เช้านี้ที่หมอชิต - พี่สาวแฉเอง ไอ้เดช มือแทง หมวดอี๊ดเสียชีวิตไม่ได้ป่วยจิต แต่เสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่ง ล่าสุดส่งบำบัดได้ 2 เดือนออกมาวันแรกก็เสพทันที ไม่คิดว่าจะฆ่าตำรวจคนที่เคยดูแลสนิทกันส่วนตัว
นางอาพิยุ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พี่สาวของนายอานุเดช หรือ เดช อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาใช้มีดจ้วงแทง ร้อยตำรวจโท อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ หรือ หมวดอี๊ด อายุ 56 ปี รองสารวัตรปราบปราม สภ.ธาตุพนม เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายเดช เป็นน้องชายคนกลางในบรรดาพี่น้อง 3 คน เคยแต่งงานและลูกชาย 1 คน แต่หย่าร้างกับภรรยา เพราะติดยาบ้ามานานกว่า 10 ปี หลังกลับจากทำงานรับจ้างต่างจังหวัด มาอยู่บ้านตน มีพฤติกรรมเสพยาบ้ามาตลอด เคยประสานฝ่ายปกครองนำตัวไปบำบัดรักษาหลายรอบสุดท้ายกลับมาเสพอีก
กระทั่ง 3-4 ปีที่ผ่านมา อาการหนัก เสพยาจนขาดสติ โวยวายทำร้ายคนในครอบครัว ตนถึงขั้นแจ้งตำรวจมาจับน้องชายเพราะสุดทน ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 7 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี ก็กลับมาเสพหนักว่าเดิม ล่าสุดส่งตัวไปบำบัดที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เป็นเวลา 2 เดือน แต่ออกมาจากบำบัดวันเดียวกลับไปเสพยาอีก โดยก่อนมาก่อเหตุทำร้ายตำรวจจนเสียชีวิต น้องชายหายไป 4 วันกลับมาเช้าวันเกิดเหตุ มีอาการคลุ้มคลั่งถือมีดพร้าตะโกนหาเรื่องญาติ เพื่อนบ้าน จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านประสานตำรวจมาตรวจสอบควบคุมเหตุ ซึ่งหมวดอี๊ดจะมาดูแลเองเพราะสนิทสนมกับน้อง เข้าระงับเหตุบ่อยครั้งจนคุ้นเคยกัน น้องฟังหมวดอี๊ด ยอมกินยาระงับประสาท จึงไม่คิดน้องชายจะกล้าฆ่าตำรวจน้ำดี ส่วนตัวเชื่อปมก่อเหตุมาจากเมายาบ้าจนสติหลุด ไม่ใช่ป่วยจิตเวช เพราะไม่เคยมีประวัติรักษาอาการทางจิตเวช มีแต่เข้าบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด
ผู้ใหญ่บ้านเผยคลาดกันแค่ 10 นาที ก่อน หมวดอี๊ด ถูกแทงตาย จ.นครพนม
เช่นเดียวกับนายศุภชัย พ่วงศิริ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เชื่อว่านายเดชไม่ได้ป่วยจิต แต่เพราะเมายาบ้าอย่างหนัก ช่วงเกิดเหตุประสานหมวดอี๊ดเข้าระงับเหตุ โดยบอกให้รอเข้าพร้อมกัน แต่หมวดอี๊ดยืนยันสามารถเกลี้ยกล่อมได้ จึงยอมให้เข้าไปก่อน เพราะเชื่อใจนายเดชจะไม่ทำรุนแรง ผ่านไป 10 นาที ตนตามเข้าไปช่วย พบหมวดอี๊ดถูกแทงเสียชีวิตแล้ว
ไอ้เดช มือแทงตำรวจ ถูกแจ้ง 7 ข้อหารวด
ด้านคดีนายเดชถูกแจ้งทั้งหมด 7 ข้อหา ได้แก่ เสพยาบ้า, ฆ่าเจ้าพนักงานฯ, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์ไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, วิ่งราวทรัพย์, อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธและอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร
นอกจากนี้ มีการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งนายเดชสามารถให้การได้ พร้อมรับสารภาพและตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะด้วย
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม