logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ออกถกไม่เถียง 2 วัน ! ส่อโอละพ่อ ทายาท 200 ล้านบาท อ้างถูกหลอกเซ็นพินัยกรรม | ถกไม่เท

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา นายปรีชา เครือพลอย อายุ 42 ปี และ นางสาว ศิริลักษณ์ จันทร์อ้น ch7hd news,ch7hdnews,ช่อง7,ช่อง7hd,ch7,ch7hd,ข่าว,news,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูย้อนหลัง,ดูทีวี,ดูข่าว,live tv,livetv,live ทีวี,live ข่าว,liveข่าว,ไลฟ์สดทีวี,ไลฟ์สดข่าว,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว7,ถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ทิน โชคกมลกิจ

454 ครั้ง
|
21 ธ.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา นายปรีชา เครือพลอย อายุ 42 ปี และ นางสาว ศิริลักษณ์ จันทร์อ้น อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา หอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ  มาออกรายการถกไม่เถียง เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเครือญาติจำนวน 6 คน หลังมีการปลอมลายเซ็นในพินัยกรรมของยายชุ่ม เครือพร อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายปรีชา และนำที่ดินมรดกบางส่วนไปขายได้เงินมากว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีที่ดินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถูกแอบอ้างโอนเป็นชื่อเครือญาติ โดยการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนลูกชาย เรื่องนี้ ทางญาติที่ถูกกล่าวหา ได้ออกมาโต้งแล้วนะครับ เรื่องราวตรงข้ามกลับที่นายปรีชาเล่าในรายการเลย
 
ที่นายปรีชา เล่าในรายการคือ เมื่อปี 53 ตนถูกจับดำเนินคดีจำคุกที่เรือนจำนนทบุรี ระหว่างที่ต้องโทษ แม่ของตนขณะนั้นอายุ 88 ปี ป่วยเป็นมะเร็ง ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จังหวัดนนทบุรี กลุ่มเครือญาติได้นำเอกสารมาให้ตนเซ็น ซึ่งตนอ่านหนังสือไม่ออกเพราะเรียนไม่จบ ป.6 ตนจึงไม่เซ็น หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ในเรือนจำนำเอกสารมาให้ตนเซ็นอีก โดยมีคำขู่ ด้วยความกลัวจึงเซ็นโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นเอกสารอะไร หลังจากได้พ้นโทษมาเมื่อปี 61 จึงมาทราบว่ากลุ่มเครือญาติไปร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ตน นอกจากนั้นยังพบว่าแม่ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินให้กลุ่มเครือญาติ ซึ่งตนมาทราบภายหลังโดยตรวจสอบเอกสารพินัยกรรม พบว่าลายเซ็นในพินัยกรรมไม่ใช่ลายเซ็นของแม่
 
ตอนนี้ตรวจสอบมรดกของแม่ทั้งหมด มีที่ดินพร้อมอาคารพาณิชย์ 3 คูหา ติดถนนรัตนาธิเบศร์ ถูกขายไปเป็นเงิน 36 ล้านบาท และที่ดินจำนวน 11 ไร่ ใน ตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย ถูกขายเป็นเงิน 11 ล้านบาท รวมมูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท โดยกลุ่มญาติแบ่งเงินให้ตนมาเพียง 4 ล้านบาทเท่านั้น ยังมีที่ดินเหลืออีกอยู่ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี, อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี และที่ด้านหลัง สภ.รัตนาธิเบศร์ รวมกว่า 100 ไร่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ถูกโอนแบ่งเป็นชื่อเครือญาติรวม 6 คน ซึ่งตนเกิดข้อสงสัยในมรดกของแม่ว่าทำไมตนเป็นลูกคนเดียวแต่ทำไมมรดกต้องถูกแบ่งให้คนอื่นที่เป็นญาติห่าง ๆ ด้วย ตอนนี้ได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว
 
ล่าสุด นางสาวบุญเสริม เม้าพุ่ม อายุ 64 ปี หลานสาวแท้ ๆ ของคุณยายชุ่ม เครือพร ได้นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ รวมทั้งโฉนดที่ดินจำนวนนับ 10 แปลง ซึ่งเป็นของคุณยายชุ่ม มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมทั้งเปิดเผย เรื่องราวอย่างละเอียดว่า ข่าวที่นายปรีชา เครือพลอย หรือ ตั้ม ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อนั้น ไม่ใช่เรื่องจริงเลย นายตั้ม เป็นเพียงเด็กทารก ที่คุณยายชุ่ม ไปขอมาจากโรงพยาบาล ตั้งแต่ยังแบเบาะ เลี้ยงดูอย่างดี แต่นายตั้ม กับประพฤติตัวไม่ดี ไม่เล่าเรียนหนังสือ ทำตัวเกเร นายตั้ม ชอบทำลายข้าวของในบ้านเวลาขอตังค์กับยายชุ่มไม่ได้
 
จนกระทั่งเมื่อหลายปีที่แล้ว นายตั้ม ได้ก่อเหตุวิ่งราว โดยใช้ยานพาหนะ เมื่อพ้นโทษออกมาในปี 61 ก็ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ข่มขืนจนถูกศาลตัดสินจำคุก พอปี 65 พ้นโทษออกมา ก็มาบังคับให้ทางญาติๆคุณยายชุ่ม ขายโฉนดที่ดิน จำนวน 11 ไร่ ทุกคนไม่เห็นด้วย เพราะอยากเก็บไว้เนื่องจากว่าอนาคต ราคาที่ดินจะแพงขึ้นมาก นายตั้ม ไม่ยอม ข่มขู่ทุกคนในบ้าน ว่าจะยิงทิ้งให้หมด แล้วจะเป็นผู้จัดการมรดกเอง ทางญาติเกรงกลัวจึงต้องตัดใจขายที่ดินดังกล่าวไป 11 ไร่ ได้เงินมา 11 ล้าน และแบ่งให้ญาติ ๆ และนายตั้ม คนละ 1,800,000บาท
 
หลังจากถลุงเงินจนหมดแล้ว นายตั้ม ได้มาบอกให้กับญาติพี่น้องคุณยายชุ่ม ขายที่ดินย่านถนนรัตนาธิเบศร์ โดยนายตั้มเองเป็นคนจัดการทุกอย่าง ท่ามกลางเสียงคัดค้านของญาติพี่น้องยายชุ่ม แต่นายตั้ม ก็โมโหไม่ยอมข่มขู่เหมือนเดิม คนในครอบครัว เกรงกลัวจึงต้องยอม และนายตั้มเองแหละ เป็นคนพาผู้ซื้อมาซื้อที่ดินแปลงนี้ โดยบอกกับทางญาติว่าขายได้ 36 ล้านบาท แนะนำมาแบ่งให้กับญาติทั้งหมด 4 คน ที่มีชื่ออยู่ในโฉนดคนละ 9 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริง นายตั้มเองขายไปถึงราคา 48 ล้านบาท
 
ส่วนที่ นายตั้ม บอกว่า พินัยกรรมที่คุณยายชุ่ม ทำให้เซ็นให้นั้น อาจไม่ใช่ของจริง ตอนยืนยันได้เลยว่า พินัยกรรมทำขณะที่คุณยายชุ่ม ยังมีสติสัมปชัญญะดี มีพยานที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่เชื่อถือได้ สามารถให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ตลอดเวลา โดยก่อนที่คุณยายชุ่มจะเสียชีวิต
 
ต่อจากนี้ไป ตนไม่ขอฟ้องร้องหรือเอาผิดกับนายตั้ม เพียงแต่อยากให้เขายุติเรื่องราวลงเท่านี้
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง