“กต.ตร.” สน.ชื่อดัง เมากร่าง ยกพวกรุมตื้บชาวบ้านสาหัส ตร. ไม่กล้ารับแจ้งความ !

หนุ่มใหญ่ "กต.ตร." ก่อเรื่องอื้อฉาว รุมกระทืบเจ้าของร้านอาหาร อาการสาหัส "เลือดคั่งในสมอง" ตอนนี้ยังไม่ฟื้น เหตุเพราะ เจ้าของร้าน เข้าห้ามแฟนสาว ซึ่งแฟนสาวก็เข้ามาก่อโวยวาย พร้อมทำร้าย ภรรยาเจ้าของร้าน พร้อมเบ่งตำแหน่งต่อหน้าตำรวจ ทำเอาไม่กล้ารับแจ้งความจากผู้เสียหาย !?

 

 

            วันที่ 23 พ.ย. 2566 นวลจันทร์ คำงาม (นวล) ภรรยาเจ้าของร้าน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางชช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า คืนวันที่เกิดเหตุวันที่ 22 พฤศจิกายน ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ผู้ก่อเหตุซึ่งมีตำแหน่งเป็น คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ได้เข้ามาขอนั่งที่ร้าน ทั้งที่ตอนนั้นร้านปิดแล้ว แต่เขาก็บอกว่าจะนั่งไม่นาน ด้วยความที่เขาเป็นลูกค้าประจำมาบ่อย เลยรู้จักกัน ตนเลยยอม และได้เอาแอลกอฮอล์ให้ดื่ม จากนั้นเขาก็มานั่งปรับทุกข์กับตน และสามี คุยกันปกติ ต่อมาเขาก็เป็นคนโทรให้แฟนสาวเขาเข้ามาที่ร้าน ทว่าแฟนสาวของเขาเข้ามาว่าตน กล่าวหาว่าตนไปเคยมีอะไรกับแฟนเขา และก็ได้มีปากเสียงกันแรงขึ้นเรื่อย ๆ สามีตนก็พยายามจะห้าม

 

            ตนเลยเรียกให้ รปภ. ของร้านตน ให้พาแฟนสาวของ กต.ตร. ออกจากร้านไป แต่เขาก็ไม่ไป ในขณะเดียวกันฝ่าย แฟนสาวของ กต.ตร. ก็มาเดินชนตน ตนเลยสู้กลับ จากนั้นก็ชุลมุนกันเลย ซึ่งสามีตนก็เข้ามาห้ามดังเดิม ทว่า กต.ตร. เข้ามาต่อยสามีตน  1 ที จนล้มหน้าคว่ำไป จากนั้นเขาก็กระทืบซ้ำลงที่ศีรษะอีกทีจนแฟนแน่นิ่งไปเลย ตนเห็นแบบนั้นตนจึงวิ่งไปทที่ สน.ลาดกระบัง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้าน เพื่อไปเรียกตำรวจให้เข้ามาเคลียร์ แต่พอตำรวจมา กต.ตร. เขาก็พูดจากร่าง บอกว่าตัวเองเป็น กต.ตร. จะโชว์บัตรให้ดู หลังจากนั้น ตำรวจก็บอกว่าให้ตนรีบไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ตอนนั้นต้นเป็นห่วงอาการของสามีจึงรีบพาไปส่งที่โรงพยาบาล

 

            ทั้งนี้ ตนได้ไปแจ้งความภายหลังเหตุการณ์ ได้ไปแจ้งตอนกลางคืนของวันที่ 22 พ.ย. ซึ่งตำรวจไม่รับแจ้งความ  โดยบอกว่าอีกฝั่งเขามาแจ้งความแล้วมันเป็นเรื่องเดียวกัน ไว้รอให้นัดเจอไกล่เกลี่ยกันอีกที ทำให้ตนหวั่นใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุ ฝ่าย กต.ตร. ก็เงียบไปเลย ซึ่งตนเป็นห่วงสามีมากที่สุด โดยที่อาการล่าสุดของสามีตอนนี้ ยังคงมีเลือดออกในสมองเยอะอยู่ และยังรักษาอาการอยู่ในห้องไอซียู

