เช้านี้ที่หมอชิต - มหากาพย์คดีน้องชมพู่ ที่กินเวลานานกว่า 3 ปี เมื่อวาน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ลุงพล 20 ปี คดีน้องชมพู่ 2 ข้อหา ส่วน ป้าแต๋น ศาลยกฟ้อง
คุก 20 ปี ลุงพล คดีน้องชมพู่ ศาลให้ประกันตัว จ.มุกดาหาร
ช่วงเวลาเกือบเที่ยง เช้าวานนี้ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น เดินทางมาศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ลุงพล ป้าแต๋น จำเลยที่ 1 และ 2 กรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่
โดยฟ้อง ลุงพล ฐานความผิดเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย กระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือ สภาพแวดล้อมในบริเวณพบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
ส่วน ป้าแต๋น ในความผิดฐาน ร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือ สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือ ผลทางคดีเปลี่ยนไป
ช่วงเที่ยง ศาลพิพากษาว่า ลุงพล มีความผิด ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี, ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุก 10 ปี ส่วน ป้าแต๋น มีคำสั่งยกฟ้อง
เปิด 4 ข้อพิรุธคำให้การ ลุงพล
มาดู 4 ข้อพิรุธของลุงพลจากคำให้การ ที่นำไปสู่คำพิพากษาจำคุก 20 ปี ข้อที่ 1 วันเกิดเหตุ เวลา 09.00 น. น้องชมพู่และเด็กหญิง ก. พี่สาว นอนเล่นมือถือที่หน้าบ้าน จนเวลา 09.50 น. เด็กหญิง ก. ไม่เห็นน้องชมพู่จึงไปตามหา เด็กหญิง ก. เบิกความว่า ไม่ได้ยินเสียงน้องชมพู่ร้อง เชื่อว่าคนที่พา น้องชมพู่ ไป น่าจะเป็นคนใกล้ชิด เพราะ น้องชมพู่ จะร้องหากคนแปลกหน้าอุ้ม ทำให้ตำรวจตามสืบบุคคลทั้งหมด 14 คน แบ่งเป็นญาติ 12 คน และคนใกล้ชิด 2 คน พบมี 13 คน สามารถยืนยันที่อยู่ได้ในเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป ยกเว้น ลุงพล คนเดียว
ข้อที่ 2 คำให้การของ ลุงพล มีพิรุธหลายอย่าง เช่น อ้างว่าวันเกิดเหตุไปรับพระที่วัด แต่วันนั้นมือถือของ ลุงพล อยู่กับ ป้าแต๋น และทั้งคู่มีมือถือเครื่องเดียว แต่พอไปถึงวัดกลับบอกพระว่า เกือบไม่ได้มารับพระเพราะหลานหาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ ลุงพล จะทราบว่า น้องชมพู่ หายตัวไปในเวลานั้น เพราะไม่ได้พกมือถือ
ข้อที่ 3 พยานโจทก์ คือ นาย ว. และ นาง พ.ให้การว่า เจอ ลุงพล ในสวนยางพารา ตรงจุดที่สามารถเดินเข้าไปถึงจุดที่ น้องชมพู่ หายตัวไปได้ ในช่วงเวลาเกิดเหตุ และในขณะสืบสวน ลุงพล บอกให้นาย ว. บอกตำรวจว่า เจอ ลุงพล ตอน 07.00 น. ไม่ใช่ช่วงเวลาเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้ตำรวจสงสัย หาก ลุงพล ไม่ได้ทำผิด เหตุใดจึงต้องพูดลักษณะดังกล่าวกับพยาน ต่อมาขณะสืบสวน นาง พ. เบิกความว่า ไม่เห็น ลุงพล อยู่ที่สวนยางพารา แต่เป็นการกลับคำให้การหลังเกิดเหตุกว่า 2 ปี ซึ่งอาจเป็นการกระทำเพื่อช่วยเหลือ ลุงพล
ข้อที่ 4 เมื่อ ลุงพล ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตำรวจไปค้นรถของ ลุงพล พบเส้นผม 16 เส้น และพยานวัตถุอื่น ๆ ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ พบเส้นผม 1 เส้น ที่ตกในรถของ ลุงพล มีองศาของรอยตัด หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้าง ตรงกับเส้นผมของ น้องชมพู่ 2 เส้น ที่ตรวจเก็บได้จากจุดพบร่างของ น้องชมพู่ ผมทั้ง 3 เส้น คาดว่าถูกตัดในคราวเดียวกัน จึงเชื่อว่า ลุงพล ใช้กรรไกรตัดผม น้องชมพู่ แต่เส้นผมเล็กมาก ลุงพล จึงไม่ทันสังเกตว่ามีเส้นผม 1 เส้นตกในรถตัวเอง
ทั้งนี้ การสืบสวนสอบสวนของตำรวจไม่ได้มุ่งเป้าไปยัง ลุงพล ตั้งแต่แรก แต่เกิดจากการรวบรวมพยานหลักฐาน และตั้งข้อสันนิษฐานอย่างเป็นลำดับขั้น คาดว่า ลุงพล ไม่ได้มีเจตนาฆ่า หรือ ทอดทิ้ง น้องชมพู่ จากรายงานการชันสูตรพบรอยช้ำใต้หนังศีรษะ บริเวณหน้าผากซ้าย และท้ายทอยเป็นจ้ำ คาดว่า น้องชมพู่ หมดสติไป แต่ ลุงพล ไม่ดูให้ดี จึงพา น้องชมพู่ ไปทิ้งไว้บนภูเหล็กไฟ
ภายหลังมีคำพิพากษา ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ลุงพล วงเงิน 5 แสนบาท โดย ลุงพล ใช้หลักทรัพย์ที่ดินมูลค่า 780,000 บาท ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
ย้อนรอยมหากาพย์คดี น้องชมพู กว่า 3 ปี ไขปริศนา
สำหรับคดีการหายตัวไปของน้องชมพู่ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 พบศพ น้องชมพู่ สภาพเปลือยในป่าภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านถึง 2 กิโลเมตร ตำรวจเรียกสอบผู้สงสัยในหมู่บ้านจนมาถึงคิวของ ลุงพล คนที่ใกล้ชิดกับ น้องชมพู่ มากที่สุด จน ลุงพล กลายเป็นเซเลบดัง
แต่หลังผ่านไป 1 ปีเต็ม มีรายงานว่าตำรวจพบเส้นขน 3 เส้น อยู่ในจุดเกิดเหตุ หลังจากตรวจดีเอ็นเอแล้ว จึงชี้ชัดได้ว่าใครที่อยู่ใกล้ชิดกับ น้องชมพู่ ในวันนั้น จนต่อมา 1 มิถุนายน 2564 ตำรวจออกหมายจับ ลุงพล 3 ข้อหา ก่อนศาลจังหวัดมุกดาหารจะมีคำพิพากษาเมื่อวาน นับรวมเวลากว่า 3 ปี
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35