สุดแปลก ! ผู้เสียหาย รวมตัว ร้องสื่อ เจอ “เจ้าหนี้หัวหมอ” กู้เงินแค่ 3 หมื่น ให้เซ็นสัญญากลายเป็นหนี้หลักล้าน อ้าง กันบิดหนี้ สุดท้ายเอาสัญญาฟ้องบังคับคดี หักยับ ทั้งเงินเดือน โบนัส โอที
วันที่ 4 ธ.ค. 2566 เอ ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้ตกลงกู้เงินจากเจ้าหนี้จำนวน 100,000 บาท โดยจะจ่ายคืนภายใน 3 เดือน และมีดอกเบี้ยเดือนละ 10% ต่อเดือน และเมื่อถึงกำหนดชำระ 3 เดือน ตนก็จ่ายคืนเป็นจำนวน 130,000 บาท เหมือนเรื่องจะจบ แต่มันไม่จบ เพราะก่อนจะได้เงินจากเจ้าหนี้มา เขาได้มีการให้ตนเซ็นสัญญา โดยในเอกสารระบุว่าตนกู้เงินเป็นหนี้เขาจำนวน 820,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหนี้ก็ได้เอาเอกสารตรงนี้มาฟ้องร้องบังคับคดีกับตน
ที่ตนยอมเซ็นสัญญา เพราะตนเชื่อใจเจ้าหนี้ ทางเจ้าหนี้เป็นคนที่พูดจาดี บอกตนว่า เขาไม่มีวันโกงหรอก ถ้าเขาโกงแล้วเขาจะหากินทางนี้ยังไงต่อ อีกทั้งยังบอกว่า เขาทำแบบนี้มานานแล้ว และอ้างว่าเป็นหลักประกันว่าตนจะคืนเขา ทั้งนี้วันที่เขาฟ้องตน ตนไม่ได้ไปที่ศาล เพราะเจ้าหนี้เขาบอกว่า ไม่มีอะไรหรอก แค่เป็นขั้นตอนในการบังคับคดี
ฟาก บี ผู้เสียหาย เล่าว่า ในปี 2555 ช่วงแรก ตนกู้เงินจากเจ้าหนี้มาประมาณ 20,000 บาท โดยทางเจ้าหนี้ให้เขียนสัญญาว่าเป็นหนี้ 300,000 บาท ทว่าได้มีการกู้เพิ่มเรื่อย ๆ รวมแล้วตนได้กู้เงินจากเขามา 160,000 บาท โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เขา เดือนละ 16,000 บาท จากนั้นปี 2556 ตนกำลังจะได้เงินก้อน จึงได้เข้าไปเคลียร์กับเจ้าหนี้ว่าจะเอาเงินมาใช้ ในอีกไม่นาน ซึ่งทางเจ้าหนี้ได้ให้ตนเซ็นสัญญาเพิ่มอีก โดยให้ตนเป็นหนี้เพิ่มจากเดิม กลายเป็น 850,000 บาท อ้างว่า เอาเงินมาใช้แล้วค่อยมายกเลิก แต่สุดท้าย เขากลับเอาสัญญาดังกล่าวไปฟ้องร้องบังคับคดีต่อตน
ซึ่งก็ได้มีจดหมายมาถึงที่บริษัทตน ให้หักเงินเดือน 30% เพื่อจ่ายหนี้ก่อนดังกล่าว ขณะที่ตอนนี้ จากหนี้ที่ตนกู้มา 160,000 บาท ตอนนี้ตำใช้ไปแล้วกว่า 700,000 บาท และยังค้างหนี้กว่า 600,000 บาท ทั้งนี้ที่ตนเซ็นสัญญาดังกล่าวกับเขา เพราะความไว้ใจ เพราะ ทางเจ้าหนี้เขาพูดจาดี เป็นผู้ใหญ่ โดยเขาให้เหตุผลการตั้งยอดนี้ไว้แบบนั้น ว่า เพื่อเผื่อตอนตนไม่มีจ่ายเขา นอกจากนี้ วันที่เขาฟ้องตนได้ไปที่ศาล โดยเขาให้ทนายเขาเข้ามาไกล่เกลี่ยกับตน
