ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มูลนิธิเป็นหนึ่ง ร่วมกับบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา บุกช่วยเหลือเด็กหญิงลูกครึ่งไทย ไนจีเรีย วัยขวบเศษ ออกมาจากบ้านพักของเจ้าหนี้ หลังแม่ของเด็กถูกบังคับไปทำงานต่างประเทศนำเงินมาใช้หนี้ แถมขู่จะเอาลูกไปให้ชาวกัมพูชาเลี้ยง หากไม่โอนเงินมาใช้หนี้ โดยระหว่างบุกช่วยเจ้าหนี้รายนี้ไม่ยอมคืนเด็ก จนปะทะคารมกันเจ้าหน้าที่
นี่เป็นเหตุการณ์ขณะ นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ตัวแทนจากมูลนิธิเป็นหนึ่ง พยายามเจรจาขอเด็กหญิงวัยขวบเศษคืนกลับสู่อ้อมอกผู้เป็นแม่ หลังเด็กน้อยคนนี้ถูกเจ้าหนี้นำมากักขังไว้ที่บ้านหลังนี้ เพื่อเป็นข้อต่อรองกับแม่เด็ก เพราะแม่เด็กเป็นหนี้อยู่ 300,000 บาท แล้วเจ้าหนี้รายนี้บังคับต่าง ๆ นา ๆ ให้แม่เด็กไปทำงานเพื่อโอนเงินมาใช้หนี้
เจรจาอยู่นานไม่เป็นผล เพราะทาง ป้านก เจ้าหนี้ไม่ยอม และปฏิเสธว่าเด็กหญิงไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ ก่อนปะทะคารมกันเดือด ต่อมาลูกสาวของป้านก โทรศัพท์มาอ้างว่า ไม่ได้กักขังเด็ก มีหนังสือสัญญาในการเลี้ยงดูเด็กหญิง และแม่ของเด็กติดหนี้แม่ของตนเองอยู่ พร้อมอ้างว่าตนเองเลี้ยงเด็กหญิงคนดังกล่าวดี กินอยู่เหมือนลูก
ต่อมาทาง มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้ปรึกษากับทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมให้น้องสาวของแม่เด็ก ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าเข้ามาช่วยเจรจาขอเด็กคืน แต่ก็ยังไม่เป็นผล สุดท้ายต้องประสานกำนันในพื้นที่มาช่วยคุยจน ป้านก เจ้าหนี้ยอมคืนเด็กให้ ซึ่งเด็กหญิงอยู่ในอาการตกใจร้องไห้
เจ้าหน้าที่จึงวิดีโอคอลหาแม่เด็ก พอเด็กเห็นหน้าแม่ในโทรศัพท์ เด็กจึงมีอาการสงบลง ก่อนพาตัวออกไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ เพื่อลงบันทึกประจำวัน และมอบเด็กให้ทางน้าสาวเลี้ยงดู เพื่อรอแม่ของเด็กเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ด้าน คุณต้นอ้อ ตัวแทนจากมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า เคสนี้ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากแม่ของเด็กหญิง ขอให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยก่อนหน้านี้ แม่ของเด็กได้รู้จักกับ ป้านก ก่อนขอกู้เงินนอกระบบ จำนวน 100,000 บาท รวมต้นและดอกเบี้ยแล้วต้องจ่ายถึง 300,000 บาท เมื่อยอดเงินเยอะขึ้น ทำให้ ป้านก เริ่มกดดัน จนแม่ของเด็กต้องยอมไปทำงานที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยแม่เด็กต้องไปกู้เงินจากเจ้าหนี้อีกราย มาอีก 200,000 บาท เพื่อเดินทางไปทำงาน ระหว่างที่กำลังจะเดินทางไปทำงาน ป้านก ได้นำเอกสารการเลี้ยงดูบุตรมาให้แม่ของเด็กเซ็น ในสัญญาระบุต้องเสียค่าเลี้ยงดูบุตรสาวเป็นรายเดือน เดือนละ 12,000 บาท และเมื่อลูกสาวอายุเลย 2 ขวบแล้วจะต้องเสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 13,000 บาท ส่วน 3 ขวบ ก็เสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 14,000 บาท
โดยไม่เกี่ยวกับเงินหนี้สิน 300,000 บาท รวมดอกเบี้ยที่แม่ของเด็กได้กู้ไป ซึ่งเธอไปทำงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีที่ผ่านมา ได้เงินมาก็ต้องคืนเจ้าหนี้ที่ยืมไปจำนวน 200,000 บาทก่อน จึงไม่มีเงินส่งมาให้ ป้านก เจ้าหนี้รายแรก ทำให้ ป้านก ข่มขู่ บอกว่าจะนำลูกสาวไปให้ชาวกัมพูชาเลี้ยง พอแม่เด็กวิดีโอคอลมาหา ก็ถูกตัดสายทิ้ง ไม่ยอมให้พบเจอลูกสาว หากไม่โอนเงินค่าเลี้ยงดู และเงินที่ติดหนี้ตามที่ตกลงกันไว้มาให้ ซึ่งทั้งหมดมีหลักฐานเป็นข้อความแช็ตระหว่าง ป้านก กับแม่ของเด็ก ทางมูลนิธิจึงเดินทางเข้ามาช่วยเหลือเด็กหญิง เพื่อไม่ให้เด็กถูกเป็นเครื่องมือต่อเรื่อง ส่วนเรื่องหนี้สินก็ให้ แม่เด็ก และ ป้านก มาพูดคุยเจรจาหาทางออกกันใหม่
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม