หนุ่มเจ้าของธุรกิจอ้าง ถูกเจ้าของอู่ชื่อดังกักขังข่มขู่ แล้วพาลูกน้องไปถอดอุปกรณ์ที่แต่งรถออกไปทั้งหมด แถมมีการสลับอะไหล่ ด้านเจ้าของอู่โต้ ไม่ได้กักขังหรือข่มขู่ ที่ไปถอดอุปกรณ์แต่งรถ เพราะอีกฝ่ายลอกเลียนแบบสินค้าของตน
วันที่ 1 ธ.ค. 66 คุณจิรัฎฐ์ ผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และ คุณเอ พยาน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนรู้จักอู่นี้ทางออนไลน์ จึงตัดสินใจนำรถเข้าไปแต่งในเดือน ม.ค. 66 และต้องการที่จะเรียนรู้เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ ใช้ระยะเวลาแต่งรถ 45 วัน ได้ใบเสนอราคาในฐานะลูกค้า 350,000 บาท ตนได้จ่ายเงินไปแล้วครบถ้วน ได้รถที่แต่งมาสวยงามปกติ จากนั้นมีลูกค้าสนใจอยากแต่งรถเหมือนกับตน จึงแนะนำให้มาแต่งรถที่อู่นี้ ตนเสนอราคาไป 265,000 บาท แต่ทางอู่คิดเงิน 380,000 บาท จึงต้องตกลงราคากับอู่ใหม่จนได้ราคาที่พอใจ
เมื่อตกตลงราคากันได้ลูกค้าของตนเดินทางกลับไปก่อน ส่วนตนยังไม่ได้กลับ และถูกเจ้าของอู่นำรถมาปิดทางออกรถตน ตนได้ยินเจ้าของอู่พูดว่า "คงไม่ถึงขั้นพกปืนคนละกระบอกมั้ง" เนื่องจากเจ้าของอู่ต้องการชุดแต่งรถของตนทั้งหมดคืน โดยอ้างว่าตนไปทำสินค้าแต่งรถเลียนแบบ ตนถูกกักขังและข่มขู่จึงจำเป็นต้องบอกที่อยู่ของรถตน จากนั้นเจ้าของอู่ได้ไปถอดชิ้นส่วนรถของตนไปเกือบหมด ตนได้ไปแจ้งความตั้งแต่เดือน พ.ค. 66 แต่คดียังไม่คืบหน้า
จ่าคิงส์ ธมะนัน แตงทิม ผู้ก่อตั้งเพจจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ ตนได้รับแจ้งเรื่องจากคุณจิรัฎฐ์ จึงได้ไปพูดคุยกับตำรวจ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับเจ้าของอู่แล้ว เนื่องจากตอนแรกตำรวจรับแจ้งเพียงคดีลักทรัพย์เท่านั้น ซึ่งการกระทำของเจ้าของอู่ ตนเชื่อว่ามีความผิดมากกว่านี้
คุณชาย เจ้าของอู่ ชี้แจงว่า อีกฝ่ายพูดไม่ตรงความจริงทั้งหมด เรื่องปืนเป็นเพียงการพูดเหมือนเพื่อนกันเท่านั้น เนื่องจากคุณจิรัฎฐ์เข้ามาขอเรียนรู้กับตนเพื่อที่จะนำไปเปิดสาขา อีกฝ่ายจ่ายค่าทำรถและค่าแฟรนไชส์ไม่ครบ ด้วยความใจดีตนยินยอมให้อีกฝ่ายเอารถออกไปได้โดยไม่ได้เซ็นสัญญา จากนั้นอีกฝ่ายไปมีปัญหาฉ้อโกงกับลูกค้า และตนได้พบว่าอีกฝ่ายได้ลอกเลียนแบบสินค้าของตน จึงต้องการขอซื้อชุดแต่งของตนคืน แต่อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยง ยืนยันว่าไม่มีการกักขังหรือข่มขู่อีกฝ่ายไว้ ตนได้สืบพบว่ารถที่บางปู ตนจึงได้พาลูกน้องไปถอดชุดแต่งของตนคืน สุดท้ายตนมาตรวจสอบประวัติพบว่าคุณจิรัฎฐ์มีคดีฉ้อโกงติดตัว แต่คุณจิรัฎฐ์ปฏิเสธในเรื่องนี้ ตนยืนยันว่าซากรถที่เป็นข่าวตนไม่ได้ถอดออกทั้งหมดอีกฝ่ายเป็นคนถอดเอง
คุณจิรัฎฐ์ ชี้แจงว่า ไม่ได้ลอกเลียนแบบสินค้าของคุณชายเจ้าของอู่ เป็นเพียงการดัดแปลงแก้ไขสินค้าของเดิมให้เป็นไปตามที่ตนชอบ ยืนยันว่ายังไม่ได้ทำขายเพื่อการค้า แต่คุณขายเจ้าของอู่ ยืนยันว่าอีกฝ่ายโกหกว่านำไปดัดแปลง ถ้าคนในวงการแต่งรถมาดูจะรู้เลยว่าทำเลียนแบบแน่นอน และมีหลักฐานว่าได้นำไปขายแล้ว คุณชายชี้แจงอีกว่าตนได้แจ้งความเพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจบเรื่องแล้วไปแจ้งความกลับ
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม แนะนำในมุมกฎหมายว่า การที่คุณชายเจ้าของอู่พาลูกน้องไปถอดอะไหล่รถของคุณจิรัฎฐ์ ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายที่ไม่สามารถยอมความได้ ถ้าหากเห็นการลอกเลียนแบบสินค้าควรจะใช้กฎหมายเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าหากคุณชายมีหลักฐานชัดเจนก็สามารถฟ้องร้องตามกฎหมายได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปข่มขู่หรือไปเอาชุดแต่งออกมาเอง การไกล่เกลี่ยจะต้องแยกเป็นประเด็นว่าจะเอาอะไหล่คืนแล้วคืนเงิน กับประเด็นที่ให้ลูกน้องไปถอดชุดแต่ง
คุณจิรัฎฐ์ ต้องการอะไหล่ที่เหลือของตนคืน เนื่องจากรถถูกสลับอะไหล่ไปหมด และต้องการค่าเสียโอกาสที่ตนยังไม่ได้ทำมาหากิน แต่คุณชายยืนยันว่าอุปกรณ์ที่ตนถอดไปทั้งหมดยังอยู่ที่อู่ของตน ซึ่งตนยินดีที่จะคืนให้ แต่ต้องรอที่คดีแพ่งที่ตนฟ้องร้องตัดสินจบก่อน ส่วนที่กล่าวหาว่าตนถอดสลับอะไหล่ไปตนยืนยันว่าไม่ได้ทำ ขอให้ไปตรวจสอบกับอู่อื่นเพราะอีกฝ่ายเอารถไปทำหลายอู่
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม