“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” พร้อมใช้ทักษะมวยไทยที่มีติดตัวมานาน ประชันความเดือดดาล “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” โดยเจ้าตัวเผยนี่คือโอกาสกลับมาทวงความยิ่งใหญ่บนสังเวียนระดับโลก
“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 33 ปี เตรียมเปิดกรุตำรามวยไทย รับบทผู้ท้าชิงบัลลังก์จาก “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเดียวกัน วัย 24 ปี ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ถูกวางคิวให้ขึ้นประชันฝีมือกัน แต่ก็ต้องมีอันแคล้วคลาดจากอาการบาดเจ็บและอาการป่วยกะทันหันของทั้งคู่ ซึ่ง “ซุปเปอร์บอน” ยอมรับว่าอาการบาดเจ็บในครั้งนั้นทำให้เขาต้องพักรักษาตัวและห่างหายจากการซ้อมร่วมเดือนเลยทีเดียว โดย “ซุปเปอร์บอน” เผยว่า
“ตอนนั้นซ้อมเล่นเชิงแล้วกล้ามเนื้อฉีกครับ ก็เลยไปหาหมอทำ MRI จริง ๆ หมอบอกว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน ที่จะหายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมทำกายภาพบำบัดทุกวัน บวกกับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการรักษาเข้ามาช่วย ทำให้หายเร็วขึ้นครับ แต่ก็เป็นเดือนเลยครับกว่าจะกลับมาซ้อมได้อีกครั้ง”
สำหรับการเผชิญหน้ากับ “ตะวันฉาย” ในครั้งนี้ จะเป็นการกลับมาสู้ในกติกามวยไทยครั้งแรกในรอบหลายปีของ “ซุปเปอร์บอน” ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้หลายคนมองเขาว่าอาจจะเสียเปรียบราชันมวยไทยขวัญใจมหาชน แต่สำหรับหนุ่มหน้ามนคนพัทลุงกลับมองว่าศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด เป็นสิ่งที่เขาเรียนรู้มาตั้งแต่ 5 ขวบ แถมพ่วงด้วยดีกรีแชมป์มวยไทยระดับประเทศเป็นเครื่องการันตีว่าเขาจะไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบในไฟต์นี้อย่างแน่นอน
“ที่ผ่านมาผมเคยได้แชมป์ประเทศไทย กับรองแชมป์มวยรอบมา 2 รายการ แล้วก็ป้องกันแชมป์ประเทศไทยได้ 2 ครั้งครับ ไฟต์นี้ผมแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย เพราะแต่เดิมผมเป็นมวยเข่าแล้วก็มีฟันศอกสลับ มันเป็นลูกหากินของผมตั้งแต่สมัยชกมวยไทยอยู่แล้วครับ ผมแค่ไม่ได้มีโอกาสใช้มันในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ความรู้ของผมไม่ได้หายไปไหน อยู่ที่ว่าผมจะเอามันมาใช้ตอนไหนแค่นั้นเองครับ”
นอกจากนั้น “ซุปเปอร์บอน” ยังได้ศึกษาการชกของ “ตะวันฉาย” จนรู้ซึ้งถึงจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างละเอียดยิบ โดยครั้งนี้เขาหมายมั่นปั้นมือที่จะแก้ตัวหลังเสียบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และพร้อมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่บนเวทีระดับโลก ด้วยการกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย จากเอว “ตะวันฉาย” มาครองให้ได้
“นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวที่ดีที่สุดสำหรับผม ที่จะได้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ถ้าผมได้แชมป์โลกมวยไทย ผมก็จะกลับไปเอาแชมป์คิกบ็อกซิ่งของผมคืน ผมยังอยู่ในเส้นทางที่จะกลับไปเป็นอันดับหนึ่งได้อยู่ ไฟต์นี้จึงสำคัญสำหรับชีวิตผมมากครับ”
เนื่องจากบัตรเข้าชมศึก ONE ลุมพินี 46 ในสนามจำหน่ายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แฟน ๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. และทางช่อง 7HD กด 35 เริ่มรับสัญญาณสดเวลา 20.30 น.
+ อ่านเพิ่มเติม