logo ถกไม่เถียง

หนุ่มไข้ขึ้นเข้า รพ. “หมอให้น้ำเกลือที่เท้า” สุดท้าย บวมช้ำ “เท้าดำ” ต้องตัดขา !

ถกไม่เถียง : คุณแม่ ร้องสื่อ หลังลูกชายป่วยไข้ขึ้น พาเข้าโรงพยาบาล มีการ "ให้น้ำเกลือ" แต่สุดท้าย เท้าบวมช้ำ ดำแห้ง พร้อมหมอแจ้ง ต้องตัดขา !? หมอให้น้ำเกลือที่เท้า,ให้น้ำเกลือที่เท้า,ให้น้ำเกลือ,ไข้ขึ้น,ไข้สูง,เจาะน้ำเกลือ,เจาะน้ำเกลือที่เท้า,น้ำเกลือ,เท้าบวม,เท้าช้ำ,เท้าดำ,เท้าเน่า,ต้องตัดขา,ตัดขา,ตัดเท้า,ตัดขาทิ้ง,เท้าอักเสบ,เนื้อเยื่อตาย,เนื้อเยื่ออักเสบ,ถกไม่เถียง,TERO Digital,ทิน โชคกมลกิจ

470 ครั้ง
|
26 ธ.ค. 2566
คุณแม่ ร้องสื่อ หลังลูกชายป่วยไข้ขึ้น พาเข้าโรงพยาบาล มีการ "ให้น้ำเกลือ" แต่สุดท้าย เท้าบวมช้ำ ดำแห้ง พร้อมหมอแจ้ง ต้องตัดขา !?
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มไข้ขึ้นเข้า รพ. “หมอให้น้ำเกลื
 
            วันที่ 26 ธ.ค. 2566 กัลยกร หมัดสมาน (บุ๋ม) แม่ของผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 เวลา 23.00 น. ลูกชายตนมีอาการไข้สูง 41 องศาฯ หายใจเหนื่อยหอบ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้นตนได้เข้าไปเยี่ยมที่ห้องฉุกเฉิน ก็พบว่าว่าทางโรงพยาบาลได้ให้น้ำเกลือกับลูกชายบริเวณเท้า ซึ่งตนสังเกตเห็นว่า มันมีเลือดหยด และมีเลือดไหลย้อนที่สายน้ำเกลือเยอะมาก ตนได้แจ้งพยาบาลแต่กลับถูกเมิน ทว่าตนคิดว่าไม่มีอะไร เพราะเห็นมีการใช้เครื่องที่ช่วยดันน้ำเกลือช่วยดันเลือดเข้าไปอยู่ เลยปล่อยไป
 
            ทว่าหลังจากนั้นเวลา 03.40 น. ของวันที่ 24 พ.ย. 2566 ได้มีการนำตัวลูกชายส่งเข้า ICU โดยไม่ได้บอกอาการอะไรตนเลย ต่อมาช่วงเที่ยงตนได้เข้าไปเยี่ยมลูกชาย ก็พบว่าบริเวณเท้าซ้ายของลูกมีรอยฟกช้้ำ และมีอาการบวม จากนั้นวันที่ 25 พ.ย. 2566 เท้าของลูกมีอาการบวมมากขึ้น เริ่มกลายเป็นสีม่วง ช้ำไปถึงหน้าแข้ง เหลือเว้นแค่ช่วงนิ้วเท้า ต่อมาวันที่ 27 พ.ย. 2566 เท้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ โดยที่มีรอยเจาะ แต่ตนไม่ทราบว่าพยาบาลเจาะเอาอะไรออก ซึ่งอาการเท้าของลูกชายเริ่มแย่ขึ้นเรื่อย  ๆ กระทั่งวันที่ 6 ธ.ค. 2566 เท้าเริ่มแห้งและเล็บเปลี่ยนเป็นสีดำ สุดท้ายวันที่ 22 ธ.ค. 2566 บริเวณรอบทั้งเท้าของลูกกลายเป็นสีดำ แห้งสนิท ตนเห็นครั้งแรกถึงกับร้องไห้ เพราะสงสารลูกเลยทีเดียว 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มไข้ขึ้นเข้า รพ. “หมอให้น้ำเกลื
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มไข้ขึ้นเข้า รพ. “หมอให้น้ำเกลื
 
            ทั้งนี้ตนได้ทวงถามถึงโรงพยาบาลว่า เท้าของลูกชายมันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ อีกทั้งยังได้ขอให้เขาส่งตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐฯ แต่ทางโรงพยาบาลรัฐฯกลับไม่รับเคส ยิ่งทำให้ตนสงสัยขึ้นไปอีกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน จนสุดท้ายแล้ว ทางโรงพยาบาลกลับประชุมหาข้อสรุปกันว่าจะตัดเท้าลูกของตนตรงไหนดี ทั้งที่ตนยังไม่ได้รับการอธิบายใด ๆ เลย ซึ่งตนได้ร้องเรียนมาแล้วหลายที่ ทั้งแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จนสุดท้ายแล้วต้องมาพึ่งสื่อ  
 
