ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทุกวันนี้มีชาวบ้านถูกมิจฉาชีพหลอกกันอยู่รายวัน แต่นี้ก็ไม่แปลก เพราะชาวบ้านบางรายเข้าไม่ถึงวิธีการของมิจฉาชีพ แต่ถ้าเป็นระดับดารานักแสดงกับนักธุรกิจถูกมิจฉาชีพหลอกนี้สิ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนระดับนี้จะมีความรู้ และจะคอยระวังตัวมาก แต่ยังถูกมิจฉาชีพหลอกได้ มาดูกันว่ามิจฉาชีพใช้วิธีการอะไร
นายภาคภูมิ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ Youtuber ชื่อดัง ได้พา นางสาวเพ็ญพร วงศ์นพรัตน์เลิศ หุ้นส่วนบริษัทรองเท้า และ นายวรินทร มิชาส์ ซึ่งทั้ง 2 เป็นผู้เสียหาย เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พลตำรวจตรี ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง เนื่องจากทั้งสองถูกหลอกขายนาฬิกาหรู สูญเสียเงินมูลค่าไปรวมทั้งสิ้น 3 ล้านบาท
ดีเจภูมิ ระบุว่า เนื่องจาก นางสาวเพ็ญพร ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ต้องการจะลงทุนซื้อนาฬิกาหรูรุ่นเดียวกับที่ตนใส่ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ปกติแล้วราคาอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนของตน ส่งมาว่ามีเพจหนึ่งขายนาฬิการุ่นเดียวกันในราคาล้านกว่าบาท ชื่อเพจ Aaron Rolex Daytona Loki 2019 ซึ่งตอนนี้เพจดังกล่าวปิดหนีไปแล้ว ตนเห็นว่าราคาดี จึงส่งเพจนี้ให้ นางสาวเพ็ญพรดู เพื่อนำไปติดต่อซื้อขายนาฬิกา แต่กลายเป็นว่า เป็นเพจหลอกขายนาฬิกาที่สร้างความเสียหายนับล้านกว่าบาท และยังมี นายวรินทร เป็นผู้เสียหายอีกราย จึงพากันเข้ามาแจ้งความให้ตำรวจไซเบอร์ดำเนินคดีในเรื่องนี้
ด้าน นางสาวเพ็ญพร กล่าวว่า เมื่อตนได้ติดต่อไปในเพจดังกล่าว ทางเพจได้แจ้งว่าให้แอด LINE ตนก็ดำเนินการแอดไลน์ไป หลังจากนั้นทางฝั่งผู้ขาย ก็ได้โทร LINE มาหาตน ทำให้ตนเชื่อใจว่าน่าจะเป็นของจริง แต่เนื่องจากติดขัดทางด้านภาษา เพราะฝั่งนู้นพูดจีน ปนอังกฤษ เลยเปลี่ยนมาเป็นการแช็ตทางข้อความแทน
หลังจากนั้น ช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ตนกับฝั่งผู้ขายจึงได้นัดหมายที่จะมาดูนาฬิกาที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งทางฝั่งผู้ขายอ้างว่า เนื่องจากไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ เลยจะส่งตัวแทนนำนาฬิกามาให้ดูแทน เมื่อมาถึงตามที่นัดหมาย ตนก็ได้พบกับคนที่นำนาฬิกามาให้ ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นเจ้าของนาฬิกาตัวจริง โดยตนกับเจ้าของนาฬิกาก็ได้ตรวจเช็คนาฬิกาแล้วพบว่าเป็นนาฬิกาจริง จึงพิมพ์ไปยังผู้ขายว่าตกลงที่จะซื้อ ทางฝั่งผู้ขายจึงแจ้งมาว่า ขอให้โอนเงินเป็นสกุลคริปโตเคอเรนซี่แทน
เพราะเนื่องจากการโอนเงินระหว่างประเทศมีข้อจำกัดหลายอย่าง เลยต้องการให้โอนเป็นสกุลดิจิตอลจะดีกว่า ตนจึงโอนเงิน สกุลดิจิตอลไปประมาณ 40,000 USDT หรือ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 1,500,000 บาท และเอาเงินสดให้ผู้ที่นำนาฬิกามา 300,000 บาท
ปรากฏหลังจากโอนเสร็จ ฝั่งผู้ที่นำนาฬิกามาให้ดู กลับบอกตนว่า เงินยังไม่เข้าตน ตนเป็นเจ้าของนาฬิกาตัวจริง ตนจึงรู้ทันทีว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอกว่าเป็นเจ้าของนาฬิกา ให้โอนเงินเข้าบัญชี
ติดตามประเด็นนี้ในรายการ “ถกไม่เถียง” กับ ทิน โชคกมลกิจ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม