“โอท็อป อ.ขวัญเมือง” เจ็บแล้วจำ นำทุกบทเรียนจากความพ่ายแพ้ในไฟต์ล่าสุด มาประยุกต์ใช้ในการฝึกซ้อม พร้อมลุยหักด่านหิน “โซเนอร์ เซน” เพื่อกลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้ง
“โอท็อป อ.ขวัญเมือง” นักชกสายเลือดใหม่วัย 17 ปี จากอุบลราชธานี ดีกรีแชมป์ประเทศไทย รุ่น 140 ป. พร้อมกลับมาระเบิดฟอร์มกู้ศรัทธาจากแฟนมวยอีกครั้ง พบกับ “โซเนอร์ เซน” จอมบู๊วัย ปี 27 ปีจากตุรกี ที่เปิดตัวอย่างสุดปัง จากการน็อกยอดมวยอย่าง “ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย” โดยจะแข่งขันกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) ในฐานะคู่เอกนำรายการ ศึก ONE ลุมพินี 45 วันศุกร์ที่ 15 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
“โอท็อป อ.ขวัญเมือง” เปิดตัวอย่างร้อนแรงในศึก ONE ลุมพินี 33 ด้วยการเอาชนะทีเคโอ “ชินโก ชิบาตะ” นักชกจอมเดือดจากญี่ปุ่น ไปด้วยเวลาเพียง 59 วินาทีของยกแรก แต่ต้องพุ่งชนความผิดหวังเข้าอย่างจังในไฟต์ต่อมา โดยพลาดท่าโดน “อิลยาส มูซาเอฟ” เล่นงานอย่างหนักหน่วงถึงขั้นแพ้น็อกตั้งแต่ยกแรก มอบบทเรียนครั้งสำคัญให้เจ้าตัวได้เรียนรู้ เพื่อนำไปพัฒนาฝีไม้ลายมือให้ดีขึ้นต่อไป
“ความพ่ายแพ้ในวันนั้นทำให้ผมได้รับบทเรียนมาเยอะมาก ต้องเสริมเรื่องเสต็ปขาให้ไวกว่านี้ การออกอาวุธต้องหนักแน่นและเฉียบคม โดยเฉพาะเรื่องการป้องกัน และจะยืนต่อยแบบมวย 5 ยกที่นี่ ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ได้เกิดแน่นอน เพราะจะทำให้ตามเกมคู่ชกไม่ทัน”
ความพ่ายแพ้แบบหมดรูปในวันนั้น ทำให้ “โอท็อป” เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญเสียงวิจารณ์หนาหูจากแฟนมวย ก่อนจะได้คุณพ่อคุณแม่ และรุ่นพี่ผู้เป็นแรงบันดาลใจอย่าง “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” ช่วยกันปลุกใจให้กลับมาลุกขึ้นสู้ต่ออีกครั้ง
“ผมทราบดีครับถึงกระแสหลังจบเกม พอนั่งอ่านไปหลาย ๆ คอมเมนต์ ก็รู้สึกคิดน้อยใจตัวเอง ทำไมคนถึงด่าเราได้ขนาดนี้ ผมไม่ออกจากห้อง 4-5 วันเลยหลังจากแพ้ไฟต์นั้น จนพ่อกับแม่ต้องโทรมาปลอบ ท่านบอกว่า อย่าคิดมาก ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ท่านก็ภูมิใจในตัวผมมากแล้วที่มาได้ไกลขนาดนี้ ท่านบอกให้ผมลองลุกขึ้นสู้อีกสักตั้ง อย่าเพิ่งตัดใจยอมแค่นี้ ส่วนพี่เสกสรร ก็ช่วยปลอบใจผมด้วย แกบอกว่าถึงแพ้ก็อย่าไปคิดท้อ ต้องลุกขึ้นสู้ใหม่ คนเรามีขึ้นมีลง ได้ยินแกบอกแบบนั้นทำเอาผมรู้สึกคึกคัก ไฟลุกขึ้นมาเลยครับ”
ไฟต์ที่สามของ “โอท็อป”จะต้องโคจรมาพบกับ “โซเนอร์ เซน” นักชกฟอร์มเดือดจากตุรกี ที่เพิ่งเอาชนะน็อกยกแรก “ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย” ในไฟต์เปิดตัว ซึ่งตัวของ “โอท็อป” ที่ได้รับบทเรียนล้ำค่ามาแล้วจากไฟต์ล่าสุด ได้ตัดสินใจยกเครื่องการซ้อมใหม่ทั้งหมด เพื่อพลิกโฉมตัวเองให้ออกมาในเวอร์ชันใหม่ ขอระเบิดฟอร์มเก็บชัยชนะ เพื่อเรียกศรัทธาจากแฟนมวยทั่วประเทศอีกครั้ง
“ไฟต์นี้ผมเก็บตัวซ้อมมา 1 เดือนเต็มครับ ปรับรูปแบบการซ้อมใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่ฝึกแค่มวยไทย อย่างเดียว ก็เพิ่มเรื่องฟิตเนส เรื่องความคล่องตัวเข้ามา เรียกได้ว่ายกเครื่องใหม่เลยครับ ซึ่งไฟต์นี้ทุกคนจะได้เห็น โอท็อป คนใหม่ ที่จะไม่ยืนโยกเยกเหมือนเมื่อก่อน เสต็ปขาจะเร็ว และมีอาวุธครบทุกอย่าง ไฟต์นี้ผมตั้งใจกับตัวเองว่าจะไม่แพ้เด็ดขาดครับ ผมจะไม่ให้ใครมาดูถูกผมได้อีกแล้วครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม