เร่งล่า ! มือยิงและคนบงการ ยิงนักศึกษาอุเทนถวาย-ครูเจี๊ยบ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจยังคงเร่งล่าตัว นายวิน - นายเลาะ มือยิง และ คนบงการยิง นศ.อุเทน - ครูเจี๊ยบ เสียชีวิตที่ริมถนนคลองเตย ส่วนผู้ต้องหาล็อตแรกเตรียมฝากขังวันพรุ่งนี้

 

เมื่อเช้านี้ ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พันตำรวจเอก ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยความคืบหน้าคดียิงครูเจี๊ยบ-น้องหยอด ว่า วันนี้จะดำเนินการสอบสวนตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน คือ นายวุฒิพงษ์ อายุ 25 ปี, นายสัญปกรณ์ อายุ  24 ปี, นายสหัสวรรษ อายุ 23 ปี, นายจิรายุส อายุ 23 ปี, นายธนากร อายุ 22 ปี และ นายอภิเดช อายุ 21 ปี ร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือ ซ่องโจร และ นายวรงชัย อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาซ่องโจร

 

วันนี้ (23 พ.ย.) พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 7 คน อย่างละเอียด โดย ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ จะร่วมเข้าสอบปากคำด้วยตนเอง จากนั้น จะเตรียมดำเนินการขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้เพื่อทำการฝากขังผลัดแรกภายในวันพรุ่งนี้

 

สำหรับ นายวิน ซึ่งเป็นมือยิงครูเจี๊ยบ - น้องหยอด และ นายเลาะ ซึ่งเป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์และผู้สั่งการให้ยิง ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า หนึ่งในผู้ต้องหาพัวพันคดียิงน้องหยอด และ ครูเจี๊ยบ เคยก่อเหตุยิงถล่มงานแต่งงานกลางกรุง เมื่อกลางปีที่แล้ว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน และเสียชีวิต 1 ราย โดยแม่ของเหยื่อในงานแต่งงาน เปิดเผยว่า เหตุเกิดผ่านมากว่า 1 ปี แต่คดีไม่คืบ ตำรวจยังไม่ส่งสำนวนให้อัยการ จนกระทั่ง 1 ในผู้ร่วมก่อเหตุครั้งนั้นมาพัวพันคดีนี้

 

ต่อมา นายชนัญชิต เพื่อนของผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว ได้ติดต่อขอเยี่ยม โดยอ้างว่า ตนเป็นเพื่อนรุ่นพี่กับหนึ่งใน 7 ผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ก็เป็นการรู้จักผ่านเพื่อนอีกทอด ยืนยันว่าทุกคนที่ถูกจับมานั้นเป็นแพะในคดีนี้ มั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของนักศึกษาปทุมวันอย่างแน่นอน โดยเชื่อว่าผู้ก่อเหตุที่แท้จริงอาจเป็นกลุ่มอริต่างสถาบันที่เคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อน เนื่องจากในอดีตนักศึกษาอุเทนถวายเคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ หรือ ช่างอุตฯ ซึ่งตนมั่นใจพยานหลักฐานที่มีอยู่ และจะไม่พูดถึงหลักฐานชิ้นนั้น ขอให้เอาหลักฐานดังกล่าวไปต่อสู้กันในชั้นศาล พร้อมยืนยันว่า ไม่รู้จักกับนายวิน มือยิง และ นายเลาะ คนสั่งการ

 

นอกจากนี้ ตำรวจยังร่วมกันติดตามค้นหารถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ กระทั่งขยายผลพบว่า บริเวณป่ารกร้างพื้นที่ ตำบลโคกช้าง อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจุดพ่นสีตกอยู่ ทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานที่พบ เพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย จากการสืบสวนทราบว่า ช่วงก่อเหตุกลุ่มคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์สีแดง ในการก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด หลังจากนั้นพากันหลบหนี แล้วนำรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุมาพ่น เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน รวมทั้งมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังก่อเหตุเพื่ออำพรางในการหลบหนี

 

นอกจากนี้ ช่วงบ่ายล่าสุดตำรวจได้คุมตัว นายธนภัทร อายุ 23 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาเกี่ยวข้องคดียิง ครูเจี๊ยบ และน้องหยอด ได้บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จัหงวัดนนทบุรี โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง และให้การปฏิเสธในคดียิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด โดยหลังจากถูกจับกุม ผู้ต้องหามีอาการช็อคหมดสติ เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งหลังจากอาการป่วยดีขึ้น ชุดสืบสวนนครบาล ทำการควบคุมตัว ไปสอบปากคำเบื้องต้นที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนจะนำตัวมาฝากขังในชั้นพนักงานสอบสวนที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยในระหว่างที่ควบคุมตัวมา สน. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่ผู้ต้องหาไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ

 

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการจับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งช่างกล เอี่ยวคดียิง น.ศ.อุเทนฯ ครูเจี๊ยบเสียชีวิต และพบว่ามีการยกระดับพัฒนาทำกันเป็นองค์กร นายวิโรจน์ บอกว่า เรื่องนี้ตำรวจคงต้องสืบสวนและสอบสวน คนที่ทำผิดกฎหมายอาญาไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็ต้องถูกดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม และเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่า เริ่มเข้าข่ายเป็นภัยความมั่นคง เพราะกลายเป็นลักษณะคล้ายองค์กรที่มีการจัดหาอาวุธ และมีกลุ่มนายทุนสนับสนุน

 

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนในเชิงลึกต่อไปว่าผู้สนับสนุนเป็นใคร ไม่ใช่แค่การตีกันโดยใช้อาวุธปกติที่หากันได้ตามข้างทางเต็มที่ก็เหล็กขูดชาร์ป แต่เป็นการใช้อาวุธหนักที่ถูกจัดหามาให้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้ยากเกินที่ตำรวจจะหาตัวผู้กระทำผิด

 

นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ปัญหาระดับองค์กรอาชญากรรมจำนวนมาก มีมาเฟียข้ามชาติ กลุ่มทุนสีเทาต่าง ๆ เข้ามามีอิทธิพล และเป็นหัวขบวนในหลาย ๆ เรื่อง เช่นล่าสุดมีเรื่องขอทานเข้ามา ตำรวจคงจะต้องเร่งรัดจัดการในเรื่องนี้ เพราะมันกลายเป็นภัยความมั่นคง และหากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ยังคงมีบทบาทอยู่ ก็ควรที่จะเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้ด้วย ไม่ใช่แค่เอาเวลาไปจับขนมอาลัวพระเครื่อง เท่านั้น