก่อน 30 ปีแล้ว ล้อมรอบด้วยทุ่งนา แต่หมู่บ้านเพิ่งสร้างขึ้นไม่กี่ปี ก่อนซื้อบ้านน่าจะรู้ว่าอยู่ติดกับโรงเรียน และการเป่านกหวีดก็เพื่อโบกรถให้นักเรียนเดินข้ามถนนเข้าโรงเรียนอย่างปลอดภัย ซึ่งหลังโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป กลายเป็นดรามา มีการแชร์และแสดงความคิดเห็นมากมาย

 

ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ด้านหน้าโรงเรียนตั้งแต่เช้า พบว่า ช่วงที่นักเรียนเดินทางมาโรงเรียนมากที่สุด คือช่วงเวลาตั้งแต่ 06.45-07.30 น.ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีรถออกจากหมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ ขับผ่านมายังบริเวณหน้าโรงเรียน อีกทั้งถนนหน้าโรงเรียน เป็นสามแยกจำนวน 2 แยกติด ๆ กัน และรถบางคันขับมาด้วยความเร็ว ทำให้ครูต้องออกมาทำหน้าที่จัดการจราจรให้นักเรียน ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.45-07.30 น. และครูจะเป่านกหวีดให้สัญญาณรถแค่ช่วงเวลานี้ ครูที่ทำหน้าที่โบกรถตอนเช้าบอกว่า เคยหยุดเป่านกหวีด และใช้ธงโบกรถอย่างเดียว รถบางคันก็ไม่หยุดให้นักเรียนข้ามถนน ซึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว ตอนนี้จึงต้องเป่านกหวีด พร้อมสัญญาณมือเหมือนเดิม แต่ก็พยายามหาวิธีลดเสียงนกหวีดลง

 

คุณรัฐกิจพงษ์ เจริญ ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนดั้งเดิมในย่านนี้ บอกว่า โรงเรียนตั้งมา 30 กว่าปีแล้ว เดิมอยู่โดด ๆ กลางทุ่งนา กระทั่งปีที่ผ่านมา มีหมู่บ้านเกิดขึ้นด้านข้างโรงเรียน และอีกหลายหมู่บ้านเกิดขึ้นบริเวณนี้ จึงทำให้มีรถจากผู้อยู่อาศัย รวมถึงรถบรรทุก ใช้ถนนผ่านโรงเรียน ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงเช้า

 

ครูเคยใช้ธงโบกอย่างเดียว บางคันไม่หยุด จึงจำเป็นต้องเป่านกหวีด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนที่มีอยู่ประมาณ 3,000 คน ดังนั้น ก็อยากให้ผู้ที่รู้สึกได้รับความเดือดร้อนจากเสียงนกหวีด พูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน และอยากให้ตำรวจมาช่วยอำนวยการจราจรในช่วงเช้าด้วย

 

คุณป้าประเทือง อิ่มคง ซึ่งขายของอยู่หน้าโรงเรียน และเป็นชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ก่อนการสร้างโรงเรียน บอกว่า การเป่านกหวีด เพื่อดูแลเด็กช่วงข้ามถนนในช่วงเช้า เต็มที่แค่ครึ่งชั่วโมง และไม่ได้เป่าตลอดเวลา เป่าเป็นระยะเท่านั้น ซึ่งตอนเช้ารถเยอะมาก ถ้าไม่เป่านกหวีด โบกรถไม่อยู่ เดิมนั้น ถนนที่คั่นกลางระหว่างหมู่บ้านจัดสรรกับโรงเรียนไม่มี แต่เมื่อหมู่บ้านตัดถนนเส้นนี้เพื่อความสะดวก จึงมีรถใช้เส้นทางนี้เยอะมาก

 

ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย ออกแถลงการณ์เรื่องการใช้นกหวีดอำนวยความสะดวกช่วง 06.00-07.30 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก และเป็นช่วงที่นักเรียนเดินทางมาโรงเรียนจำนวนมากเช่นกัน จึงเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดกับนักเรียนและผู้สัญจรไปมา แต่เพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างโรงเรียนกับชุมชนไม่ให้เกิดความขัดแย้ง โรงเรียนก็จะให้ใช้เพียงสัญญาณมือ หรือ ธงสี ในการอำนวยความสะดวก และใช้นกหวีดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังนิติบุคคลของหมู่บ้านจัดสรรที่ส่งหนังสือถึงโรงเรียนเรื่องเสียงนกหวีด แต่ว่าพนักงานของนิติบุคคลไม่อยู่ และก็ไม่มีใครให้ข้อมูลในเรื่องนี้ได้