สาวร้อง ! นักข่าว ใช้รูปลูกดับปริศนา เปิดรับบริจาคเข้าบัญชีตัวเอง พร้อมโพสต์ด่าเสียหาย : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

สาวร้อง เจอ นักข่าวอิสระภาคใต้ ใช้รูปลูกที่เสียชีวิตปริศนา ไปเปิดรับเงินบริจาค แต่กลับ อมเงินคนเดียว 1.7 แสน พร้อมกับโพสต์ด่าว่า ขายลูกกิน ทำถูกชาวบ้านตราหน้า ไปไหนก็โดนด่า !  

 

 

            วันที่ 12 ธ.ค. 2566 จิตสุภา มาแปะ (เร) แม่ของเด็กที่เสียชีวิต เล่าว่า ตนถูกนักข่าว นำรูปลูกชายที่เสียชีวิต ไปเปิดรับเงินบริจาคโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลย แถมบริจาคเข้าบัญชีตัวเองด้วย ซึ่งเขาบอกกับตนแค่ว่าจะช่วย เรื่องเงินรับบริจาคตนก็มารู้ภายหลัง ส่วนวัตถุงประสงค์ในการเปิดรับนั้น เขาบอกว่า จะใช้ในการจัดงานศพลูกตน และใช้สำหรับคดี พร้อมบอกว่าเงินทุกบาทจะเป็นของตน 

 

            ส่วนที่เขาเข้ามาช่วยนั้น เพราะว่า ตนได้นำลูกไปฝากเพื่อนเลี้ยง ก่อนจะเสียชีวิตอย่างน่าสงสัยใน 2 วันต่อมา โดยแพทย์ชันสูตรว่ามีอาการเลือดออกในสมองส่วนในเป็นปริมาณมาก เกิดจากการเขย่ารุนแรง ทว่าตนก็ไม่ได้ขอให้เขาเข้ามาช่วย แต่คนที่เขามาเห็นโพสต์ตน เขาเป็นคนไปบอกกับนักข่าวรายนี้ นอกจากนี้ ก่อนจะมีเรื่องบริจาค นักข่าวคนนี้ยังมีการโพสต์ประจานตน ด่าเสีย ๆ หาย ๆ ด่าว่าตนขายลูกกิน ติดยา ติดน้ำกระท่อม ทำให้ตนแทบไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคม ตนโดนคนในสังคมมายืนชี้หน้าด่า ลูกอีกคนต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ แถมไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่รับ อย่างไรก็ตาม เงิน ตนไม่ได้อยากได้ แต่ตนอยากให้เขาแก้ข่าวให้ 

 

 

            ด้าน ธนพัฒ บุญญะ (เอส) นักข่าว ชี้แจงว่า เรื่องเงินบริจาคยืนยันว่าเรรู้เรื่อง เพราะตนได้ปรึกษาเขาก่อนแล้ว และที่ต้องใช้บัญชีตัวเองในการรับเงิน เพราะ เอฟซีของตนเขาไว้ใจตน  ซึ่งในก้อนแรกที่ได้เงินมาเป็นจำนวนเงิน 7,270 บาท ตนจ่ายให้เรไป ค่าฝากศพ 5,000 บาท  และอีก 1,000 ค่ามัคทายก และที่เหลือนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้สัปเหร่อ

 

 

 

            นอกจากนี้ ตนได้จ่ายค่างานศพน้องกัปตันไป 40,000 บาท ขณะเดียวกันตนก็ได้มีการโอนเงินช่วยเหลืออีกเคสหนึ่งประมาณ 40,000 บาท เพราะเขาถูกสามีกระทืบ อยากกลับบ้านที่หาดใหญ่ จึงเอาเงินจากส่วนบริจาคไปให้เขาก่อน ซึ่งผู้เสียหายรายนี้บอกว่า จะทำงานใช้หนี้คืนให้ สำหรับโพสต์ที่ตนด่านั้น เพราะตนทะเลาะกับ แฟนของเร และยังมีคนส่งหลักฐานมาให้ตนเพิ่มว่า เร ขายลูกในราคา 50,000 หมื่น แต่ตนอยากคืนความยุติธรรมให้เด็ก แต่จุดเปลี่ยน คือ เร ไม่พาศพน้องมางาน จึงบอกว่าตนจะเอาเงินไปบริจาคให้หมด ตนจึงได้บริจาคเงินที่เหลือทั้งหมดให้มัสยิดแล้ว 

 

 

            ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว การที่จะเปิดรับเงินบริจาคได้ ต้องไปขออนุญาตกรมการปกครองของกระทรวงมหาดไทย และต้องระบุในคำร้องชัดเจนว่ารับบริจาควันที่เท่าไหร่ ถึงวันที่เท่าไหร่ และต้องกำหนดว่าใช้ตัวเลขเท่าไหร่ และต้องเปิดบัญชีใหม่ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการทำเลย ดังนั้นเสี่ยงสูงมากที่จะถูกดำเนินคดีอาญา

 

            ทั้งนี้ เรื่องที่แม่ของเด็กที่เสียชีวิตโพสต์ ไม่ว่าเขาจะโพสต์ประชดผัวหรือไม่อย่างไร ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา นักข่าวสุ่มเสี่ยงถูกดำเนินคดีด้วยการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และถ้าไม่เป็นความจริงอีก ก็เข้าข่ายโดนพ.ร.บ.คอมฯ