ยายสุดช้ำ ทำนา 50 ไร่ อ้างถูกครูมาไล่ที่ แจ้งข้อหาบุกรุก พร้อมเอารถมาเกี่ยวข้าวของตนเองไปจนหมด แจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบ แถมอีกฝ่ายอ้างว่ามีโฉนดที่ดินอยู่ในมือ
วันที่ 21 พ.ย. 66 คุณเสน่ห์ โอรสรัมย์ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ในที่ดินผืนนี้มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นมรดกจากพ่อของตน จนเมื่อปี 2553 ตนได้เข้าไปทำนาในที่ดินตามปกติ มีครูคนหนึ่งในพื้นที่มาอ้างว่าที่ดินนี้เป็นของเขา ตนถูกอีกฝ่ายไล่ไม่ยอมให้เข้าไปเกี่ยวข้าวที่ตัวเองปลูกไว้ แถมถูกแย่งเกี่ยวข้าวไปต่อหน้าต่อตา ยืนยันว่าที่ดินผืนนี้เป็นของตนจากหลักฐานเอกสาร นส.3 แต่พ่อยังไม่ได้ทำการโอนที่ดินมาให้ตน
คุณเอ (นามสมมติ) สามีของคุณครูคู่กรณี ชี้แจงว่า ที่ดินผืนนี้เคยเป็นของคุณพ่อของคุณเสน่ห์จริง โดยพ่อของภรรยารับฝากขายที่ดินมาจากพ่อของคุณเสน่ห์ตั้งแต่ปี 2515 จนกระทั่งพ่อของคุณเสน่ห์เสียชีวิตในปี 2519 ที่ดินจึงตกเป็นของพ่อภรรยาตนเนื่องจากหลุดจำนอง ที่ดินผืนนี้เคยเป็นคดีความฟ้องร้องกันมาแล้วเมื่อปี 2553 ซึ่งตนเป็นฝ่ายชนะคดี ส่วนเรื่องที่ตนไปเกี่ยวข้าวของคุณเสน่ห์ ชี้แจงว่าเป็นข้าวของตนปลูกเองไม่ใช่ข้าวของคุณเสน่ห์
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) กล่าวว่า ในกรณีที่คุณเสน่ห์อ้างว่าเป็นที่ดินมรดกจากพ่อจะต้องไปตรวจสอบย้อนหลัง เกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์หรือการใช้ประโยชน์ในพื้นที่กับกรมที่ดิน ก็จะได้ความชัดเจนว่าใครคือเจ้าของที่ดินตัวจริง
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้คำแนะนำมุมกฎหมายว่า คุณเสน่ห์ต้องยืนยันว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง ส่วนการสืบหาเจ้าของที่ดินตัวจริงจะต้องสืบย้อนกับกรมที่ดิน เมื่อรู้ว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริงก็จะต้องยอมรับให้ได้ ถ้าหากติดใจเรื่องการโอนอย่างไม่ถูกต้อง สามารถฟ้องเพิกถอนสิทธิ์ในที่ดินผืนนี้ได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
-
+ อ่านเพิ่มเติม