เร่งล่า ! เจ้าอาวาสวัดดัง หอบเงินกฐิน 7 แสนหายตัวเงียบ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แจ้งความเอาผิด ! เจ้าอาวาสระดับเจ้าคณะ วัดดังเมืองสุพรรณบุรี หอบเงินกฐินกว่า 700,000 หนี แถมชาวบ้านกว่า 30 ราย ให้ยืมเงินบำรุงวัดอีก 4 ล้านบาท

 

จากกรณี (20 พ.ย.) เจ้าหน้าที่การเงินของวัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี หลังเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่วัดได้มีการทอดกฐินสามัคคี ได้ยอดเงินจำนวน 717,186.75 บาท แต่ต่อมา เจ้าอาวาสวัด และยังเป็นถึงเจ้าคณะตำบล ได้นำเงินไปฝากธนาคารแห่งหนึ่ง โดยปกติต้องนำเงินดังกล่าวเข้าบัญชีของวัด แต่ผลปรากฏว่า เมื่อไปตรวจสอบยอดเงินในบัญชีของวัด ปรากฏว่า ไม่มีเงินกฐินเข้าบัญชีวัดแต่อย่างใด อีกทั้ง หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสดังกล่าวได้อีกเลย จึงเชื่อว่าเงินกฐินของวัดอยู่ที่เจ้าอาวาส จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินการตามกฎหมาย

 

นายฉลอง วงษ์จันทร์ เจ้าหน้าที่การเงินของวัด เปิดเผยว่า หลังงานทอดกฐิน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พอนับเงินกฐินเสร็จ ทางเจ้าอาวาส แจ้งว่า จะนำเงินไปเข้าบัญชี ทีแรกก็ไม่รู้ว่าเงินเข้าบัญชีหรือยัง เพราะสมุดบัญชีอยู่ที่อาจารย์ จนกระทั่งมารู้สึกผิดสังเกตุ คือ วันที่ 17 พฤศจิกายน เจ้าอาวาส หายตัวไป วันที่ 20 พฤศจิกายน ตนเองจึงได้ไปหาสมุดบัญชี แล้วนำไปปรับสุด ปรากฏว่า ไม่มีเงินในบัญชี ส่วนตัวคิดว่าทางเจ้าอาวาส นำเงินไปแน่ ๆ

 

นอกจากเงินวัดแล้ว ก็ยังมีเงินที่เจ้าอาวาสไปยืมชาวบ้านมาส่วนตัว อย่างตนเองเจ้าอาวาสยืมไป 60,000 บอกว่า ยืมไปช่วยญาติที่เดือดร้อน อีกทั้งยังพบชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ถูกยืมเงินไปมีอีก 38 ราย ยอดรวม ๆ กันประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนตัวอยากให้เจ้าอาวาสเอาเงินกฐินมาคืนวัด แต่ในส่วนเรื่องเงินส่วนตัวที่ยืมไป อันนี้ก็เป็นเรื่องของท่านเอง ส่วนอุปนิสัยของเจ้าอาวาสปกติเป็นคนนิสัยดี พูดจาหยอกล้อหัวเราะร่าเริง ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

 

ด้านชาวบ้านอย่าง นายลภัสวัฒน์ อภิศภัทรวสุ อายุ 58 ปี กล่าวว่า พอรู้เรื่องก็รู้สึกช็อก ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะแต่ที่รู้จักท่านมา ท่านก็เป็นคนดี พัฒนาวัดให้เจริญขึ้นมาเยอะ ชาวบ้านก็รักท่านทุกคน แต่พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียความรู้สึก ตอนนี้ก็ยังเชื่ออยู่ว่า อีกไม่กี่วันท่านก็คงจะกลับมา ส่วนที่ผ่านมา ท่านมีปัญหาอะไรก็ไม่เคยมีการกล้าถาม ประกอบกับ ท่านเองก็ไม่เคยพูด ถ้าตอนนี้ทางเจ้าอาวาสได้ดูข่าวอยู่ อยากให้ท่านกลับมา ช่วยพัฒนาวัดเหมือนเดิม

 

ส่วนเรื่องคดี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการวัด ผู้ดูแลเงินของวัด เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ก็ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของเจ้าอาวาส ส่วนในเรื่องของเส้นทางการเงินที่จะต้องเข้าในบัญชีของวัดอย่างไร ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และอยู่รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากนั้นก็จะดูว่า เข้าข้อกฎหมายในเรื่องใด และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นในเรื่องของการติดตามเจ้าอาวาส มาสอบสวนว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องดำเนินการไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้น อยากฝากไว้เป็นบทเรียนให้กับหลายวัด อยากให้แต่ละวัดมีการวางมาตรการแนวทางการควบคุมให้เกิดความรัดกุมและปลอดภัยมากขึ้น

 

ส่วนความคืบหน้าล่าสุด ทีมข่าวไปได้กล้องวงจรปิด ที่ บขส.สุพรรณบุรี พบ วินาที เจ้าอาวาสวัดดังคนดังกล่าว ได้เดินทางมายัง บขส.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ช่วงเวลา 13.30 น. ส่วนจุดปลายทางยังไม่แน่ชัดว่า ไปที่ไหน อยู่ระหว่างติดตาม

 

ซึ่งก็ต้องบอกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังศรัทธาเจ้าอาวาสองค์ดังกล่าว เพราะพัฒนาวัดจนเจริญ ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย จึงทำให้เวลาท่านมาขอยืมเงินชาวบ้าน 50,000 - 100,000 บาท ชาวบ้านก็ให้ ไม่ต้องมีหนังสือสัญญา ให้ยืมปากเปล่าเลย เพราะคิดว่าท่านทำเพื่อวัด อีกทั้งเสียงส่วนใหญ่ยืนยันว่า ท่านจะกลับมา และยังบอกอีกว่า อย่าเพิ่งไปฟันธง ให้โอกาสท่านก่อน