 

 

            ด้าน วลัยลักษณ์ สุขยิ้ม (มิ้น) พนักงานร้าน เผยว่า วันที่เกิดเหตุตนก็อยู่ในเหตุการณ์ ตนจึงเรียกฟแนของตนให้เข้ามาช่วยห้าม เนื่องจากเจ้าของร้านตนนั้นตัวเล็ก และฝั่งเขาก็พาบอดี้การ์ดมาด้วย 

 

 

            ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ปัญหาของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครผิดใครถูก แต่อยู่ที่ทางตำรวจเขาไม่ยอมรับแจ้งความ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน หรือเจตนากันแน่ เพราะ มันจะให้ไกล่เกลี่ยได้อย่างไร อาการของแฟนเขาสาหัส ยังไม่รู้ว่าจะฟื้นหรือไม่ฟื้นเลย ทางตำรวจ ต้องรับแจ้งความเขา ต้องสอบสวน และควรให้หนังสือส่งตัวตรวจร่างกายผู้บาดเจ็บด้วย ขณะเดียวกัน อีกฝั่งเขามาแจ้งความแค่ว่านั่งดื่มกินกัน และมีเรื่องกัน 

 

            ทั้งนี้ ตนได้พาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความแล้วที่ สน.ลาดกระบัง นอกจากนี้ ตนรู้จัก กต.ตร. หลาย ๆ ท่าน ซึ่งทุกท่านเป็นคนดีหมด ไม่ค่อยเจอที่กร่างแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเจอ กต.ตร. กร่างแบบนี้ ทางผู้บังคับการ หรือว่าผู้กำกับหัวหน้าสถานี ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าที่มาที่ไปเขาเป็นอย่างไร ถ้ามีพฤติกรรมดังกล่าว 

 

 

            ฟาก นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) กล่าวว่า เมื่อได้รับเรื่อง ตนก็ได้ประสานไปยัง สน.จระเข้น้อย เพื่อสอบถามว่าผู้ก่อเหตุทำงานที่นั่งจริงหรือไม่ ซึ่งก็อยู่จริง และได้สอบถามไปยัง สน.ลาดกระบัง อีก เพื่อถามถึงปัญหาที่เขาไม่รับแจ้งความ โดยทางผู้กำกับ ได้ตอบว่า ผู้เสียหายอาจจะบังเอิญมาเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ใช่ร้อยเวรสอบสวน ซึ่งอาจทำให้คลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการทะเลาะวิวาท ไม่ว่าฝ่ายไหนจะมาแจ้งความ ตำรวจต้องรับแจ้งเรื่องเอาไว้ก่อน และต้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง 

 

            ขณะเดียวกัน ในประเด็นที่ คุณสมบัติของการเป็น กต.ตร. มีอยู่ข้อหนึ่ง คือ "ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี" ดังนั้นการไปทำร้ายคนอื่น มันก็ผิดศีลธรรม ควรนำ กต.ตร. คนดังกล่าวออกจากบอร์ดของตำรวจได้แล้ว เพราะเขาไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดี 

 

            พ.ต.อ. สมคิด ประเชิญสุข ผกก.สน.ลาดกระบัง เปิดเผยว่า ในกรณีนี้ ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความแล้ว ส่วนหลังจากนี้จะมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง ขณะที่ก้องวงจรปิดก็ได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเก็บมาแล้ว และในอีกส่วนหนึ่งคือต้องรอผลจากแพทย์ของผู้บาดเจ็บ เพื่อเก็บเป็นหลักฐานต่อรูปคดีต่อไป สำหรับฝั่ง กต.ตร. ได้ประสานมาว่า พร้อมจะมาให้ปากคำ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าเราจำดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นใครก็อยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน 

 

            วันนี้(23 พ.ย.) ทีมงานรายการถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปยังสาวคนสนิทของคู่กรณี โดยเธอได้บอกกับทีมงานว่า ตอนนี้ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ส่วนตัวยังไม่เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด เลยจะยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้งนั้น มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ผิด เพราะเธอเป็นฝ่ายถูกกระชากหัวก่อน