ด้าน ซี ผู้เสียหาย เล่าว่า ในกรณีของตน ตนกู้เงินจากเจ้าหนี้ 30,000 บาท โดยทางเจ้าหนี้ให้เขียนเป็นหนี้ 550,000 บาท อ้างว่า เผื่อตนมายืมเพิ่ม ก็ให้เขียนไว้เลย ต่อมาตนก็ได้ไปยืมเพิ่มอีก 30,000 บาท และในระหว่างนั้น ตนก็มีติดดอกเบี้ยเขาบ้าง เขาก็มีการเพิ่มยอดของตน อย่างเช่น ตนติดดอกเบี้ยเขา 18,000 บาท เขาก็จะเพิ่มยอดหนี้ตน 20,000 บาท หักดอกเบี้ยออก แล้วเอาเงินสดให้ตน 2,000 บาท รวมแล้วตนได้เงินจากเจ้าหนี้มาไม่น่าจะเกิน 100,000 บาท
ทว่าพอมันเยอะเข้า เขาก็มาขอปรับสัญญาใหม่เป็น 850,000 บาท โดยบอกว่าสัญญาใบเก่าเป็นโมฆะ แต่เมื่อตนทวงให้เขาเอาสัญญาใบเก่ามาคืน เขาก็ไม่คืน อ้างเอกสารหาย พอถึงเวลาจริง เขาก็ฟ้องร้องคดีตนเลย ฟ้องทั้งใบแรก และใบใหม่ด้วย ทั้งนี้ ตอนทำสัญญาเขาได้เขียนวันที่เซ็นสัญญาย้อนหลังไป 3 ปี เท่ากับว่า จะโดนดอกเบี้ยย้อนหลัง 3 ปีด้วย ทั้งที่ตอนนั้นไม่ได้กู้เงินกัน ส่วนเงินที่ตนใช้หนี้เขาไปในตอนนี้ ตนชดใช้ในใบสัญญาแรกจบไปแล้วที่ 1.5 ล้านบาท ขณะที่ใบสัญญาที่สอง ตอนนี้ยังชำระอยู่ ใช้ไปแล้วเกือบ 500,000 บาท โดยที่ยอดหนี้ทั้งหมด 1.3 ล้านบาท
สำหรับเหตุผลที่ตนต้องกู้เงิน เพราะตอนนั้นต้องการใช้เงิน และยังไม่มีรายได้ทางอื่น ขณะเดียวกัน ตอนแรกตนก็จะไม่ยอมเซ็นสัญญา แต่ทางเจ้าหนี้เขาบอกกับตนว่า เซ็นไปเถอะ เขาไม่ฟ้องร้องคดีหรอก เป็นหลักฐานไว้เฉย ๆ
ด้าน นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ ขณะที่ผู้เสียหายแต่ละคนที่ตนได้คุย ไม่มีใครมีทนายความเลย ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมากในการสู้คดีในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม คดีนี้ก็ถึงที่สุดแล้ว ไปถึงขั้นบังคับคดีแล้ว คงจะรื้อฟื้นคดีได้ยาก ทางออกที่จะมีในขณะนี้ เบื้องต้นต้องไปยื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล และไปยื่นเรื่องผ่านกรมบังคับคดี เพื่อขอไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี ขณะที่ในทางกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องจริง ทางเจ้าหนี้จะมีความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด มีโทษจำคุก 2 ปี
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้คนที่ยังกู้กับเจ้าหนี้รายดังกล่าวอยู่ในปัจจุบัน ออกมาร้องเรียนหน่อย เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับเจ้าหนี้รายนี้ "ป้าหมูที่ไม่หมู" คนนี้ จะได้มีการจัดการ ให้ผู้เสียหายรวมตัวกันมาเลย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35