ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คู่รักวัยรุ่นชาย-หญิง เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ มาทำงานในจังหวัดอยุธยา เพื่อมาทำงานเก็บเงินแต่งานที่ แต่ฝันต้องสลาย เพราะถูกรถเก๋งกับรถบัส ขับแข่งกันปาดหน้ากันไปมา พุงมาชนรถจักรยานยนต์ของคู่รักที่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
รถเก๋งถูกรถบัสชนท้าย ทำให้รถเก๋งข้ามเลนมาชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายเข้าอย่างจัง จนร่างของคนซ้อนท้ายที่เป็นผู้หญิงลอยขึ้นไปบนอากาศ ตกลงมาสลบคาที่ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ รถเก๋งมีการปาดหน้ารถบัสอย่างกระชั้นชิดพอสมควร จากนั้นก็มีการขับจี้ท้ายกัน จนรถเก๋งเร่งเครื่องหนี แต่รถบัสได้เร่งเครื่องตามมาชนท้ายเต็ม ๆ ดูลักษณะเหมือนตั้งใจชน
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางญาณิกา เพชรกล้า อายุ 32 ปี ได้พานายณัฐพล แก้วกัน อายุ 22 ปี (ซึ่งเป็นน้องชาย) และนางสาววิยะดา บุญสิงห์ อายุ 22 ปี (แฟนน้องชาย) ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้เสียหายที่ขี่รถจักรยานยนต์ในคดีนี้ เดินทางมาร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากที่ถูกรถเก๋งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่มีคู่กรณีทั้งคนขับรถเก่งและรถบัสมาเยี่ยม หรือเยียวยาอะไรเลย ตอนนี้เรื่องผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้ว ตำรวจยังไม่เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ อ้างว่าคู่กรณีไม่ยอมมา แถมยังปล่อยรถคู่กรณีออกจากโรงพักไปอีก
โดย นางสาววิยะดา บุญสิงห์ ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริเวณถนนสายอุทัย-ภาชี อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในคืนวันเกิดเหตุตนเองกับนายณัฐพล ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม กำลังขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปทำงานที่โรงงาน ปรากฎว่าอยู่ดี ๆ ก็มีรถเก๋งขับเสียหลักข้ามมาอีกฝั่งชนรถจักรยานยนต์ของตนเอง ขณะนั้น ตนเองขี่มาด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็ไม่ทันมอง เห็นว่ารถเก๋งมาด้วยความเร็วมากจนเบรกไม่อยู่ จนถูกชนในที่สุด จากนั้นตนเองได้สลบไปเลย
ด้านนางญาณิกา เพชรกล้า พี่สาวผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ดำเนินการแจ้งความไปยังตำรวจ สภ.อุทัย ซึ่งช่วงแรกพนักงานสอบสวนก็พูดจาดี บอกว่า โทรศัพท์มาสอบถามเรื่องคดีได้ตลอด และได้ดำเนินการออกหมายเรียกคู่กรณีทั้งฝั่งรถบัสและรถเก๋งมาพบพนักงานสอบสวน ปรากฏว่ามีแต่เพียงฝั่งรถบัสเท่านั้น แต่ฝั่งรถเก๋งกลับไม่เข้ามาพบตำรวจ มีเพียงแต่การพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งฝั่งรถเก๋งก็บ่ายเบี่ยงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดและปัดความรับผิดชอบ อีกทั้งพบว่า ฝั่งรถเก๋งก็ไม่มี พ.ร.บ. และมีประกันรถยนต์ด้วย ต่อมาข้อมูลจากชาวบ้านว่า ฝั่งรถเก๋งเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ภายในพื้นที่ มีการส่งผู้ใหญ่ฝั่งรถเก๋งมาพูดคุยกับตำรวจเพื่อเคลียร์คดี
พอตนได้พยายามติดตามความคืบหน้าความคดีทางคดีกับตำรวจมากขึ้น ปรากฏว่า ถูกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนิ่งเฉย อ้างว่าตนย้ายไป สภ.อื่นแล้ว ให้พนักงานสอบสวนคนอื่นรับผิดชอบคดีแทน จากนั้นก็ไม่รับสายโทรศัพท์อีกเลย พอตนเองโทรศัพท์ไปพูดคุยกับทางฝั่งรถบัส ก็อ้างว่าต้องให้รถเก๋งมารับผิดด้วย และได้นำเงินจำนวน 15,000 บาทมามอบกับแม่คนเจ็บ แต่เงินจำนวนดังกล่าวก็ยังไม่พอกับค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยเบ็ดเสร็จทั้งสองคนต้องรักษาแรมเดือน เสียค่ารักษาพยาบาลมากกว่าล้านบาท มีเพียงแต่ค่ารักษาพยาบาลจาก พ.ร.บ. และประกันสังคม หนำซ้ำทั้ง 2 คนถูกให้ออกจากงานแล้ว เนื่องจากพักรักษาตัวเกินระยะเวลาที่บริษัทกำหนด จึงทำให้ทั้งสองไม่มีรายได้ ตอนนี้ตนเองต้องทำงานเพียงคนเดียว เพื่อส่งเงินมาเลี้ยงครอบครัว ตนเองเหนื่อยมาก ตนเองในฐานะเป็นพี่สาวรู้สึกสงสารน้องชาย และแฟนสาวอย่างมาก เพราะปีหน้าทั้งคู่มีแพลนจะแต่งงานกัน โดยการมาทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เพื่อเก็บเงินแต่งงานและสร้างอนาคต แต่กลายเป็นว่าทั้งสองคนต้องหมดอนาคต
ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนคนเก่าที่ทำคดีว่า เพราะเหตุใดทำไมถึงไม่มีการเรียกคนขับรถเก๋งมาแจ้งความดำเนินคดี
ส่วนอาการบาดแผลที่ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนได้รับจากเหตุการณ์นี้ ฝ่ายชายผู้ขับขี่คือนายณัฐพล แก้วกัน ได้รับบาดเจ็บ ตับแตก ตับอ่อนแตก ปอดช้ำ แขน-ขาหักต้องใส่เหล็ก เย็บเกือบ 300 เข็ม ไม่สามารถเดินปกติได้ ส่วนฝั่ง นางสาววิยะดา บุญสิงห์ ได้รับบาดเจ็บ ไตช้ำ ตับช้ำ ซี่โครงหัก เลือดคั่งในสมอง และขาหักต้องใส่เหล็กดาม เย็บ 40 เข็ม ไม่สามารถเดินปกติได้
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า คดีนี้พยานหลักฐานภาพวงจรปิดก็ชี้ชัดแล้วว่า ฝั่งรถบัสและรถเก๋งต่างร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จะต้องรับผิดชอบเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น และพนักงานสอบสวนก็สามารถแจ้งข้อหาทั้งสองคนได้ แต่กลับไม่ดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้นั้น ตนได้ดำเนินการประสานไปยัง พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินการเร่งรัดสำนวนกับทางพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย แล้ว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35