“ลุค ลิสซีย์” มวยฝีมือชื่อดังจากอเมริกาพร้อมขึ้นสังเวียนแบบไร้ความกดดัน อาสาปราบ “โจ ณัฐวุฒิ” นักมวยเจ้าถิ่น ประกาศจะใช้ชั้นเชิงอันร้ายกาจคว้าชัย เพื่อเปิดตัวครั้งแรกใน ONE ให้เป็นที่จดจำ
“ลุค ลิสซีย์” จอมชั้นเชิงวัย 27 ปี จากสหรัฐอเมริกา มีคิวปรากฏตัวครั้งแรกในเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก เผชิญหน้ากับกระดูกชิ้นโต “โจ ณัฐวุฒิ” นักชกจอมเก๋าชาวไทย วัย 34 ปี โดยจะประชันฝีมือกันในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ในศึก ONE Fight Night 17 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. 66
การขึ้นสังเวียนครั้งนี้ของ “ลุค” ถือเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญ เพราะเขาต้องประชันฝีมือกับตัวตึงของวงการอย่าง “โจ” ซึ่งที่ผ่านมา “ลุค” รับรู้ถึงกิตติศัพท์ของจอมเก๋าจากไทยเป็นอย่างดี ว่ามีพลังโจมตีที่ร้ายกาจ สามารถปิดเกมคู่ต่อสู้ได้ทุกเวลาที่อยู่บนเวที แต่สิ่งนี้กลับไม่ได้ทำให้หนุ่มนักสู้จากไอโอวารู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด โดย “ลุค” เผยว่า
“ผมตามดู โจ มานานแล้วครับ จำได้ว่าเคยดูเขาชกเมื่อหลายปีก่อน เห็นได้ชัดว่าเขาเตะซ้ายได้เก่งและรุนแรงมาก ซึ่งทุกวันนี้เขาก็ยังทำแบบนั้นได้ดีเลยทีเดียว แต่ผมไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่นักสู้ต้องกังวลมากนัก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะชกกับนักสู้ในรุ่นเฮฟวีเวต ที่ใคร ๆ ก็สามารถอัดคุณแบบหนัก ๆ ได้”
สำหรับ “ลุค” ถือเป็นนักชกอีกรายที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมสร้างสรรค์ชั้นเชิงทุกครั้งที่ได้ขึ้นเวที จึงทำให้คู่ต่อกรของเขายากที่จะจับทาง และยังมีสรีระรูปร่างที่ได้เปรียบคู่ชกในพิกัดเดียวด้วย “ลุค” จึงคิดว่าเขาจะได้เปรียบ “โจ” ในการประเดิมไฟต์แรกบนสังเวียนระดับโลก
“ข้อได้เปรียบที่ผมมีคือความคิดสร้างสรรค์ที่ใครก็เทียบไม่ได้ เพราะผมคือ 'เดอะเชฟ' ผมจึงต้องปรุงแต่งส่วนผสมให้ลงตัวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และผมคิดว่านั่นจะเป็นข้อได้เปรียบในไฟต์นี้ของผมที่ โจ ยากที่จะรับมือ”
แน่นอนว่าการเดิมพันในศึกครั้งนี้ “ลุค” ไม่มีอะไรจะเสีย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ได้ชื่อว่าเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ต่างกับ “โจ” ที่ปัจจุบันรั้งที่นั่งอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต แถมยังเป็นการชกต่อหน้าแฟนมวยชาวไทยอีกด้วย “ลุค” จึงมองว่า ความกดดันส่วนใหญ่จะตกไปอยู่กับคู่ต่อสู้ชาวไทยมากกว่า
“ไฟต์นี้เขาจะกดดันกว่าผมแน่นอน เพราะเขามาในฐานะเจ้าถิ่น เขาจะปล่อยให้เด็กอเมริกันรุ่นใหม่อย่างผมเข้ามาครอบครองอาณาเขตที่เขาอยู่มานานไม่ได้ เพราะฉะนั้นโดยรวมแล้ว เขาเป็นฝ่ายกดดันมากกว่าผมแน่นอนครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม