รวบแล้ว ! สาวแสบย่อง ฉกเงิน-แหวนทอง ขณะเจ้าของหลับ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ริเป็นโจร ! เยาวชนหญิง อายุประมาณ 15-18 ปี ย่องเบาเข้าบ้าน ขณะเจ้าของบ้านกำลังพักผ่อนนอนหลับ ได้ทรัพย์สินไปร่วม 100,000 บาท 

 

กล้องวงจรบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน เป็นวินาทีคนร้ายเป็นเยาวชนหญิง อายุประมาณ 15-18 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผิวดำแดง ผมสั้น ค่อย ๆ เดินตรงเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ในขณะที่หญิงเจ้าของบ้านสวมเสื้อสีแดง กำลังนอนหลับ และหันหลังให้กล้องวงจรปิด เมื่อสบโอกาสคนร้ายไม่รอช้า เดินเข้าไปหยิบเอากระเป๋าสะพายสีเหลือง ของเจ้าของบ้านทันที ซึ่งเป็นจังหวะที่สุนัขที่เลี้ยงไว้ลุกขึ้นมาและวิ่งไล่เห่าตามหลังคนร้ายไปติด ๆ ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ และขี่หนีไป ซึ่งทันทีที่สุนัขส่งเสียงเห่า หญิงเจ้าของบ้านได้ตื่นนอนและหันมาดูบริเวณหน้าบ้าน แต่ก็สายไปเสียแล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา

 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโนนสวรรค์ หมู่ 5 ตำบลหนองกุงธนสาร อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พบ นางสง่า แวะศรีภา อายุ 71 ปี เจ้าของบ้าน หรือผู้เสียหาย ได้พาไปดูบริเวณทางเข้าบ้าน และบริเวณที่วางกระเป๋าเอาไว้ พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้นอนเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนเผลอหลับไป พอมารู้ตัวอีกที คือตอนที่เจ้าหมูปิ้ง สุนัขเพศผู้ อายุ 4 ปี ส่งเสียงเห่า ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จนกระทั่งเกือบเที่ยงเพิ่งจะมารู้ว่ากระเป๋าสะพายหายไป ตอนนั้นเธอยอมรับว่าตกใจมาก เนื่องจากในกระเป๋ามีเงินสดอยู่ประมาณ 38,000 บาท พร้อมกับแหวนทองคำ น้ำหนัก 6 สลึง รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท พอหาจนทั่วและไม่พบ จึงโทรศัพท์ไปหาลูกชายให้ดูกล้องวงจรปิดก็พบกับพฤติกรรมของคนร้ายทั้งหมด และที่ยิ่งตกใจไปกว่า คือ ผู้ก่อเหตุเป็นแค่เพียงเยาวชน ซึ่งถ้าจับได้จะมะเหงกใส่ศีรษะสักครั้ง เพื่อสั่งสอนว่าอย่าทำแบบนี้อีก

 

ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ภูเวียง สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว พบไม่ใช่เยาวชน แต่เป็นหญิงอายุ 21 ปี ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่อำเภอชุมแพ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และเงินสดจำนวนหนึ่ง

 

โดย  พ.ต.อ.คารม พรมคุณ ผู้กำกับการ สภ.ภูเวียง กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุก็ได้ทำการแกะรอย กระทั่งทราบว่าหญิงที่ก่อเหตุเป็นลูกสะใภ้ของชาวบ้านโนนสวรรค์ โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างจำรูปพรรณสัณฐานได้ดี จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุไปหลบตัวอยู่ที่ใด และจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของแม่ย่า ไปทำธุระต่างหมู่บ้าน โดยขากลับผ่านบ้านผู้เสียหาย และเมื่อเห็นว่านอนหลับอยู่ จึงย่องเข้าไปก่อเหตุ และเมื่อได้เงินมาก็ได้นำไปใช้หนี้การพนัน ส่วนแหวนทองคำหนัก 6 สลึง ได้เอาไปจำนำ แล้วนำเงินไปเที่ยวเล่น พร้อมซื้อของแบรนด์เนมมาใส่

 

ขณะเดียวกัน ภายหลังจับกุม สามีของผู้ก่อเหตุ และครอบครัวของสามีผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาให้ปากคำ โดยสามีของผู้ก่อเหตุบอกว่า เพิ่งคบหากันได้ไม่ถึงปี และระหว่างที่คบหากัน แฟนสาวมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย และชอบโกหกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนเองก็เคยสั่งสอนเรื่อยมา แต่ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรม จนตนเองและคนในครอบครัวต่างเอือมระอา ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตนเองตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะเลิกรากับแฟนสาวอย่างเด็ดขาด ไม่ขอเอาภรรยาคนนี้กลับคืน ต้องการเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้เป็นแม่กลับคืนเท่านั้น