ระทึก ! หนุ่ม 25 ปี โดดน้ำหนีชายคล้ายตำรวจ หายไม่รู้ชะตากรรม | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มวัย 25 ปี ตกใจชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ ปักข้อความที่เสื้อว่า สืบสวน ที่พยายามเข้ามาจับตัว กระโดดน้ำคลองหนี จมหายไป 2 วันแล้ว ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร พบเพียงรถจักรยานยนต์ถูกทำลาย พ่อไปแจ้งความตำรวจปฏิเสธว่าไม่ใช่ตำรวจแน่นอน ขณะที่เพื่อนที่อยู่ด้วยกันตอนเกิดเหตุ บอกว่า กระโดดน้ำหนีแล้ว แต่ยังถูกขว้างซ้ำ ทั้งจอบ ท่อนไม้ ลูกมะพร้าว

 

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เกิดขึ้นบริเวณลำคลองมะม่วงสองต้น ตำบลม่ะม่วงสองต้น อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช ในภาพจะมีคนกระโดดลงไปในคลอง ที่น้ำกำลังไหลเชี่ยวกราก จากนั้นเห็นชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายตำรวจหรือฝ่ายปกครอง สวมเสื้อกั๊ก ด้านหลังมีข้อความคำว่า สืบสวน สะพายวัตถุบางอย่างคล้ายอาวุธปืน ส่วนอีกฝั่งคลอง มีชายสวมเสื้อขาว ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ไล่ ทำให้มีการกระโดดน้ำ มายืนดูอยู่ที่ริมฝั่ง

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 09.00 น. ของวันที่ 19 ธันวาคม หรือเมื่อ 2 วันก่อน โดยชายหนุ่มในภาพที่กระโดดลงน้ำ คือ นายพีระพงศ์ ชะตาฤกษ์ หรือ โอม อายุ 25 ปี อยู่หมู่ 1 ตำบลมะม่วงสองต้น ซึ่งจากวันนั้นถึงวันนี้ ยังคงหายตัวไป คงมีเพียงรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่เดิม ในสภาพที่มีร่องรอยการถูกทำลาย หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้ามาช่วยค้นหาร่างของนายพีระพงศ์ แต่ว่าลำคลองมีกระแสน้ำที่ไหลแรง เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการค้นหา ทำให้เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหา และตอนนี้ถือว่าหายไปเกิน 48 ชั่วโมงแล้ว 

 

เพื่อนของผู้สูญหายที่อยู่ด้วยกันขณะเกิดเหตุ ยอมรับว่า ตนเป็นผู้เสพยา แต่วันเกิดเหตุไม่ได้เสพ นั่งอยู่ที่ขนำริมคลองกับนายพีรพงศ์ จนเหลือบไปเห็นกลุ่มชายพวกนี้บุกเข้ามา ด้วยความตกใจ จึงบอกนายพีรพงศ์ว่าตำรวจ หลังจากนั้นจึงกระโดดลงไปในคลองพร้อมกัน คนละทิศคนละทาง และเห็นชัดว่าชายกลุ่มนี้ ยังพยายามทำร้าย โดยใช้จอบที่วางอยู่ ขว้างลงมาในคลองเกือบโดนศีรษะ จากนั้นตนพยายามลอยคอ แต่ถูกขว้างซ้ำด้วยผลมะพร้าวและท่อนไม้หลายครั้ง แต่ก็รอดพ้นจากจุดนั้น ส่วนเพื่อนได้หายไปในคลอง ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตหรือไม่อย่างไร และยังยืนยันด้วยว่ารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่นั้น ตอนเพื่อนขับมา ยังอยู่ในสภาพปกติ เมื่อขึ้นฝั่งได้ กลับมาดูอีกครั้ง พบว่าถูกทำลายเสียหายยับเยิน

 

นายสมพร ชะตาฤกษ์ พ่อของนายพีระพงศ์ บอกว่า ลูกชายสะพายกระเป๋าคาดอกอยู่ด้วย จึงกังวลว่าสายคล้อง จะไปเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ใต้น้ำ และเชื่อว่าหากลูกชายขึ้นฝั่งได้ จะต้องติดต่อครอบครัวหรือกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนโทรศัพท์ของลูกชาย ชาร์จแบตเตอรี่ไว้ ไม่ได้นำติดตัวไปขณะเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ ตนไปแจ้งความ นำภาพวงจรปิดไปให้ดู แต่ตำรวจปฏิเสธว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแน่ ถ้าตำรวจไม่ทำเช่นนี้ และรับแจ้งความไว้แค่เพียงคนหายเท่านั้น

 

เรื่องนี้หลายคนพยายามช่วยกันตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า ด้านหลังของเสื้อกั๊กบรรทัดบนสุด ระบุข้อความพออ่านได้ว่า สืบสวน ส่วนด้านล่างนั้น น่าจะเป็นสังกัด ไม่ชัดว่าจะเป็น สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หรือไม่ ส่วนรถที่กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ใช้ เป็นกระบะ 4 ประตู 2 คัน คันแรกสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อีกคันสีดำติดแผ่นป้ายทะเบียน