            นอกจากนี้ ตนมีอีกหนึ่งข้อสงสัย คือ เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ลูกชายตนเกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อช่วง ต.ค. ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระโหลกร้าวเยื่อสมองฉีกขาด จนต้องผ่าตัดรักษาอาการ มาได้ออกจากโรงพยาบาลวันที่ 12 พ.ย. 2565 ตอนนั้นน้องยังมีอาการดี พูดได้ เดินได้ เล่นได้ปกติ ต่อมาได้ไปตัดไหมแผลผ่าตัดวันที่ 25 พ.ย. 2565 พยาบาลได้ทำการดึงคลิปแม็กที่อยู่บริเวณศีรษะออก แล้วลูกชายก้ร้องว่า "โอ๊ยเจ็บ" ซึ่งเป็นคำสุดท้ายที่ลูกชายพูด พอกลับมาบ้านก็ไม่พูดอีกเลย และก็กลายเป็นคนตอบสนองช้าไปเลย ขณะเดียวกัน หมอแจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะกระโหลกแตก ไม่มีอะไรกั้นสมองไว้ ถ้าผ่าตัดปิดกระโหลกแล้ว น่าจะดีขึ้น ทว่า เดือน มี.ค. 2566 ก็ไปผ่าปิดกระโหลกก็ไม่ดีขึ้น ทำให้ตนสงสัยว่ามันเป็นเพราะอะไร 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มไข้ขึ้นเข้า รพ. “หมอให้น้ำเกลื
 
            ฟาก รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ผู้บาดเจ็บกลายเป็นคนตอบสนองช้า หลังจากที่ดึงเอาคลิปแม็กออกนั้น ตนคิดว่าเป็นความบังเอิญมากกว่า เพราะ บริเวณที่เอาคลิปแม็กออกนั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อสมอง ส่วนประเด็นการให้น้ำเกลือที่เท้านั้น มันเป็นเรื่องปกติของทางการแพทย์ที่ใช้กัน และเนื่องด้วยตัวผู้บาดเจ็บมีภาวะไข้สูง และหอบเหนื่อย ซึ่งมันอาจจะมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ซึ่งการติดเชื้อในกระแสเลือดมันจะมีโอกาสความดันตก จึงทำให้การเจาะเลือดนั้นยาก จึงต้องไปเจาะที่เท้าที่มีเส้นเลือดที่ใหญ่กว่าอยู่  
 
            ส่วนเรื่องเท้า ที่บวมคล้ำ ช้้ำม่วง จนดำแห้งในที่สุดนั้น มันเป็นลักษณะของการขาดเลือด จึงทำให้เนื้อเยื่อตาย ทว่าได้มีการตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้มีลิ่มเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดตีบ แต่ก็จะมีภาวะที่ความดันเลือดตก ทำให้เลือดไปเลี้ยงตรงส่วนนั้นไม่พอ ขณะเดียวกัน จากที่ตนเห็นอาการผู้บาดเจ็บจากในรูปนั้น จะเห็นได้ว่า เนื้อเยื่อจะช้ำพองขึ้นไปจนถึงช่วงขา แสดงได้ว่า มีการติดเชื้อ ทว่าต้องมาตรวจสอบกันว่า ที่ติดเชื้อนั้นมันมาจากการเจาะให้น้ำเกลือของพยาบาลหรือไม่ ซึ่งตามปกติแล้วการติดเชื้อมันจะไม่ได้มีผลจนถึงขั้นเนื้อเยื่อตายแบบนี้ อย่างไรก็ตามต้องมีการตรวจสอบกัน 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มไข้ขึ้นเข้า รพ. “หมอให้น้ำเกลื
 
            ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า สำหรับเคสนี้ ถ้าเกิดจากความผิดพลาดประมาทของแพทย์ พยาบาล ทางคุณแม่ต้องรีบไปแจ้งความ ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ สอบสวน แพทย์ และพยาบาล ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ว่าการติดเชื้อของผู้บาดเจ็บ เกิดจากแพทย์หรือพยาบาล เพราะบางทีอาจเป็นเจ้าหน้าที่ที่เพิ่งมาทำงานใหม่ นอกจากนี้ คุณแม่ได้แจ้งความแล้ว แต่เป็นการแจ้งความดำเนินคดีกับทางโรงพยาบาลนั้นทำไม่ได้ ต้องแจ้งความแพทย์ และพยาบาล ในคดีอาญา ว่ามีการประมาททำให้ได้รับบาดเจ็บอันตรายสาหัส ตำรวจจึงจะดำเนินการต่อ ซึ่งถ้ามีการประมาทจริง คุณแม่ก็แจ้งฟ้องร้องคดีแพ่งได้เลย  
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 


ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/wYjX5KX2lL0

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง