ย้อนดูเส้นทางมวยไทย ซุปเปอร์บอน ก่อนชิงบัลลังก์ “ตะวันฉาย” ศึก ONE ลุมพินี 46

922 ครั้ง

20 ธ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ย้อนดูผลงานบนสังเวียนมวยไทยที่ไม่ธรรมดาของ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” ก่อนขึ้นชิงบัลลังก์แชมป์โลก จาก “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้

“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” จอมเตะก้านคอ ดีกรีอดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 33 ปี จากพัทลุง ขอเปิดตำรา “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด” ท้าชิงบัลลังก์จาก “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)

โดยก่อนที่การแข่งขันจะระเบิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ เราจะขออาสาพาผู้อ่านทุกท่าน ย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นในเส้นทางนักมวยไทยของ “ซุปเปอร์บอน” ที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน

ซุปเปอร์บอน (แถวหน้า ที่ 2 จากซ้าย) พาดเข็มขัดแชมป์

สำหรับ “ซุปเปอร์บอน เริ่มฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ โดยได้รับการฝึกฝนจากคุณพ่อ นายรัตน์ หมื่นสังฆ์ ที่ชื่นชอบกีฬามวย เป็นชีวิตจิตใจ ถึงขั้นลงทุนเปิดค่ายมวยเป็นของตัวเองชื่อ "ลูกเจ้าแม่สายวารี" และเมื่ออายุได้ 6 ขวบ “ซุปเปอร์บอน” จึงได้โอกาสขึ้นชกมวยครั้งแรกโดยใช้ชื่อว่า “ซุปเปอร์บอน ลูกเจ้าแม่สายวารี” และแม้จะเปิดตัวด้วยความพ่ายแพ้ติดต่อกันถึง 5 ครั้ง แต่เพราะการที่อยากทำให้พ่อภูมิใจ เขาจึงไม่ยอมแพ้และฝึกซ้อมหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเก็บชัยชนะได้ และเริ่มสร้างชื่อขึ้นมาในระดับภูธร

“ซุปเปอร์บอน” เดินทางเข้ามาพิสูจน์ตัวเองในเวทีมวยเมืองกรุงเมื่ออายุ 15 ปี ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาปักหลักซ้อมที่ค่ายมวย ต.เฉลิมชัย และแจ้งเกิดโด่งดังขึ้นมาจากการชกในศึกเพชรสุภาพรรณ ของ “เสี่ยบู้ เมืองเพชร” ประดิษฐ์ สฤษดิ์อภิรักษ์ โปรโมเตอร์ลุมพินีคนดัง กระทั่งคว้าแชมป์ประเทศไทย รุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์มาครองได้สำเร็จ

ซุปเปอร์บอน และ บัวขาว

โดยหลังคว้าแชมป์มาครอง “ซุปเปอร์บอน” ยังทำหน้าที่ป้องกันตำแหน่งได้อีกหลายสมัย โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการปราบยอดมวยปี 2549 อย่าง “สิงห์ร้ายแดนขแมร์” สิงห์ดำ เกียรติหมู่ 9 ไปได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังเคยคว้าตำแหน่งรองแชมป์มวยรอบอีซูซุครั้งที่ 22 และรองแชมป์มวยรอบโตโยต้ามาราธอนอีกด้วย

กระทั่งปี 2564 ที่วงการมวยเมืองไทยเริ่มไม่นิยมนักมวยร่างสูงใหญ่จนทำให้ “ซุปเปอร์บอน” ที่ขณะนั้นอายุ 23 ปี เริ่มไม่ค่อยมีรายการชกซึ่งเจ้าตัวถึงขั้นเกือบตัดสินใจเลิกมวย โดยหันไปเป็นเทรนเนอร์กับพี่ชาย (นายคงศักดิ์) ที่เปิดยิมในประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะเจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิต หลังได้รับการทาบทามให้ร่วมชกในรายการมวยไทยนานาชาติและตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้สีเสือ “บัญชาเมฆ” ของ

“บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยรุ่นพี่ชื่อดัง

“ซุปเปอร์บอน” ภายใต้สีเสื้อ “บัญชาเมฆ” ออกเดินสายแข่งขันมวยไทยในต่างประเทศอย่างไม่ขาดสาย พร้อมสร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในระดับสากล ก่อนจะย้ายมาใช้สีเสือ “สิงห์มาวิน” ในปี 2565 ภายหลังจากที่ค่ายมวย “บัญชาเมฆ” ย้ายฐานไปอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าตัวไม่สะดวกย้ายตามไปฝึกซ้อมด้วยได้

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการแข่งขันมวยไทยอาชีพแล้ว “ซุปเปอร์บอน” ยังเคยเป็นตัวแทนทีมชาติไทย คว้าแชมป์มวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลกรุ่น 71 กิโลกรัม ได้ถึง 3 ปีซ้อนในช่วงปี 2557-2559, แชมป์เวิลด์เกม 2560 รุ่น 71 กิโลกรัม หนึ่งสมัย รวมถึงการคว้ารางวัลเชิดชูเกียรติ “มวยไทยสมัครเล่นดีเด่น (ชาย)” จากงานวันมวยไทยแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ในปี 2561 ด้วย

สำหรับศึก ONE ลุมพินี 46 ศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดสู่แฟน ๆ ที่รับชมในประเทศไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายผ่านทางช่อง 7HD กด 35 ออกอากาศเวลา 20.30 – 23.30 น. (ประมาณคู่ 4 จนถึงคู่เอก) ส่วนทางเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และ ยูทูบ ONE Championship รับชมได้เฉพาะคู่ 1-6 เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ส่วน Watch.onefc.com ออกอากาศคู่แรกจนจบการแข่งขัน

สำหรับประเทศอื่น ๆ จะให้บริการในรูปแบบ Pay-per-view (จ่ายเพื่อรับชม) โดยขึ้นอยู่กับนโยบายการออกอากาศในแต่ละประเทศ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Watch.onefc.com

แชร์ข่าวไปที่

ONE Champioship thailand

มวยone

ONE ลุมพินี

ONELumpinee

ONE Championship

ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน

มวย

มวยไทย

เส้นทางชีวิต