ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ชุดหนุมานกองปราบปราม รวบยกแก๊ง พ่อชาวไต้หวัน จ้างวาน พลเรือตรี และลูกน้องอดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ฆ่าลูกชายตัวเอง พบประวัติเคยติดคุกคดีทุบหัวฆ่าตำรวจฝังดินเมื่อปี 49
ตำรวจกองปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมานกองปราบ นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุดใน 3 จังหวัดทั้งที่ชลบุรี, สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ เพื่อจับกุมผู้ต้องหาในคดีใช้จ้างวานฆ่าลูกบุญธรรมของตัวเอง แต่คนร้ายยังไม่ทันก่อเหตุเพราะกลับใจ
เป้าหมายสำคัญอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งในเขตลาดกระบัง ไปจับกุมพลเรือตรีนายหนึ่ง ตามหมายจับศาลอาญา ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังพบความเชื่อมโยงกับคดีนักธุรกิจชาวไต้หวัน จ้างวานฆ่าลูกชายบุญธรรมของตัวเอง แต่เหตุไม่สำเร็จ
โดยขณะที่ชุดจับกุมมาถึงเป้าหมายพร้อมอาวุธครบมือ ได้ตรึงกำลังอยู่หน้าบ้านพักต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงอ่านหมายจับและเข้าไปค้นภายในบ้านพัก อีกหนึ่งเป้าหมายในพื้นที่เขตทวีวัฒนา จับกุมอดีตนายทหารเรือนอกราชการยศนาวาเอกในความผิดเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหารายนี้ เคยต้องคดีฆ่าทุบหัวฝังดิน ตำรวจยศสิบตำรวจเอก ตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่สอด เมื่อปี 2549 อีกทั้งยังจับกุมชายชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้จ้างวานได้ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ
ปฎิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากผู้เสียหายชาวไต้หวัน มาแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามว่าถูกขู่ฆ่า ตำรวจจึงขยายผล ทราบคนบงการ คือชายชาวไต้หวันซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของผู้เสียหาย ที่จ้างวานนายทหารเรือทั้ง 2 นาย ให้หามือปืนมาฆ่า เนื่องจากไม่พอใจเรื่องส่วนตัว
สำหรับกลุ่มผู้รับงาน เป็นอดีตข้าราชการทหารเกษียน ซึ่งพลเรือตรีที่ถูกจับ เป็นที่ปรึกษาบริษัทของชายชาวไต้หวัน จึงติดต่อพรรคพวกคือทหารเรือยศนาวาเอก เป็นอดีตทหารหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ซึ่งเคยต้องโทษคดีฆ่าตำรวจมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับและเข้าจับกุม
ตำรวจสอบสวนสวนกลาง คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบปากคำ ยึดของกลางมีทั้งระเบิดขว้าง จำนวน 3 ลูก, ปืนลูกโม่, กระสุนปืน, ลูกระเบิด M79 จำนวน 10 ลูก, เสื้อเกราะกันกระสุน และรถยนต์ 2 คัน
สำหรับพฤติการณ์ทางคดี เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีความขัดแย้งกับบิดาเรื่องการเป็นกรรมการบริษัท ผลประโยชน์และอำนาจภายในบริษัทฯ ซึ่งประกอบธุรกิจผลิต-ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่ากว่าพันล้านบาท
โดยกำลังถูกคนปองร้าย เป็นคนมีสีระดับนายพล ผู้เสียหายกลัวมารดาจะได้รับอันตราย จึงให้หนีไปต่างประเทศ แต่ตัวเองยังอยู่ในประเทศไทย บริหารกิจการของบริษัท แต่ถูกคนติดตามตลอดเวลา ทั้งนี้บริษัทฯดังกล่าว มีชายชาวไต้หวันเป็นประธานบริษัท แต่ภายหลังผู้เสียหายและมารดาเข้ามาเป็นกรรมการบริษัท พบการทุจริต มีการห้องร้องกันไปมาทั้งแพ่งและทางอาญา
กระทั่งวันที่ 1 สิงหาคม 2566 นายทหารเรือยศพลเรือตรี สั่งการให้อดีตทหารเรือยศนาวาเอก นำกลุ่มคนเข้ามาข่มขู่ในบริษัท และวางแผนฆ่าผู้เสียหาย, มารดา และทนายความ โดยติดต่อกลุ่มมือปืนให้ดำเนินการ แต่มือปืนกลับใจ จนนำไปสู่การจับกุมขบวนการจ้างฆ่าดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กองปราบปรามดำเนินคดีต่อไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35