“จูลิโอ” ยอมรับ “ก้าวหน้า” คือหนึ่งในนักสู้ชั้นแถวหน้าของเมืองไทย แต่พร้อมสู้สุดตัวเพื่อแย่งชิงแต้มชัยแรกมาครอง ในคู่เอกศึก ONE ลุมพินี 42
“จูลิโอ โลโบ” มวยเข่าทรงพลัง วัย 29 ปี จากบราซิล มุ่งเป้าเสริมแกร่งกลับมาล่าแต้มชัยแรกวัดฝีมือกับ “ก้าวหน้า สจ.โต้งปราจีน” มวยฝีมือรุ่นเก๋า วัย 33 ปี อดีตแชมป์เวทีลุมพินี รุ่น 108 ป. ที่ผ่านไป 2 ไฟต์ ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น พร้อมปะทะกันในกติกามวยไทย แคตช์เวต 141 ป. ขึ้นป้ายคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 42 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย. นี้
“จูลิโอ” ได้รู้จักมวยไทยครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี หลังเห็นเพื่อนบางคนฝึกมวยอยู่ที่เดียวกับที่แม่ของตัวเองไปออกกำลังกาย จากนั้นพออายุ 20 ปี ได้มาที่ไทยเป็นครั้งแรกและซ้อมมวยไทยนานกว่า 4 เดือน ก่อนกลับมาอีกครั้งในปี 2559 แล้วปักหลักอยู่ที่แดนสยามยาวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ถึงตอนนี้ “จูลิโอ” ยอมรับว่าหลงใหลในกีฬามวยไทยมากกว่าเหนือสิ่งอื่นใดและมีผู้คนรอบข้างต่างสนับสนุนเขามาตลอด โดยเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมาเขาประสบความสำเร็จไม่น้อย เคยคว้าแชมป์มวยไทยมาราธอนของโตโยต้า, แชมป์เวทีมวยอ้อมน้อย และมีลุ้นสร้างชื่อใน ONE ลุมพินี อยู่ในเวลานี้
แม้ “จูลิโอ” เปิดตัวไม่สวยตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนน “ซุปเปอร์บอล ทีเด็ด 99” ในศึก ONE ลุมพินี 36 เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่เขายังอดภูมิใจไม่ได้ที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในรายการนี้ พร้อมฝันไกลอยากคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองให้ได้
“ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ผมใฝ่ฝันอยากชกที่เวทีลุมพินีมาตลอด เมื่อได้มาชกจริงมันเหมือนการได้ทำความฝันสำเร็จ ผมมีความสุขมากที่ได้มาชกที่นี้ ตอนนี้ผมกำลังจะได้กลับมาชกในสังเวียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง ผมรักที่จะได้ต่อสู้ที่นี่มากครับ”
“การเข้ามาของ ONE เปลี่ยนชีวิตนักมวยหลายคนได้เป็นอย่างมาก บางคนเคยคิดแขวนนวมไปแล้วก็ลองกลับมาสู้ใหม่ ผมมีความสุขมากที่ได้ชกในรายการนี้ ผมหวังว่าตัวเองจะสามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE และเป็นแชมป์คนใหม่ได้ในเร็ววันนี้”
ไฟต์ต่อไป “จูลิโอ” ต้องวัดฝีมือกับ “ก้าวหน้า” ที่มีประสบการณ์เต็มมือ โดยนอกจากมุ่งมั่นอยากแก้ตัวเก็บแต้มชัยแรกให้ได้แล้ว เขายังอยากได้รับการชูมือเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับพ่อด้วย
“ก้าวหน้า เป็นหนึ่งในมวยฝีมือที่เก่งที่สุดในวงการมวยไทย ผมตามดูเขามานานแล้ว เขาคือหนึ่งในนักชกมวยไทยที่เก่งที่มากและผมตื่นเต้นที่จะได้ชกกับเขา เขาคือหนึ่งในลิสต์ของผม จะได้เห็นกันว่าใครจะชนะหรือแพ้ แต่ผมดีใจที่ได้ชกกับหนึ่งในนักชกที่เก่งที่สุดอย่างเขา”
“เราทั้งคู่ต่างแพ้ไฟต์แรกเหมือนกัน ผมจึงฝึกหนักมากเป็นพิเศษสำหรับการชกในไฟต์นี้ ซึ่งก็เหมือนกับที่เคยทำมาตลอด แต่ครั้งนี้ผมมีแรงจูงใจมากเป็นพิเศษ เพราะเพิ่งผ่านวันเกิดพ่อของผมมา ผมเลยอยากให้ของขวัญท่านและนั่นคือแรงจูงใจสำคัญของผมในไฟต์นี้ครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม